บทที่ 5 เจ้านายขี้เหวี่ยงกับลูกน้องหน้ามึน
คฤหาสน์ครอบครัวมีอา
คุณหนูสาวผลักบานประตูห้องนอนบนชั้นสามของตัวเอง ตั้งใจว่าจะลงไปหยิบน้ำดื่มเสียหน่อย แต่ร่างสูงโปร่งที่สุดทางเดินก็ทำให้ฝีเท้าเล็กหยุดไปเสียก่อน
ดวงตากลมสวยหรี่มอง เนื่องจากตอนนี้เกือบห้าทุ่มเข้าไปแล้ว ทำให้ไฟบริเวณทางเดินถูกปิดเอาไว้
“มาร์ติน?” เสียงใสเอ่ยถาม เรียกให้น้องชายที่เตรียมจะย่องลงบันไดชะงักเท้า แต่พอหันกลับมาเขาก็ต้องระบายลมหายใจยาวด้วยความโล่งใจ
“โธ่ พี่มีอา ทำตินใจหายแวบเลย นึกว่าแม่”
น้องชายตัวสูงยกมือลูบอกป้อย ๆ เนื่องจากเสียงของมารดาและพี่สาวมีความคล้ายคลึงกันมาก
“ดึกขนาดนี้ จะออกไปไหนอีก”
คุณหนูสาวในชุดนอนลายทางแขนสั้นคู่กับกางเกงขาสั้น ปล่อยเรือนผมยาวสลวยจรดเอว ก้าวย่างเข้าใกล้ พลางไล่สำรวจการแต่งตัวคนตรงไหนด้วยความสงสัย ที่เห็นน้องชายใส่เชิ้ต เซตผม แถมยังพรมน้ำหอมเสียฟุ้ง
“ออกเที่ยวสิ ตินแต่งตัวหล่อขนาดนี้” มุมปากหยักยกขึ้น แถมยังหมุนกายอวดพี่สาวด้วยความภูมิใจอีกต่างหาก
“ห้าทุ่มเนี่ยนะ อีกไม่กี่ชั่วโมงผับก็ปิดหมดแล้ว”
“จุ๊ ๆ ใครบอกจะไปผับ ตินนัดกับพวกอเล็กซ์ที่สนามแข่งเปิดใหม่ต่างหาก”
“อย่าบอกนะว่าจะลงแข่งอีก ถ้ารอบนี้ตินเอารถไปเดิมพันอีกรับรองคุณพ่อกับคุณแม่ถลกหัวตินแน่” มีอาทำหน้าเครียด ไม่เห็นด้วยอย่างยิ่งที่น้องชายจะไปสถานที่แบบนั้น
“บ่นเก่งเหลือเกินพี่สาว เดี๋ยวหน้าก็เหี่ยวหมดหรอก ดูดิ๊ ตรงนี้เป็นรอยแล้วเนี่ย”
ปลายนิ้วยาวจิ้มไปยังช่องว่างระหว่างที่หัวคิ้วขมวดเป็นปมของพี่สาวเป็นการหยอกล้อ แล้วก็ถูกสาวสวยปัดมือทิ้ง ปั้นหน้าบึ้ง
“นายก็เที่ยวเก่งเกินไปแล้วติน แล้วพรุ่งนี้จะตื่นไปเรียนไหวได้ไง”
“บู้ บู้ บู้ ~ ไม่รู้ไม่ฟัง ผมไปละ”
“ดะ...เดี๋ยวก่อนสิ”
เธอร้องเรียก แต่น้องชายตัวดีก็อุดหู เบือนหน้าหนีแล้วก้าวลงบันไดไปอย่างรวดเร็ว ปล่อยให้พี่สาวได้แต่หงุดหงิดกับความกะล่อนกวนอารมณ์ของอีกฝ่าย
คุณหนูสาวพ่นลมหายใจยาว ท่อนขาเล็กก้าวลงจากบันไดตามหลังน้องชายไปติด ๆ แต่ครั้งนี้ไม่คิดห้ามอีกแล้ว ในเมื่อเตือนไปหมดแล้ว หากเขาไม่ฟังก็ปล่อยให้คุณพ่อคุณแม่จัดการเอง
มาร์ตินหันมายกยิ้มโบกมือร่ำลาพี่สาวหน้าระรื่นตอนที่ทั้งคู่ลงมาถึงชั้นล่าง แล้วชายหนุ่มก็แยกเดินออกจากบ้านไป ส่วนมีอาก็เดินไปยังห้องครัว หยิบน้ำดื่มดับกระหายตามที่ตั้งใจแต่แรก
ร่างเย้ายวนกลับขึ้นมาบนห้องนอนตนเองอีกครั้ง ก้านนิ้วยาวเอื้อมกดปิดสวิตช์ไฟ ทั้งห้องตกอยู่ในความมืด มีเพียงโคมสีส้มหัวเตียงให้ความสว่างเท่านั้น
ท่อนขาเพรียวก้าวยาวขึ้นเตียง คว้าโทรศัพท์มือถือขึ้นมาเปิดดูข่าวความเคลื่อนไหวในโลกโชเซียล แล้วก็พบภาพน้องสาวคนสนิทอย่างแอลลี่ในชุดหนังสุดเซ็กซี่ยืนกอดอกถ่ายรูปคู่กับรถของมาร์ตินที่เพิ่งชนะการเดิมพันมา พร้อมแคปชันเยาะเย้ยเล็กน้อย แต่ก็ไม่ได้แท็กหาเจ้าตัว คงกะจะรอให้มาร์ตินมาเห็นเอง พร้อมเช็กอินอยู่สถานที่แห่งหนึ่ง ด้วยความสนใจมีอาจึงกดเข้าไปดู ก็พบว่าเป็นสนามแข่งรถแห่งหนึ่ง ที่ไม่ใช่ของลุงวิคเตอร์ นี่คงเป็นจุดนัดหมายของพวกเขาในคืนนี้แน่
ปลายนิ้วเล็กกดเข้าไปดูเหล่าคำขอขอติดตามเช่นทุกวัน ไล่ ๆ ดูผ่านตา แต่ก็ไม่เห็นว่าจะมีคนรู้จัก ตั้งใจจะกดปิดทิ้งไป แต่สายตาคู่สวยก็สะดุดกับรูปโพรไฟล์หนึ่งเข้า
มีอานอนมอง แล้วจึงกดเข้าไปดูด้วยความสนใจ
ภาพใบหน้าหล่อเหลาของชายคนหนึ่งปรากฏขึ้นมา เขามีเรือนผมสีน้ำตาลอ่อน ดวงตาสีอัลมอนด์มีเสน่ห์จ้องตรงมายังกล้องราวกับจะสะกดใจคนที่ได้มอง เครื่องหน้าบ่งบอกชัดว่าเป็นลูกครึ่งแน่ ๆ ตอนแรกมีอาก็คิดว่าคงเป็นนายแบบ เน็ตไอดอลสักคน จึงได้ไล่ดูภาพที่อีกฝ่ายลง แต่ก็ไม่มีอะไรมากกว่าภาพแก้วเหล้า ภาพกลุ่มเพื่อน มองอย่างไรก็ดูเป็นบุคคลอันตราย
ดวงตากลมไล่มองชื่อไอดี @H_Aston ปลายนิ้วนิ่งค้างอยู่ที่ปุ่มจะกดยอมรับหรือปฏิเสธ
หญิงสาวลังเลอยู่ชั่วอึดใจ ก่อนจะเลือกปัดมันทิ้งไป ปล่อยค้างเอาไว้แบบนั้น แล้วออกจากแอปพลิเคชัน เตรียมตัวเข้านอน
อีกด้าน
โรงแรมแกรนด์ เดอ ลาส
ร่างสูงโปร่งของลูกชายเจ้าของคาสิโนนอนเอกเขนกอยู่บนโซฟาตัวยาวกลางเพนต์เฮาส์ชั้นบนสุดของคาสิโน ที่เคยเป็นห้องเก่าที่บิดาเคยใช้อาศัย แต่ตอนนี้ทั้งคู่ย้ายออกไปอยู่ยังคฤหาสน์หลังใหญ่แล้ว ทำให้เขายึดมันมาครอบครองแทน
ท่อนขาแกร่งยกขึ้นไขว้อย่างเกียจคร้าน ยกโทรศัพท์ในมือขึ้น จับจ้องไม่วางตา กดสลับออกสองแอปไปมา แต่คำขอเพิ่มเพื่อนที่ถูกส่งไปหลายชั่วโมงก็ยังไม่ถูกอนุมัติเสียที จนเขาเริ่มหงุดหงิด
“อะไรวะ หรือว่าไม่เห็น” เสียงทุ้มพึมพำออกมาเบา ๆ
ยังคงมั่นใจในหน้าตาตัวเองสุด ๆ ว่าหากเธอได้เห็นอย่างไรก็ต้องกดรับเพื่อนเขาแน่ ๆ แถมนี่ยังเป็นครั้งแรกที่แอซตันจะเป็นฝ่ายรุกจีบใครสักคน
ความขุ่นเคืองเริ่มเพิ่มมากขึ้นเรื่อย ๆ เขาไม่มีอารมณ์จะทำอะไรทั้งสิ้น เอาแต่จดจ้อง ลุ้นว่าเมื่อไรยัยคนสวยจะกดรับเพื่อนเสียที จนกระทั่งเวลาล่วงเลยไปถึงเที่ยงคืน ความอดทนของแอซตันก็สิ้นสุด
“แม่งเอ๊ย หยิ่งอะไรนักหนา คิดว่าสวยมากเลยนะสิ”
เขาสบถออกไปด้วยความหงุดหงิด ก่อนจะชะงักไปเล็กน้อย แล้วพึมพำเสียงเบา
“แต่ก็สวยจริง ๆ แหละ”
“เฮ้ออออออออ ~ อะไรวะเนี่ย ทำไมไม่ยอมกดรับเพื่อน ไม่รู้เลยเหรอว่านี่แอซตัน แฮนเดอร์สันเลยนะโว้ย”
แอซตันบ่นยาวเหยียด ถามตอบกับตัวเองเป็นตุเป็นตะ แทบอยากจะเขวี้ยงโทรศัพท์ในมือทิ้งระบายความอึดอัดในใจที่เกิดขึ้น
“ให้โอกาสเธอถึงพรุ่งนี้เท่านั้นนะ ถ้ายังกล้าเมินฉันอีก ได้เห็นดีแน่”
หากใครมาเห็นเสือผู้หญิงสุดหล่อชี้นิ้วข่มขู่โทรศัพท์คงได้มีหัวเราะกันบ้างแหละ ชายหนุ่มหยัดกายขึ้นนั่ง คว้าซองบุหรี่บนโต๊ะเตี้ยเบื้องหน้า เคาะเล็กน้อย ใช้ริมฝีปากคาบก้นกรองด้วยความชำนาญ ก่อนจะใช้ไฟแช็กเผาปลายมวน อัดกลุ่มควันขาวเข้าปอดเฮือกใหญ่ ซึ่งมันก็ไม่อาจจะดับความร้อนรุ่มในจิตใจเขาได้
ปลายนิ้วหนาเคาะท่อนขาตัวเอง แล้วจึงตัดสินใจคว้าโทรศัพท์มือถือกดต่อสายหาลูกน้องคนสนิท เพื่อใช้เป็นเครื่องระบายความหงุดหงิด
ตืด ตืด
คนอารมณ์ร้อนสูดหายใจเข้าออกหลายครั้ง รอจนกระทั่งสายถูกตัดเข้าระบบฝากข้อความ ความเดือดดาลก็พุ่งสูงกว่าเก่า กดรัวสายซ้ำอีกรัว ๆ จนกระทั่งเสียงงัวเงียดังออกมาจากปลายสาย
(ฮัลโหล ~ นี่คุณแอซตันไม่มีนาฬิกาหรือไงครับ ถึงไม่รู้ว่าตอนนี้มันดึกแล้ว)
“ไอ้เก้า! นี่มึงเป็นเจ้านายหรือลูกน้องกันแน่ถึงกล้าบ่นกู ลุกจากที่นอนแล้วขึ้นมาหากูเดี๋ยวนี้เลย” แอซตันตะคอกเสียงแข็งกร้าวใส่โทรศัพท์ นับวันไอ้ลูกน้องตัวดียิ่งทำเขาปวดหัวเหลือเกิน
(มีเรื่องอะไรครับ แจ๊บ ๆ ค่อยคุยตอนเช้าไม่ได้เหรอ)
“ถ้ามึงไม่ถึงห้องกูภายในห้านาที กูจะลงไปกระทืบมึงถึงห้องแน่”
(โห่ ~ นายใจร้ายว่ะ เดี๋ยวเก้าจะฟ้องกรมแรงงาน)
“ไอ้เก้า!”
(ครับ ๆ ไปแล้วครับนาย อย่าเพิ่งตะโกน ไอ้เก้าหูตึงไปข้างแล้วครับ)
“ไอ้!”
ยังได้ทันจะได้เปิดปากด่ามันเพิ่ม ไอ้ลูกน้องหน้ามึนก็ชิ่งกดวางสายไปก่อน สร้างความหงุดหงิดให้เขาหนักกว่าตอนแรกด้วยซ้ำ
คนสนิทรักษาเวลาดี เพราะไม่ถึงห้านาทีหนุ่มหน้าเข้มแต่สมองทึบก็เดินขยี้ตาง่วงงุนสุดขีดเข้ามาจริง ๆ
ดวงตาคมกริบไล่มองการแต่งกายของมันก็ได้แต่ทอดถอนใจ
“ถามจริง? นี่มึงแต่งตัวแบบนี้นอน”
“ทำไมครับ ผมว่าน่ารักดีออก”
“ชุดนอนลายโดเรม่อนเนี่ยนะ! บอกกูทีว่ามึงเป็นบอดี้การ์ดของกู!”
“นี่มันรสนิยมส่วนตัวนะครับนาย ต่อให้ผมจะทำงานอะไรแต่นายก็ไม่มีสิทธิ์มาก้าวก่ายชุดนอนผมนะ” ลูกน้องหนุ่มยังเถียงกลับหน้ามึน ๆ เริ่มทำเส้นขมับแอซตันเต้นตุบ ๆ อยากจะปลดมันออกจากตำแหน่งเสียเหลือเกิน
“ช่างเรื่องชุดนอนมึงเถอะ...กูต้องการข้อมูลทุกอย่างของผู้หญิงคนนั้นเท่าที่จะหาได้ ภายในคืนนี้!”
“คืนนี้?” เก้าทวนเสียงเบา หันมองนาฬิกาบอกเวลาก็พบว่าตอนนี้เข็มสั้นชี้ไปที่เลขสิบสอง ส่วนเข้มยาวชี้ไปที่เลขห้าเข้าไปแล้ว
“นายกะไม่ให้ไอ้เก้านอนเลยนะนั่น ทั้งที่ตลอดเวลาไอ้เก้าคนนี้ก็ดูแล รับใช้นายอย่างดีมาตลอด”
“ดีกับผีน่ะสิ! แค่งานง่าย ๆ แต่มึงใช้เวลาตั้งสามชั่วโมง แต่ได้กลับมาแค่ชื่อเฟซกับไอจี กูไม่ไล่มึงออกก็บุญแล้วไอ้เก้า!” แอซตันกัดกรามกรอด งงตัวเองจริง ๆ ที่ตกลงรับไอ้ลูกน้องหน้ามึน เถียงเก่งมาเป็นคนข้างตัว
“นายไม่กล้าไล่ไอ้เก้าออกหรอก ถ้าไม่ใช่ไอ้เก้าคนนี้ ก็ไม่มีใครทนนายได้ครับ”
“มึงนี่มัน!”
คนมือไวคว้าซองบุหรี่ยกเตรียมจะขว้างใส่คนตรงหน้า แต่พอเห็นมันรีบยกมือขึ้นป้องใบหน้า เขาก็ได้แต่ทอดถอนใจแล้วยอมลดมือลง
“เลิกเถียงสักที ไปหาข้อมูลมาซะ”
“แค่สาวไม่รับแอด นายต้องมาทารุณไอ้เก้าเลยเหรอครับ” คนง่วงยังบ่นกระปอดกระแปดไม่เลิก จนแอซตันเริ่มคิดว่าใครกันแน่ที่เป็นเจ้านาย
“ถ้ามึงยังพูดมากอีกทีนะไอ้เก้า กูจะยันมึงร่วงจากชั้นแปด!” เขาเอ่ยเสียงแข็ง ส่งสายตาเหี้ยมเกรียมข่มขู่ ลูกน้องคนสนิทจึงได้แต่พ่นลมหายใจยาว ทิ้งกายนั่งขัดสมาธิบนพื้นต่อหน้าเขาเลย แล้วล้วงโทรศัพท์ตัวเองออกมากดพิมพ์บางอย่างลงในนั้น
“ทำอะไรของมึงไอ้เก้า”
“ก็หาข้อมูลให้นายไงครับ”
“จากกูเกิลเนี่ยนะ” แอซตันถามอย่างไม่อยากจะเชื่อหู
“นายอย่าบู้บี้สิ อยากรู้อะไรก็หาในนี้เอา พี่กูเกิลรู้ทุกเรื่องนั่นแหละ”
ลูกชายเจ้าของคาสิโนถึงกับกุมขมับ ออกแรงบีบคลึงหนัก ๆ บรรเทาอาการปวดหัวที่เกิดขึ้นจากไอ้คนสนิท ถึงขนาดทนมองหน้ามันต่อไม่ไหว ไม่อย่างนั้นคงได้เผลอเตะมันสักป๊าบแน่ ๆ
เขาหยัดกายขึ้นเต็มความสูง หมุนกายตั้งใจจะไปอาบน้ำให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นขึ้นบ้าง แต่น้ำเสียงตัดพ้อของไอ้เก้าก็ดังขึ้นจากด้านหลังก่อน
“นายจะชิ่งหนีไปนอนก่อนไม่ได้นะ ในเมื่อนายโทรปลุกไอ้เก้ามานั่งทำงาน นายก็ต้องอยู่กับไอ้เก้าสิ”
“กูจะไปอาบน้ำ!” เจ้านายหนุ่มหันกลับไปตะคอกใส่ลูกน้องเสียงดัง ลูกน้องหนุ่มตัวดีจึงส่งยิ้มแห้งกลับมาให้
“งั้นรีบกลับมานะนาย ไอ้เก้าเหงา”
“กูปวดหัวกับมึงมาก!”
แอซตันใช้เวลาอยู่ในห้องน้ำเกือบชั่วโมง และเมื่อออกมาก็เห็นลูกน้องตัวดีฉีกยิ้มกว้างส่งมาให้ ไม่เชื่อก็ต้องเชื่อว่ามันสามารถหาข้อมูลของสาวคนนั้นจากอินเทอร์เน็ตได้จริง ๆ
ข้อมูลเท่าที่มันหาได้ถูกส่งเข้ามาในมือถือของเขาเรียบร้อย
ดวงตาคมกริบไล่อ่านด้วยความสนใจ ก็พบว่ามีอา หรือว่า นางสาว มัลลิกา อาเจนเตโร่ เป็นลูกสาวคนโตของ นักธุรกิจชื่อดังของเมืองไทย ครอบครัวเธอทำเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ทั้งบ้านจัดสรรทั่วไปที่กระจายอยู่ทั่วประเทศ ไปจนถึงหมู่บ้านของกลุ่มไฮโซ ได้รับความนิยมจากกลุ่มลูกค้ากระเป๋าหนักเป็นจำนวนมาก
เขาจดจ่ออยู่กับข้อมูลตรงหน้า พอลูกน้องคนสนิทกระซิบขอตัวเสียงเบา เขาจึงไม่ได้ยิน กว่าจะรู้ตัวไอ้เก้าก็ชิ่งหนีกลับไปนอนต่อเสียแล้ว
ร่างสูงพ่นลมหายใจยาว เลิกสนใจไอ้เก้าแล้วกลับมาอ่านข้อมูลของสาวสวยต่อ ยิ่งอ่านก็ยิ่งทึ่ง และแรงฮึดอยากเอาชนะก็เพิ่มมากขึ้น หลังจากได้เห็นโพรไฟล์เริ่ด ๆ ของเธอ มีอาไม่ได้มีดีแค่ความสวยกับฐานะครอบครัวเท่านั้น ชื่อของเธอปรากฏในหลายเว็บไซต์เนื่องจากเป็นเด็กกิจกรรมตั้งแต่สมัยอยู่ชั้นมัธยม เธอลงแข่งและประกวดหลายรายการ ทั้งแบดมินตัน หรือจะเป็นการแข่งขันทางวิชาการ หญิงสาวก็สามารถคว้าตำแหน่งมาได้เสมอ แถมเพจของมหาวิทยาลัยก็ยังมีข้อมูลรวมถึงรูปถ่ายในแต่ละอิริยาบถของอดีตดาวมหาลัยคนสวยมากมาย ทั้งสมัยประกวดดาวและเดือนมหาลัย หรือตอนเธอเป็นเชียร์ลีดเดอร์ของคณะ รวมถึงภาพมีอาตอนแข่งแบดมินตันด้วย
พอเห็นดังนั้นแอซตันก็เริ่มคิด ว่าบางทีเขาอาจจะเป็นฝ่ายที่โง่เอง ทั้งที่สามารถหาข้อมูลของเธอทุกอย่างได้จากปลายนิ้วตนเอง
‘ไอ้เก้า กูขอโทษแล้วกัน’