บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 คนเมื่อกี้ใคร

บนรถ

“พี่แอซตันเกือบทำจินนี่แย่แล้วไหมล่ะ” สาวร่างอวบอั๋นเย้ายวนช้อนสายตาตัดพ้อหนุ่มหล่อ แต่ก็ได้รับเพียงสายตาห่างเหินกลับมาเท่านั้น

“ก็เธอบอกให้มารับที่นี่”

“ก็ใช่ค่ะ แต่แหมพี่เกือบขับรถชนรุ่นพี่ในคณะจินนี่เลยนะ”

“ฉันผิด?”

“จินนี่ก็ไม่ได้หมายความแบบนั้น แค่พี่แอซตันตอบข้อความ จินนี่ก็ดีใจมากแล้ว”

หญิงสาวคลี่รอยยิ้มหวาน พลางขยับใบหน้าซบไหล่กว้างของชายหนุ่มข้างกาย อกซ้ายเธอสั่นระรัว อยากจะหยิกแก้มตนเองให้แน่ใจว่าไม่ได้ฝันอยู่

เธอเห็นรูปเขาจากอินสตราแกรม ก็ไม่รอช้าที่จะกดติดตามและส่งข้อความหาเพื่อสานความสัมพันธ์ แต่เกือบจะต้องผิดหวังอยู่แล้ว หลังจากไร้ข้อความตอบกลับเกือบห้าวัน จนเมื่อครู่หนุ่มสุดหล่อก็ตอบกลับ พร้อมนัดหมาย จินนี่จึงรีบตอบรับรวดเร็ว

ดวงตาหลงใหลช้อนมองใบหน้าหล่อร้ายของเขาให้ชัด กรอบหน้าคมสันมีเหลี่ยมมุมชัดเจนส่งเสริมให้เขาดูแข็งกร้าวชวนใจสั่น ดวงตาสีอัลมอนด์ทรงเสน่ห์รับกับเรียวคิ้วเข้มได้รูป จมูกโด่งเป็นสันอย่างไม่ต้องพึ่งมีดหมอ และริมฝีปากหยักยิ่งทำให้คนตรงหน้าดูเย่อหยิ่งถือตัว

เพียงแค่ได้ใช้พวงแก้มถูไถไหล่หนา เธอก็รับรู้ได้เลยว่าภายใต้เสื้อสีดำซุกซ่อนหุ่นเซ็กซี่ทรมานใจเอาไว้ ร่างกายตื่นตัวสุดขีด แทบจะอดใจรอไม่ไหวที่จะได้สัมผัสแนบชิดกับคนตรงหน้า

กลิ่นกายหอม ๆ ลอยปะทะจมูก สร้างความวูบหวามให้หญิงสาวไม่น้อย หากในรูปว่าหล่อแล้ว ตัวจริงของแอซตันนั้นโคตรหล่อออร่าจับยิ่งกว่านั้นอีก แต่ไอรังสีบางอย่างที่แผ่ซ่านออกมาจากกายเขาเหมือนป้ายเตือนระวังอันตราย แต่จินนี่ก็พร้อมจะเสี่ยงกับความอันตรายแสนเย้ายวนนี้

“เมื่อกี้ใครน่ะ” เสียงแหบทุ้มเอ่ยถามขึ้นมาไม่มีปี่ไม่มีขลุ่ย ทำหญิงสาวงงไปเล็กน้อยเพราะกำลังหลงใหลกับรูปร่างเขาอยู่

“ใครคะ?”

“พี่ผู้หญิงใส่แว่นเมื่อกี้เหรอคะ ชื่อพี่ขวัญค่ะ”

“ไม่ใช่ อีกคนที่ผมยาว ๆ สีน้ำตาล”

“หื้ม? หมายถึงพี่มีอาเหรอ”

“ชื่อมีอา?”

“ทำไมคะ พี่แอซตันสนใจเหรอ” เธอถามเสียงขุ่น ไม่สบอารมณ์สักนิดที่ชายหนุ่มถามถึงหญิงอื่นต่อหน้า ทั้งที่พวกเขาเพิ่งเจอกันครั้งแรก

“ก็เห็นเธอทำท่าเหมือนกลัวพวกนั้น” เสือร้ายแสร้งตอบไปแบบนั้น เพื่อตะล่อมหลอกถามข้อมูล

“ก็ใช่น่ะสิคะ พี่มีอานะดังมาก ๆ เลยที่มหาลัยของจินนี่ เธอเคยเป็นดาวมหาลัย ได้ข่าวว่าช่วงนั้นคณะบริหารแทบแตก มีแต่หนุ่ม ๆ แวะมาจีบพี่มีอา แต่ตอนที่จินนี่เข้ามาก็ไม่เคยเห็นอะไรแบบนั้น แถมที่บ้านก็โคตรรวย จินนี่ไม่อยากมีปัญหากับพี่เขาแน่ ๆ”

“แสดงว่าเขามีแฟนแล้ว?”

“ไม่นะ เห็นว่าไม่เคยมีแฟนด้วย เพราะพ่อพี่มีอาหวงลูกสาวสุด ๆ จัดการไล่ผู้ชายที่มาจีบพี่มีอากระเจิง”

“หื้ม? ไล่ยังไง”

“จินนี่ไม่รู้หรอก จินนี่เด็กกว่าพี่มีอาตั้งสองปี หรือพี่แอซตันสนใจ”

เธอผละกายออกห่างกอดอกค้อนมองอย่างไม่พอใจที่เขาเอาแต่ตั้งคำถามถึงผู้หญิงอีกคนไม่หยุดปาก ท่าทางบึ้งงอนของเธอไม่ได้น่าเอ็นดูเลยในสายตาของแอซตัน ออกจะรำคาญด้วยซ้ำ

เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายดูไม่อยากจะให้ข้อมูลใดเพิ่ม เขาก็เลิกถาม หันเหความสนใจไปที่ท้องถนนเบื้องหน้า กดเหยียบคันเร่งหักเลี้ยวแซงรถคันอื่นบนท้องถนนด้วยความคล่องแคล่ว ตรงไปยังโรงแรมที่เป็นจุดหมายในครั้งนี้

แต่ในหัวมีแต่ภาพใบหน้าสวยจัดของสาวเมื่อครู่วนเวียนไม่จางหาย

มุมปากหยักยกสูงดูเจ้าเล่ห์ร้ายกาจ นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนราวสัตว์ทอประกายมาดมั่นเมื่อได้พบเหยื่อสาวรายใหม่ที่ถูกใจ

ยังจำได้แม่นถึงสายตาขุ่นเคืองที่พยายามจ้องมองเข้ามา ความตื่นเต้นไร้ที่มาก็แผ่กระจายไปทั่วร่าง

‘ชื่อมีอาสินะ เดี๋ยวเราคงได้เจอกันเร็ว ๆ นี้’

อีกด้าน

“โอเคไหมขวัญ” เสียงหวานย้ำถามเพื่อนสนิทด้วยความเป็นห่วง

“วะ...ไหว คะ...แค่ตกใจ”

ถึงสาวแว่นจะตอบกลับแบบนั้น แต่เนื้อตัวเธอยังสั่นจากความตกใจอยู่ ทำสองสาวได้แต่มองตากันเพื่อปรึกษา

“ตกใจสิ ฉันกับมีอาเกือบหัวใจวาย ไอ้เวรนั่นมันน่าตายจริง ๆ ขับรถหมาไม่รับประทานแบบนั้นมีชีวิตรอดมาถึงตอนนี้ได้ไง” หวานยังคงสบถด่าด้วยถ้อยคำหยาบคาย

“ฉันว่า ฉันไปส่งขวัญดีกว่า” มีอาตัดสินใจ

“เออดี ๆ ฝากไปส่งยัยขวัญหน่อย ฉันจะได้หายห่วง”

“ไม่เป็นไรหรอกแก ฉันเกรงใจ อีกอย่างมันคนละทางด้วย” สาวแว่นตัวเล็กรีบปฏิเสธ

“ฉันไปส่งดีแล้ว ปล่อยแกไปทั้งแบบนั้นฉันกับยัยหวานไม่สบายใจแน่”

“ใช่ ๆ แกเหมือนคนสติหลุดเลย ไปกับมีอานั่นแหละ”

หวานช่วยเจรจาอีกแรง สุดท้ายขวัญจึงยอมพยักหน้าตกลง

“ถ้างั้นก็ขอรบกวนหน่อยนะ”

“รบกวนอะไรกัน เราไปกันเถอะ”

มีอาคลี่ยิ้มหวาน เลื่อนมือกระชับเรียวนิ้วเล็กเย็นเฉียบของเพื่อนสนิท เดินนำเธอไปทางรถยนต์ที่จอดรอไม่ไกล เมื่อหวานเห็นดังนั้นก็วางใจ โบกมือลาสองสาวแล้วเดินแยกไปยังลานจอดใหญ่

ร่างสูงโปร่งราวนางแบบเดินนำเพื่อนไปยังลานจอดหน้าตึกคณะ ไม่นานก็พบกับร่างคุ้นตาของสาวสวยอีกคนสวมสูทเข้ารูปดูทะมัดทะแมงยืนกอดอกพิงต้นไม้รออยู่ไม่ไกล

เมื่อหางตาของอีกฝ่ายสังเกตเห็น ก็เปลี่ยนท่าไปยืนหลังตรงมาดมั่น ก้าวขายาว ๆ เพื่อเปิดประตูด้านหลังให้คุณหนูสาว

“พี่ไอซ์คะ วันนี้รบกวนแวะไปส่งเพื่อนมีอาหน่อยนะ”

“ค่ะ”

เจ้าของใบหน้าสวยแต่ไร้อารมณ์ขานรับรวดเร็ว ไม่คิดจะไถ่ถามสิ่งใดให้มากความ รอจนกระทั่งทั้งคู่ขึ้นนั่งประจำที่ก็ช่วยปิดประตูให้ตามหน้าที่ แล้วก้าวขึ้นประจำตำแหน่งเพื่อขับรถออกจากมหาวิทยาลัย

แอร์เย็นฉ่ำจากตัวรถที่ถูกสตาร์ตติดเครื่องเอาไว้รอ ช่วยคลายความร้อนจากสภาพอากาศภายนอก แถมยังมีฝ่ามือนิ่มแสนอบอุ่นกระชับไว้ นั่นก็ทำให้ความตกใจก่อนหน้าในใจขวัญจางหายไปโดยไม่รู้ตัว

สาวหน้าใสชำเลืองมองผ่านแว่นตาหนาเตอะของตน บอกจุดหมายปลายทางกับคนขับสาวสวยด้วยความเกรงใจ ซึ่งเธอก็แค่พยักหน้ารับเท่านั้น

ทั้งที่ขวัญเคยเจอหญิงสาวที่ชื่อว่าพี่ไอซ์ มาหลายครั้ง แต่ก็ยังไม่รู้สึกคุ้นเคยอยู่ดี อาจจะเป็นเพราะบุคลิกเย็นชา ห่างเหินเฉพาะตัว รวมถึงสายตานิ่งเรียบไม่ต่างจากหุ่นยนต์ ทำให้แม้แต่หวานก็ยังไม่กล้าคุยด้วย

“โทรบอกแฟนหน่อยไหม”

“มะ...ไม่เป็นไร ฉันไม่อยากให้เขาตกใจ”

“แต่แกเกือบถูกรถชนนะขวัญ”

พอคำว่าเกือบถูกรถชนหลุดออกจากคุณหนูสาว บอดี้การ์ดด้านหน้าก็ตวัดสายตาดุดันมองกระจกทันที จนเจ้าตัวต้องรีบอธิบาย

“ไม่ใช่มีอาค่ะ เมื่อกี้มีรถพุ่งเข้ามาตอนที่ขวัญกำลังจะข้ามถนน”

“คุณหนูไม่เป็นอะไรนะคะ” แม้เสียงจะฟังดูเย็นชา แต่คนที่รู้จักกันมานานก็สัมผัสได้ถึงความห่วงใย

“ปลอดภัยดีค่ะ พี่ไอซ์ไม่ต้องห่วง”

“ค่ะ” ไอซ์รับคำหันกลับไปขับรถต่อ

ไม่รู้ทำไมขวัญถึงได้หวั่นเกรงสายตาของบอดี้การ์ดประจำตัวเพื่อนเหลือเกิน ได้แต่นั่งตัวลีบกระซิบถามมีอาเสียงเบา

“ฉันไม่ได้ทำแกซวยไปด้วยใช่ไหม”

“ซวยอะไรกัน ไม่มีอะไรหรอก” มีอายิ้มกว้าง ตบไหล่หยอกล้ออีกฝ่าย

“เดี๋ยวพ่อแกเป็นห่วง แล้วขนกองทัพบอดี้การ์ดมาล้อมมหาลัยแบบตอนปีหนึ่งอีก”

พอคิดถึงเหตุการณ์ในอดีต ขวัญก็แอบขนลุก ไม่คาดคิดว่าเพื่อนคนสวยจะร่ำรวยเกินเบอร์ขนาดนั้น

“เวอร์แล้ว ไม่มีหรอกย่ะ”

“แต่ว่า…”

“พี่ไอซ์คะ ไม่ต้องรายงานคุณพ่อนะคะ”

“ค่ะ”

“สบายใจยัง” มีอาหันกลับมายกยิ้มแซวเพื่อนสาวข้างกาย ซึ่งเธอก็ยอมพยักหน้ารับโดยดี

ขวัญขอให้ไปส่งยังห้างแห่งหนึ่งที่นัดกับแฟนหนุ่มเอาไว้ ก่อนจะหันมาขอบคุณเพื่อนสาวและพี่คนสวยที่ช่วยขับพามาส่งถึงที่

สองสาวโบกมือลากันเล็กน้อย แล้วรถยุโรปคันใหญ่ก็เคลื่อนตัว มุ่งหน้ากลับสู่คฤหาสน์หลังใหญ่ของครอบครัว

“พี่ไอซ์ก็ช่วยยิ้มบ้างสิคะ เพื่อนมีอาเกร็งพี่หมดแล้ว”

เมื่อได้อยู่ตามลำพัง คุณหนูสาวก็เกาะเบาะคนขับชะโงกหน้าแซวบอดี้การ์ดส่วนตัว

“ขอโทษค่ะ”

“แล้วจะขอโทษมีอาทำไมคะ ไหนยิ้มหน่อยเร็วพี่สาว ~”

สาวสวยปั้นยิ้มหวานเป็นตัวอย่าง แต่ก็ต้องถอนหายใจเมื่ออีกฝ่ายไม่ตามน้ำ ช้อนมองกลับด้วยสายตานิ่งเรียบไร้อารมณ์ จึงได้ยอมกลับไปนั่งประจำที่ตัวเองดี ๆ

“เฮ้ออออออ ~ พี่ไอซ์อย่าเพิ่งรีบมีแฟนนะคะ ไม่งั้นมีอาคงเหงามาก ดูสิเพื่อน ๆ มีอามีแฟนกันไปหมดแล้ว”

“พี่ไม่มีหรอกค่ะ คุณหนูไม่ต้องเป็นห่วง”

“แบบนี้ไม่เหงาเหรอคะ พี่ไอซ์สวยขนาดนี้ มีอาแอบได้ยินพวกลูกน้องผู้ชายคุยกันด้วยว่าอยากจีบพี่”

“แล้วคุณหนูล่ะคะ” อีกฝ่ายไม่ตอบคำถาม แต่เลือกยิงคำถามกลับ ส่งผลให้ใบหน้าสวยหม่นลงเล็กน้อย

“เพื่อนบอกว่ามีอาสเปกสูงไปค่ะ ผู้ชายแบบนั้นคงมีแค่ในซีรีส์สินะ”

“...”

“ถึงต่อให้มีจริง ๆ คุณพ่อคงไม่ยอมง่าย ๆ แน่” หญิงสาวระบายลมหายใจยาวด้วยความอึดอัด

“...”

แม้จะไม่มีคำปลอบโยนใดถูกตอบกลับมา แต่พอเธอมองเงาสะท้อนจากกระจกส่องหลัง ก็พบสายตาอ่อนโยนของไอซ์ส่งมาให้ เท่านั้นก็ทำให้จิตใจของเธอสงบลงได้มาก

“ช่างมันเถอะค่ะ ตอนนี้เรื่องเดียวที่มีอาต้องการคือให้คุณพ่อยอมอนุญาตให้มีอาย้ายไปอยู่คอนโดฯ สักที”

“ถ้างั้นคุณหนูก็ต้องพยายามหนัก ๆ เลยละค่ะ”

ร่างบางพ่นลมหายใจยาวอีกรอบ แม้ใคร ๆ ต่างอิจฉาที่เธอเกิดมามีพร้อมทั้งรูปร่างหน้าตาและฐานะ แต่ใครจะเข้าใจถึงความอึดอัดและแรงกดดันจากทางบ้าน

ดวงตากลมสวยที่ได้รับถ่ายทอดมาจากมารดาเหม่อมองออกไปนอกหน้าต่างรถ ไม่รู้ทำไมถึงได้รู้สึกอิจฉาผู้คนที่เดินทอดน่องอยู่บนฟุตบาท หรือคนที่แย่งเพื่อขึ้นรถประจำทาง ทุกคนดูกำลังใช้ชีวิตของตัวเองตามความต้องการ ทั้งที่เธอก็ได้รับความรักและความอบอุ่นจากครอบครัว แต่ไม่รู้ทำไมส่วนลึกในใจยังต้องการอิสระ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel