บท
ตั้งค่า

บทที่ 1 นางฟ้าคนสวย

มหาวิทยาลัย H

รองเท้าส้นสูงกระทบพื้นหินอ่อนของทางด้านยาว เกิดเป็นเสียงตึกตัก ท่อนขาเพรียวยาวราวนางแบบก้าวยาว ๆ เพื่อมุ่งหน้าไปหาเพื่อนสาวสองคนที่ยืนรออยู่ สะโพกอวบใต้กระโปรงทรงเอเข้ารูปถูกระเบียบ ขยับยั่วเย้าไปตามจังหวะการเดิน เรียกสายตาหยาดเยิ้มจากนักศึกษาหนุ่มบริเวณนั้นให้หันมามอง ใบหน้ารูปไข่สวยจัด ทั้งดวงตากลมสวยล้อมด้วยแพขนตายาว ทำให้นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนยิ่งดูเย้ายวนชวนมอง จมูกเล็กโด่งรับกับเรียวคิ้วได้รูป ในขณะที่ริมฝีปากอวบอิ่มลักษณะเด่นของสาวลูกครึ่งฉายชัด คลี่ยิ้มกว้างให้เพื่อนสาวด้วยความเกรงใจ

“ขอโทษที รอนานไหม” เสียงหวานเอ่ยบอกกับทั้งคู่

“นานอะไรกัน รอได้ ไปกันเถอะ”

หวาน เพื่อนสาวอารมณ์ดีส่งยิ้มกลับพร้อมเดินเข้ามากอดท่อนแขนเรียวเอาไว้ด้วยความสนิทสนม ส่วนขวัญ เพื่อนสาวสุดเรียบร้อย สวมแว่นหนาก็เพียงแค่อมยิ้มส่งให้

สามสาวคณะบริหารธุรกิจชั้นปีที่สี่ เดินไปตามทางยาวของอาคารเรียน ก่อนจะก้าวลงบันไดลงไป

โถงใต้อาคารช่วงเลิกเรียนพลุกพล่านไปด้วยกลุ่มนักศึกษานั่งจับเจ่าเมาท์มอยกันตามประสา แล้วเพียงกลุ่มสาว ๆ ทั้งสามปรากฏตัว ทุกสายตาก็หันมองไปทางพวกเธอราวกับนัดกันมา ก่อนจะหันกลับไปอมยิ้มกระซิบกระซาบ

ขวัญสาวหน้าบางเขินอายทุกครั้ง แม้เหตุการณ์นั้นจะเป็นเรื่องปกติที่พบเจอตลอดสี่ปีก็ตาม

“ฉันไม่เคยชินเลย” เธอบ่นอุบออกมาเสียงเบา ไม่ชอบการตกเป็นเป้าสายตาใคร

“โอ๊ย ยังไม่ชินอีกเหรอแก ให้รู้ซะบ้างว่าเพื่อนแกเป็นใคร” หวานยิ้มกว้าง ยืดอกภูมิใจ จึงโดนหญิงสาวที่เธอพูดถึงปรามเบา ๆ

“เวอร์ไปแล้วน่ะแก ไปกันเถอะ”

“คิก นางฟ้าของคณะบริหารถ่อมตัวจังเลยนะคะ แกน่ะสวยสุดยอดขนาดนี้ ฉันไม่แปลกใจเลยว่าทำไมใครต่อใครต่างชื่นชม”

มีอา มุ่ยหน้าเล็กน้อย แต่ก็ไม่อาจจะหาคำใดมาปฏิเสธได้ รีบกระชับแขนเล็กของหวานออกแรงดึงเบา ๆ ให้รีบเดินผ่านโถงใต้อาคาร

มีอา มัลลิกา อาเจนเตโร่ สาวลูกเสี้ยวไทย อิตาลี ความสวยของเธอโดดเด่นมาตั้งแต่เป็นเฟรชชี ถูกรุ่นพี่ทาบทามให้ลงประกวดดาวคณะ แถมความสามารถเพียบพร้อม ที่เก่งทั้งการเรียนและกีฬา รวมถึงนิสัยน่ารัก เป็นมิตร ชอบช่วยเหลือผู้อื่น ก็ทำให้คนทั้งมหาวิทยาลัยเทคะแนนโหวตให้เธอจนคว้าตำแหน่งดาวมหาลัยมาครอบครองจนได้

เธอสวยจัด ไม่ว่าจะเป็นเรือนผมยาวเป็นลอนถึงเอวสีน้ำตาลนั้น หรือสัดส่วนโค้งเว้าร่างกายที่แม้จะถูกซุกซ่อนอยู่ภายใต้ชุดนักศึกษาถูกระเบียบ แต่มันกลับกระตุ้นจินตนาการลามกของชายหนุ่มให้ใคร่สงสัยว่ามีสิ่งใดแอบซ่อนอยู่

ถึงมีอาจะเป็นที่ชื่นชม คลั่งไคล้ของคนทั้งมหาวิทยาลัย ถึงขนาดมีกลุ่มรุ่นน้องสาวตั้งตัวเป็นแฟนคลับเธอด้วยซ้ำ แต่มีอากลับครองสถานะโสดมาจนถึงชั้นปีสี่

ช่วงที่พวกเธอเรียนอยู่ชั้นปีหนึ่ง เพื่อนสาวคนนี้ถูกหนุ่มจากหลากหลายคณะรุมจีบหนักมาก แต่เพียงไม่ถึงเดือนทุกคนก็เงียบหาย และไม่มีใครกล้ามาทอดสะพานให้มีอาอีกเลย นั่นก็เพราะชื่อเสียงความหวงลูกสาวของพ่อเธอนั่นเอง

ฐานะครอบครัวที่เรียกได้ว่าเป็นเศรษฐีเบอร์ต้นของเมืองไทย อำนาจล้นฟ้า ถึงขนาดมีกลุ่มบอดี้การ์ดตามดูแลลูกสาวคนสวยไม่ห่าง ก็ทำหนุ่มเพลย์บอยหลายคนต้องคิดหนัก เลิกล้มความตั้งใจจะสอยนางฟ้าคนสวยไปโดยปริยาย

ขณะที่พวกเธอเดินผ่านใต้อาคารเรียนก็มีกลุ่มนักศึกษาสาวชั้นปีที่หนึ่งวิ่งเข้ามาหา ดักหน้าพวกเธอเอาไว้ ทำให้สามสาวต้องหยุดเดิน มองอีกฝ่ายงุนงง

สายตาที่รุ่นน้องมองมาเต็มไปด้วยความชื่นชม ต่างหันไปสะกิด เกี่ยงกันไปมา ในที่สุดก็มีคนกล้า รีบข่มความเขินอายแล้วเอ่ยกับมีอา

“พะ...พี่มีอาขา หนูขอถ่ายรูปกับพี่หน่อยได้ไหมคะ”

“อ๋อ ได้สิ”

มีอายิ้มเจื่อน ค่อนข้างงงเช่นกันที่มีรุ่นน้องหลายคนอยากถ่ายรูปกับเธอ ทั้งที่เธอไม่ใช่ดาราด้วยซ้ำ แต่นี่ก็ไม่ใช่ครั้งแรก

“งู้ยยยยย พี่น่ารักจังเลย เอ้ายัยเฟย์ ถือกล้องหน่อย”

หญิงสาวขยับตัวไปยืนข้างรุ่นน้องหน้าใส ส่งยิ้มให้กล้อง แต่เพราะความสูงถึง 168 เซนติเมตรทำให้เธอต้องย่อตัวให้เท่ากับรุ่นน้อง คลี่ยิ้มหวานมองกล้อง

พอคนแรกได้ภาพ คนต่อมาก็เรียงคิวกันเข้ามา แต่ถึงแบบนั้นมีอาก็ไม่ปริปากบ่น ยินดีทำตามทำขอร้องของกลุ่มสาว ๆ ด้วยความเต็มใจ

“พี่มีอาเป็นไอดอลหนูเลยนะคะ ขอบคุณมากเลยจริง ๆ”

“หนูเพิ่งสมัครเป็นแฟนคลับพี่ด้วย ดีใจมาก ๆ เลยที่ได้เรียนคณะเดียวกับพี่”

เด็กสาวรุ่นน้องแย่งกันพูด สายตาเป็นประกายตื้นตันไม่ปิดบัง เริ่มทำให้มีอาหน้าแดงกระดากอายหน่อย ๆ

“แฮะ ๆ ขอบคุณมากนะคะ หลังจากนี้ก็ตั้งใจเรียนด้วยล่ะ”

“แน่นอนค่ะพี่!”

กลุ่มเด็กสาวแยกย้ายกันไปแล้ว ค่อยทำให้เธอหายใจหายคอได้โล่งหน่อย พอเงยหน้าขึ้นมาก็พบกับสายตาเย้าแหย่ของเพื่อนสนิท

“ฮอตมาก ฮอตไม่ไหว พอไม่มีผู้ชายกล้าจีบ ก็มีสาว ๆ มารุมแทน อีกหน่อยจะได้เห็นแกควงสาวไหมเนี่ย”

“บ้า น้องเขาก็แค่ปลื้มเท่านั้น” เธอมุ่ยหน้าตอบกลับเพื่อนไป

“เอ้า ก็จริงนี่ ฉันละสงสัยจริง ๆ ทั้งที่แกสวยมากขนาดนี้แต่ไม่เคยมีแฟนเลย ไม่มีหนุ่มที่ไหนทำแกหวั่นไหวได้เลยเหรอ” หวานยังถามย้ำ

“ไม่มีค่ะ! แกก็เห็นชีวิตแต่ละวันของฉัน ทั้งเรื่องเรียน กิจกรรมของคณะ ไหนจะที่ชมรมอีก เอาเวลาที่ไหนไปมีแฟน”

“แต่เราก็ยังมีเลยนะ” สาวหน้าติ๋มแทรกขึ้นมา ความจริงดังกล่าวทิ่มแทงอกซ้ายของอดีตดาวมหาลัยจนได้แต่ทอดถอนใจ

“เออ ฉันมันไม่มีบุญเองละ ชิ”

เธอยู่ปากหรี่ตา ก่อนจะสะบัดหน้าพร้อมก้าวขายาว ๆ ไปทางหน้าอาคารเรียน ทำให้สองสาวต้องรีบวิ่งเข้ามาออดอ้อน เกาะแขนเธอไว้คนละข้าง

“โธ่ ๆ ไม่งอนนะคะเพื่อน”

“เพราะมีอาสวยขนาดนี้ ต้องมีสเปกผู้ชายสูงทัดเทียมแน่ ๆ” ขวัญช่วยแก้ต่าง

“ไหน ลองบอกสเปกหนุ่มในฝันของแกให้ฟังหน่อยสิ”

“ไม่มีสักหน่อย ฉันไม่ได้คิดเรื่องนี้” มีอายังคงปากแข็ง ไม่ยอมบอก แต่เพื่อนรักทั้งสองก็ไม่ปล่อยเช่นกัน หวานใช้ศีรษะถูไหล่เพื่อนตัวสูงออดอ้อน ส่วนขวัญก็ส่งสายตาปริบ ๆ น่าสงสารผ่านเลนส์แว่นหนาไม่ยอมแพ้

“นะคะ บอกหน่อยสิ”

“ฉันก็อยากรู้”

“ก็ได้ ๆ ปล่อยก่อน”

เพราะภาพสามสาวยืนกอดรัดฟัดเหวี่ยงกันอยู่หน้าตึกคณะมันเรียกความสนใจคนอื่นมากเกินไป สุดท้ายเธอก็ทนคำรบเร้านั้นไม่ไหว

หวานและขวัญรีบปล่อยแขนบางโดยดี อมยิ้มกว้างมองเธอตาเป็นประกายด้วยความตื่นเต้น ทำมีอาได้แต่ระบายลมหายใจยาว ๆ

“สเปกของฉันก็ไม่มีอะไรมากหรอก ฉันชอบผู้ชายตัวสูง ยังไงก็ขอให้ถึง 180 เซ็นต์ ไม่ต้องล่ำมากเกินไป แต่ก็ไม่ผอมมาก หน้าตายังไงก็ได้ แต่ถ้าหล่อ น่ารัก ก็คงดี ชอบผู้ชายที่ตาสวยมีเสน่ห์ อาจจะแนวลูกครึ่งมั้ง ฐานะก็คงต้องพอกัน ไม่งั้นพ่อฉันคงไม่มีทางไว้ใจ อย่างน้อยก็ต้องมีธุรกิจส่วนตัว รายได้ปีละร้อยล้านขึ้น ส่วนนิสัย เอิ่มมมมม ต้องเป็นสุภาพบุรุษ มีความเป็นผู้นำ กล้าตัดสินใจ ดูแลเทกแคร์เก่ง มีความรู้รอบด้าน พึ่งพาได้ รักสัตว์ อ่อนโยน แล้วก็...”

“พอ ๆ ๆ ๆ มันจะเยอะไปแล้ว” หวานต้องยกมือขึ้นเบรก

“ก็แกเป็นคนถามเอง” มีอาหน้ามุ่ยหลังจากเห็นเพื่อนสาวทำหน้าเอือมระอาใส่

“แหะ ๆ สเปกสูงจริงด้วย” ขวัญหัวเราะแห้ง ๆ แถมยังทำหน้าแปลก ๆ ใส่ เริ่มทำให้มีอาคิดว่าตนพูดอะไรผิดไป

“ถามจริงมีอา แกจะไปหาผู้ชายแบบนั้นจากไหนในโลกคะ ไอ้ผู้ชายที่มันทั้งหล่อรวย มันคงไม่อ่อนโยนรักสัตว์ให้แกหรอก”

“ก็เพราะแบบนี้ไง เลยยังไม่มีใครเข้าตาฉัน”

“เฮ้ออออออ ~ สงสัยเพื่อนฉันได้ขึ้นคานแหง” หวานสาวอารมณ์ดียกมือนวดขมับ

ระหว่างนั้นโทรศัพท์ในกระเป๋าของเพื่อนสาวก็ดังขัดจังหวะ ขวัญล้วงมันออกมารับด้วยแววตาตื่นเต้น ตอบโต้กับคนในสายเสียงอ่อน ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าใครโทรเข้ามา

“แฟนสินะ” มีอาถาม

“อื้อ เดี๋ยวฉันต้องไปก่อนนะ วันนี้มีนัดดูหนังกับแฟน” สาวติ๋มอมยิ้มเอียงอาย แถมเพื่อนสาวอีกคนก็ยังช่วยตอกย้ำความเปลี่ยวเหงาในใจมีอาอีกแรง

“ฉันก็ต้องไปแล้วเหมือนกัน แฟนรอ”

“ชิ มีแฟนกันไปให้หมดเลย!”

“ไม่ร้องนะคะคนสวย แกก็ค่อย ๆ หาหนุ่มในฝันคนนั้นต่อไป”

“คิก”

“ไม่ต้องมาขำเลยขวัญ ปะ ๆ แยกย้าย” มีอาตัดบทร่ำลา ก่อนที่เธอจะถูกยกขึ้นมาเป็นประเด็นหยอกล้ออีก

“แล้วเจอกันจ้า”

ขวัญสาวตัวเล็กสวมแว่นท่าทางเรียบร้อยโบกมือลา เตรียมจะข้ามถนนไปอีกฝั่งเพื่อเดินออกไปขึ้นรถหน้ามหาวิทยาลัย ส่วนหวานซึ่งมีรถส่วนตัวจึงเดินไปทางเดียวกับมีอา

ทันใดนั้นเองเสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่มก็ค่อย ๆ ใกล้เข้ามา ล้อบดครูดไปตามถนนเกิดเป็นเสียงแหลมบาดหู เรียกสายตาของสองสาวให้หันกลับไปมอง

ดวงตาทั้งคู่เบิกกว้าง หวีดร้องลั่นด้วยความแตกตื่นเมื่อเห็นรถสปอร์ตสีแดงปริศนาพุ่งมาทางนี้ด้วยความเร็วสูง ขณะที่เพื่อนสาวอีกคนยังยืนอยู่บนทางม้าลาย

“กรี๊ดดดดดดด ขวัญ!”

“ยัยขวัญ!”

สาวแว่นยืนแข็งค้างไม่ขยับ จ้องมองรถที่พุ่งตรงเข้ามาตนเองตื่นตระหนกสุดชีวิต ทั้งที่ใจบอกให้ขยับหนี แต่ร่างกายกลับไม่ยอมฟัง

ระยะห่างของรถใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ แถมยังไม่มีวี่แววจะชะลอตัวลง นักศึกษาบริเวณนั้นกรีดร้องลั่น ยกมือขึ้นปิดตา

เสียงเอี๊ยดดังบาดใจ ต่างลุ้นระทึกว่าจะมีเสียงชนตามมาหรือไม่ แต่ทุกอย่างก็เงียบสนิท ส่วนสาวโชคร้ายก็ขาอ่อนทรุดลงไปกองกับพื้นเป็นที่เรียบร้อย หลังจากเห็นกระโปรงรถราคาแพงอยู่ห่างจากร่างเธอไม่ถึงฟุต หัวใจอกซ้ายกระหน่ำบีบรัดหนักหน่วง มือเย็นเฉียบตัวสั่นระริก พูดอะไรไม่ออกไปชั่วขณะ

“ขวัญ!”

มีอาและหวานกระโดดลงไปบนถนนเส้นเล็กหน้าตึกคณะ ช่วยประคองเพื่อนที่ล้มลงกับพื้นให้ลุกขึ้นยืน มองใบหน้าซีดเผือดของเพื่อนรักอย่างเป็นห่วง

“ขับรถประสาอะไร! นี่มันในเขตมหาลัยนะ” หวานตะคอกออกมา หัวเสียสุดขีด

มีอาเองก็โมโหไม่ต่างกันตวัดสายตาคู่สวยมองผ่านกระจกหน้ารถ แต่เพราะฟิล์มที่หนามากทำให้เธอมองเห็นเพียงแค่เงาโครงร่างของคนขับเท่านั้น

นักศึกษาแถวนั้นต่างมองเป็นตาเดียว อยากรู้ว่านางฟ้าคนสวยจะจัดการคู่กรณีอย่างไร แล้วเสียงรองเท้าส้นสูงรีบเร่งก็ใกล้เข้ามา ทำให้ทั้งกลุ่มหันมองคนมาใหม่

“ขะ...ขอโทษค่ะ พี่เขาเป็นอะไรไหม”

“น้องคือ?” มีอาถามเสียงเบา ไม่เข้าใจนักว่ารุ่นน้องคนนี้ทำไมต้องมาขอโทษพวกเธอด้วย

“จินนี่ค่ะ”

“แล้วทำไม...”

“ขอโทษแทนแฟนหนูด้วยนะคะ พี่ขวัญไม่เป็นอะไรใช่ไหม”

“อ๋อออออ นี่รถแฟนน้องเองงั้นเหรอ ฝากไปบอกทีนะ ว่าถ้าขับรถเฮียขนาดนี้ ทีหลังอย่าเที่ยวขับออกมาสร้างความเดือดร้อนให้คนอื่น” หวานกอดร่างสั่นระริกขวัญกระเจิงของเพื่อนสาวเอาไว้แน่น ตอกกลับด้วยถ้อยคำรุนแรง

“ค่ะ ๆ ขอโทษอีกครั้งนะคะ”

จินนี่กล่าวขอโทษขอโพยอีกหลายครั้ง ก่อนจะรีบวิ่งขึ้นรถคันดังกล่าว แต่มีอาก็ไม่ได้รู้สึกดีขึ้นแม้แต่น้อย เพราะไอ้คนไร้ความรับผิดชอบไม่คิดจะลงมาเพื่อดูอาการเพื่อนเธอเลย

สามสาวย้ายไปยืนที่อีกฟากของถนน แล้วมองตามรถสปอร์ตสีแดงที่เคลื่อนตัวผ่าน และสายตาของมีอาก็ยังคงจับจ้องไปยังตำแหน่งคนขับ หวังได้เห็นหน้าคนไร้มารยาทผู้นั้น แต่ก็ต้องผิดหวังอีกครั้งที่มองเห็นเพียงเงาสะท้อนของตนเองเท่านั้น

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel