บท
ตั้งค่า

บทที่ 6 เรื่องน่าปวดหัวของคุณหนู

เช้าวันต่อมา

ชายหนุ่มสะดุ้งตื่นขึ้นมาตั้งแต่เช้า เพราะมีเสียงแจ้งเตือนในโทรศัพท์ ดวงตาสีอัลมอนด์ยังคงสะลึมสะลือ กระวีกระวาดคว้ามือถือที่นอนกอดขึ้นมาดูด้วยความหวังว่าสาวเจ้าจะยอมกดรับเพื่อน เรียกได้ว่าเมื่อคืนเขานั่งอ่านข้อมูลและดูภาพถ่ายของเธอจนเผลอหลับคาโทรศัพท์ไปเลย

หัวคิ้วขมวดแน่นเป็นปม เพราะคนที่ทักมารบกวนการนอนแต่เช้าไม่ใช่สาวที่เขารอ แต่เป็นอดีตนางแบบที่ทักมางอแงออดอ้อน ความหงุดหงิดก่อตัวขึ้นกลางใจ ไม่คิดแม้แต่จะพิมพ์ตอบโต้ จัดการบล็อกไอดีไลน์สาวสวยไปอย่างไม่คิดเสียดาย

ปลายนิ้วกดเข้าแอปสีฟ้าเป็นอันดับแรก พิมพ์ชื่อจริงของมีอาในช่องค้นหา ความเดือดดาลก็เพิ่มมากขึ้นตาม เพราะว่าคำขอของเขาก็ยังไม่ถูกรับ ส่วนในไอจีก็ไม่ต่างกัน

“อะไรวะ ยัยนั่นไม่ค่อยเล่นโซเชียล หรือจงใจไม่รับกันแน่”

ความมั่นใจถูกลดทอนลงไปเรื่อย ๆ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเป็นฝ่ายเข้าหาผู้หญิง แต่กลับถูกเมินเสียแบบนั้น สร้างความขุ่นเคืองให้คนตัวสูงเป็นอย่างมาก

และคนที่ต้องมารองรับอารมณ์หงุดหงิดของเขาก็หนีไม่พ้นไอ้เก้า คนดีคนเดิมนั่นเอง

ฝ่ามือใหญ่กดโทรออกหาเบอร์ติดต่อล่าสุด และหลังจากโต้เถียงทะเลาะกับไอ้ลูกน้องหน้ามึนไปอีกยก สิบนาทีต่อมาหนุ่มหน้าเข้มร่างสันทัดก็เดินหน้ามุ่ยเข้ามาบนเพนต์เฮาส์

“นาย! นี่มันจะเกินไปแล้วนะ เก้าเพิ่งนอนได้แค่ไม่กี่ชั่วโมง นายก็โทรปลุกอีกแล้ว ถ้าเก้ายื่นใบลาออกนายจะรู้สึก!” ลูกน้องหนุ่มตัดพ้อ ดีที่รอบนี้มันเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ไม่อย่างนั้นเขาคงต้องทนมองชุดนอนลายโดเรม่อนของมันต่อ

“เฮอะ! กูจะดีใจน่ะสิไม่ว่า ที่ไม่ต้องทนปวดหัวกับมึง ตอนนี้กูชักไม่แน่ใจแล้ว ว่าใครเป็นนายใครเป็นลูกน้อง”

“ถ้าไอ้เก้าคนนี้ทนไม่ไหวจริง ๆ นายอย่ามาง้อทีหลังก็แล้วกัน”

ไอ้ลูกน้องตัวดีปั้นหน้าบึ้งใส่อย่างไม่เกรงกลัว เส้นขมับของแอซตันเต้นตุบ ๆ ไม่รู้คิดถูกคิดผิดที่ลากมันมาหาตั้งแต่เช้า

“หยุดบ่นแล้วมาช่วยกูคิด ยัยหน้าสวยคนนั้นยังไม่รับแอดกูเลย แล้วแบบนี้กูจะเดินหน้าจีบได้ไง”

“นี่นายปลุกไอ้เก้ามาตั้งแต่เจ็ดโมงเพราะเรื่องแค่นี้เองเหรอ”

“เออ! แล้วมึงจะทำไม”

“สงสัยนายจะไม่หล่อ สาวเลยไม่สนใจแน่ ๆ” หนุ่มหน้ามึนกอดอกวิเคราะห์เสียงดังแบบไม่เกรงใจว่าบัดนี้เจ้านายหนุ่มหน้าตึงเปรี๊ยะแค่ไหน

“ไอ้เก้า...” แอซตันเอ่ยเสียงเครียดลอดไรฟันเป็นการเตือน

“เก้าไม่ได้หมายความว่านายไม่หล่อ แบบนั้น แต่อาจจะไม่ตรงสเปกเธออะไรแบบนี้ไง นายคงไม่คิดว่าผู้หญิงทุกคนบนโลกจะหลงหน้าตานายใช่ไหม”

“...” คำถามใสซื่อแต่กลับจี้ใจดำเขาเหลือเกิน แน่นอนว่าแอซตันมั่นใจในรูปร่างหน้าตาตัวเองสุด ๆ จนไม่คิดว่าจะมีใครกล้าเมินใส่

“ตัดใจไหมนาย แอดไปสาวยังเมิน ถ้าจีบจริงอาจได้หน้าแหกหนักกว่านี้”

“ฝันไปเถอะ! กูไม่มีทางยอมแพ้ง่าย ๆ แบบนั้นแน่! แล้วมึงคอยดู กูจะจีบยัยหน้าสวยคนนี้ให้ได้!”

ยิ่งถูกลูกน้องปรามาส แรงฮึดมันก็เพิ่มมากขึ้น ดวงตาคมวาวโรจน์มุ่งมั่น ดูเหมือนว่าจะมีเรื่องให้เขาทำแก้เบื่อแล้ว

“แล้วนายจะทำยังไง”

“มึงต้องช่วยกูคิด!”

“แต่นี่มันเกินหน้าที่ของไอ้เก้าแล้วนะนาย นายจะใช้แรงงานไอ้เก้าแบบไม่พักไม่ได้”

“สามพัน หยุดบ่นแล้วช่วยกูคิด”

“ถ้าบอกแบบนี้ตั้งแต่แรกก็จบแล้ว”

ไอ้เก้ายิ้มกริ่มหลังจากได้ยินจำนวนเงิน ท่าทีอิดออดตอนแรกหายไปเหมือนไม่เคยเกิดขึ้น รีบแสล็นหน้าเข้ามาหากระตือรือร้นสุด ๆ

“นายให้เก้าช่วยอะไรบอกมาได้เลย ไอ้เก้าพร้อมจัดให้นายทุกอย่าง”

“ช่วยกูคิดว่าทำยังไงยัยนั่นถึงจะยอมรับเพื่อนกู”

“เอิ่มมมมม...นายลองทักไปหาสิ”

“ทักว่าอะไร”

“เอ้า! ก็แล้วเวลานายคุยกับสาว เริ่มต้นประโยคว่ายังไงล่ะ”

แอซตันหยุดคิดไปเล็กน้อย ก่อนจะตอบกลับหน้าตาย

“ก็คง...ว่างไหม วันไนต์สแตนด์ครั้งเดียวแยกย้าย ถ้าดีลเดี๋ยวไปรับ”

“เฮ้ออออออ ไอ้เก้าปวดหัวกับนายจริง ๆ” ลูกน้องมีสีหน้าเอือมระอา ส่ายหน้าเล็กน้อย

“ก็มึงเป็นคนถาม!”

“ไอ้เก้าหมายถึงเวลาคุยกับคนที่ไม่รู้จักน่ะ เริ่มต้นประโยคแบบนั้น”

“ก็กูคุยแบบนี้ไง!” แอซตันเถียงกลับ

“ทำไมนายหื่นจัง ทักหาสาวแบบนี้ไม่ถูกเขาด่าเปิงหรือไง ถ้าน้ำหน้าอย่างไอ้เก้าลองทักแบบนั้น รับรองได้ถูกลากเข้าคุก”

“นี่มึงกล้าเอาหน้าตัวเองมาเทียบกับกูเชียวเหรอวะ”

“เก้าก็แค่เปรียบเทียบ เอาเถอะ งั้นลองทักว่า...”

ลูกน้องทำหน้าครุ่นคิดไปสักพัก ส่วนเจ้านายก็ได้แต่ลุ้นว่ามันอาจจะมีไอเดียอะไรดี ๆ

“สวัสดีครับ”

“ถุ้ย! ถามจริงนี่ผ่านการไตร่ตรองในสมองมาแล้วงั้นเหรอ”

หลังจากนั้นสองเจ้านายลูกน้องก็ต่างโต้เถียงกันอยู่นาน ลองวิเคราะห์ ยกตัวอย่างหลายประโยค แต่ก็ไม่มีอะไรที่มันดูจะเข้าท่า เรียกความสนใจจากหญิงสาวได้เท่าที่ควร

และก็ไม่น่าเชื่อว่าสุดท้ายแอซตัน ก็พิมพ์ไปที่ช่องไดเรคเมสเซจของมีอาว่า ‘สวัสดีครับ’ จริง ๆ ซึ่งแน่นอนว่าอีกฝ่ายเลือกที่จะเมินมัน เหมือนกับข้อความจากคนแปลกหน้ามากมายที่ทักหาเธอ

สัปดาห์ต่อมา

หลังจากความเพียรพยายามของมีอา ในที่สุดมิลินก็สามารถเจรจาต่อรองกับสามีให้ช่วยผ่อนปรนในบางเรื่องได้แล้ว นั่นคือไคโรยอมอนุญาตให้ลูกสาวขับรถไปกลับมหาวิทยาลัยด้วยตัวเอง

แม้มันจะไม่ใช่เป้าหมายที่เธอต้องการ ก็แต่ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี

คนอื่นยังไม่รู้ แต่การที่ต้องมีคนไปรับไปส่ง คอยเฝ้าจับตาตลอดมันก็เป็นอะไรที่น่าอึดอัดพอสมควร

วันนี้คุณหนูสาวตื่นแต่เช้าด้วยความตื่นเต้น อาบน้ำแต่งกายลงมารับประทานอาหารเช้าพร้อมหน้าเหมือนกับทุกวัน ก่อนไปมหาวิทยาลัยเธอก็แวะไปสวมกอดจะหอมแก้มบิดามารดาคนละที อมยิ้มอารมณ์ดีเดินไปทางหน้าบ้าน

รถสปอร์ตสีขาวราคาแพงที่บิดาซื้อให้เป็นของขวัญตอนสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ถูกจอดรอเอาไว้ด้านหน้าเรียบร้อย แม้จะบอกว่าเป็นของขวัญ แต่มีอาเคยขับมันเพียงแค่สามครั้ง แถมทุกครั้งยังมีบิดานั่งไปด้วย เพื่อระวังความปลอดภัยให้ลูกสาว

และในทุกวันก็จะไปมหาวิทยาลัยโดยมีบอดี้การ์ดคู่ใจคอยขับรถให้ นี่จึงถือเป็นครั้งแรกที่เธอจะได้ขับรถไปไหนมาไหนด้วยตัวเอง ความยินดีพองขยายกลางอก ไล่สายตามองรถที่แทบไม่เคยได้แตะต้อง แต่แล้วสายตาพลันเหลือบไปเห็นรถที่เธอนั่งประจำจอดต่อท้าย โดยมีไอซ์ยืนตัวตรงอยู่ไม่ห่าง

“เอ่อ...พี่ไอซ์จะออกไปข้างนอกเหรอคะ” เธอยังใจดีสู้เสือ หันไปยิ้มเจื่อนถามพี่บอดี้การ์ดคนสวย

“คุณไคโรให้พี่ขับตามรถคุณหนูจนถึงมหาลัยค่ะ”

“ได้ไงกัน! ไหนคุณพ่ออนุญาตให้มีอาไปไหนมาไหนด้วยตัวเองแล้วไง”

“พี่ได้รับคำสั่งมาค่ะ”

“พี่ไอซ์รอนี่! มีอาจะไปคุยกับคุณพ่อให้รู้เรื่อง”

อารมณ์ที่เบิกบานดิ่งวูบ ร่างเย้ายวนหมุนกายกลับเข้าสู่ตัวคฤหาสน์อีกครั้ง สองเท้าย่ำหนัก ๆ ระบายความน้อยใจที่ถูกบิดาเล่นไม่ซื่อใส่

“คุณพ่อคะ!”

อดีตมาเฟียสะดุ้งน้อย ๆ ท่อนขายาวที่กำลังย่องออกจากห้องอาหารชะงักค้างไปหลังจากได้ยินเสียงลูกสาวตะโกนเรียก

“วะ...ว่าไงเหรอมีอา ยังไม่ไปเรียนอีก” ไคโรปั้นหน้ายิ้มเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น

ท่าทางหงุดหงิดของลูกสาวเริ่มทำให้คนเป็นแม่สงสัย หรี่ตามองใบหน้าหลุกหลิกของผู้เป็นสามีอย่างไม่ไว้วางใจ

“มีเรื่องอะไรกันมีอา”

“คุณแม่ดูคุณพ่อสิคะ ทั้งที่รับปากให้มีอาขับรถไปมหาลัยเองได้ แต่กลับสั่งให้พี่ไอซ์คอยขับรถตาม แบบนี้มันหมายความว่าไงคะ”

“พี่ไคทำแบบนั้นเหรอเนี่ย!” มิลินตาโต หันมองหน้าเลิ่กลั่กของสามีอย่างไม่อยากเชื่อ

“มะ...มันก็แค่”

“แค่อะไรคะคุณพ่อ มีอาโตแล้วนะคะ แค่ขับรถไปมหาลัยด้วยตัวเองคุณพ่อก็ยังไม่ไว้ใจมีอาเลยเหรอ”

“ไม่ใช่แบบนั้น พ่อก็แค่เป็นห่วง เห็นมีอาไม่ค่อยได้ขับรถเอง ช่วงแรกจึงอยากให้ไอซ์คอยขับตามประกบก่อน หากเกิดเหตุฉุกเฉินจะได้เข้าช่วยเหลือทัน”

“แล้วแบบนี้มันต่างจากที่ผ่านมายังไงคะ สุดท้ายพี่ไอซ์ก็ต้องมาขับรถตามเฝ้ามีอาทั้งไปทั้งกลับอยู่ดีใช่ไหมคะ”

“ไม่โกรธพ่อน่าคนเก่ง แค่ช่วงแรกเท่านั้น หากพ่อเห็นว่ามีอาขับรถแข็งกว่านี้ สัญญาเลยว่าจะไม่ให้ไอซ์ตามอีก”

คนเจ้าเล่ห์ก้าวเข้าใกล้ลูกสาว โอบกอดเอาไว้หลวม ๆ พยายามเกลี้ยกล่อมยกเหตุผลต่าง ๆ นานามาอ้าง ไม่นานลูกสาวหัวอ่อนก็เริ่มคล้อยตาม

ดวงตาคู่สวยคล้ายมารดาช้อนมอง ลังเลใจเล็กน้อย ถามย้ำเพื่อความแน่ใจ

“คุณพ่อจะไม่ผิดคำสัญญากับมีอาอีกใช่ไหมคะ”

“ไม่แน่นอนครับคนเก่ง พ่อแค่เป็นห่วงความปลอดภัยมีอาเท่านั้น”

“เฮ้ออออออ ~ ถ้างั้นก็ได้ค่ะ ขอโทษด้วยนะคะที่มีอาโวยวายใส่คุณพ่อ”

“ไม่เป็นไร ไปเรียนเถอะ วันนี้อยากทานอะไรก็ทักมาบอกแม่เราได้เลยนะ จะได้ให้แม่ครัวเตรียมเอาไว้ให้”

“ค่ะ”

เธอเขย่งกายหอมแก้มบิดาอีกครั้ง แล้วเดินมาสวมกอดมารดา กระซิบถามให้ได้ยินกันเพียงสองคน

“ฝากคุณแม่ดูคุณพ่อด้วยนะคะ”

“ได้จ้ะ”

มิลินคลี่ยิ้มอ่อนโยนให้ลูกสาว กดปลายจมูกแนบแก้มนิ่มแผ่วเบา และเมื่อมีอาเดินจากไปนายหญิงของบ้านก็ตวัดสายตามองสามีตัวดีเป็นการคาดโทษ

“หวังว่าพี่ไคจะรักษาคำพูดนะคะรอบนี้”

“โธ่ ~ ทำไมแม้แต่ลินก็ไม่เชื่อพี่กันล่ะเนี่ย”

“ก็พี่ไคไม่น่าเชื่อเลยสักนิด มิลินว่าสุดท้ายคงให้ไอซ์ขับตามมีอาจนจบมหาลัย”

“มะ...มันก็ไม่ขนาดนั้น”

ไคโรตอบกลับเสียงอึกอักอย่างคนมีความผิดติดตัว ก็แหม คุณภรรยาเล่นรู้ทันขนาดนี้ เขาเลยตอบรับได้ไม่เต็มเสียง

บอดี้การ์ดสาวในชุดสูทเข้ารูปอวดสัดส่วนเย้ายวนแต่แฝงความดุดัน เงยมองใบหน้าเหนื่อยหน่ายของคุณสาว ไม่ต้องถามเธอก็พอเดาได้ว่าเรื่องนี้จะจบลงแบบใด

มีอาเดินหน้ามุ่ยเข้าใกล้ ช้อนมองพี่สาวคนสนิทตาปริบ ๆ ราวกับเด็กน้อยผิดหวังไม่ได้ของเล่น

“คุณพ่อบอกเป็นห่วง กลัวมีอายังขับรถไม่แข็ง เลยให้พี่ไอซ์คอยขับตามดูแลก่อนพักหนึ่ง” เธออธิบายเสียงอ่อย

“ค่ะ”

“พี่ไอซ์ว่าคำว่าสักพักหนึ่งของคุณพ่อจะนานแค่ไหนคะ”

เธอลองถาม หวังจะได้รับความคิดเห็นอื่นที่ช่วยปลอบโยนจิตใจที่หม่นหมองได้ แต่ก็ต้องคอตกหลังจากสาวหน้านิ่งตอบกลับมารวดเร็ว

“ก็คงจนกว่าคุณหนูจะเรียบจบ”

“โอ๊ยไม่นะ! ขนาดพี่ไอซ์ยังคิดเหมือนกันเลย” คุณหนูสาวหน้าบูดบึ้ง ขัดใจแต่ก็ไม่อาจจะทำอะไรได้

“ไปเรียนกันก่อนเถอะค่ะ เดี๋ยวจะสายเอา”

“เฮ้อออออออออ ~”

เธอพ่นลมหายใจยาว พยักหน้าปลงตกเตรียมจะขึ้นรถ แต่พอเห็นบอดี้การ์ดสาวท่าทางจะเข้ามาช่วยเปิดประตูให้ ก็รีบยกมือห้าม ไอซ์จึงได้ก้าวถอยหลังกลับขึ้นรถอีกคันอย่างรู้หน้าที่

เสียงเครื่องยนต์จากรถสีขาวสะอาดตาดังกระหึ่ม มีอาสูดลมหายใจเข้าปอดเฮือกใหญ่ รวบรวมสติตั้งใจกับการขับรถ บอกตัวเองให้ระวังสุด ๆ บิดาจะได้ไม่มีข้ออ้างส่งบอดี้การ์ดติดตามเธออีก
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel