4
หลายวันที่ผ่านมามันก็ไม่ได้กลับมาที่บ้านเลย หรือมันอาจจะกลับแต่เธอไม่รู้ เพราะพอแม่ไปนอนรักษาตัวที่โรงพยาบาล เธอก็ให้คนรู้จักมาช่วยใส่กลอนประตูหน้าต่างเพิ่มความแข็งแรง เธอล็อกประตูบ้านยันประตูรั้วเพื่อไม่ให้มันเข้าออกบ้านได้อย่างเสรี แต่วันนี้มันก็โผล่มาจนได้
ทิตยาเห็นเหตุการณ์ทั้งหมด และพอจะรู้เรื่องราวของรุ่นพี่กับพ่อเลี้ยงดีพอสมควร จึงรีบเดินไปหาหญิงสาว
“พี่แฟน วันนี้ไปนอนบ้านปลายนะ ปลายมีเรื่องอยากจะปรึกษา”
“ไม่ได้นะหนูแฟน เป็นสาวเป็นนางจะไปนอนที่อื่นได้ยังไงกัน นอกบ้านอันตรายจะตาย” พ่อเลี้ยงที่หวังจะเคลมลูกเลี้ยงรีบออกตัว เขารอโอกาสมาหลายวันแล้ว ตั้งใจจะรวบรัดเธอเป็นเมียของเขาให้ได้ให้เร็วที่สุด ในช่วงที่อีแก่แม่ของเธอไม่อยู่
“บ้านของฉันจะปลอดภัยก็ต่อเมื่อไม่มีแกอยู่ด้วยเท่านั้นแหละ” แล้วจูงมือทิตยาเดินเข้าบ้านไปด้วยกัน “ไปเก็บของเป็นเพื่อนพี่หน่อย”
“คุณน้าจะไปไหนครับ อยู่คุยกับผมก่อน” ฐวรรษดึงแขนของสุชาติที่ทำท่าจะเดินตามสาว ๆ เข้าไปในบ้าน
“ฉันจะเข้าบ้านฉัน แกอย่ามายุ่ง” สุชาติสะบัดแขนอย่างไม่พอใจ แล้วเดินตามหลังหญิงสาวทั้งสองเข้าไป
ฐวรรษเห็นดังนั้นจึงรีบเดินตามเข้าไปอีกคน เพราะเขาก็ไม่ไว้ใจผู้ชายคนนี้เหมือนกัน..
ธิมาดาหยิบกุญแจออกจากกระเป๋าแล้วไขที่ประตูห้อง จูงมือทิตยาเดินเข้าไปข้างในแล้วกดล็อค ลงกลอนสองชั้นอย่างเคยชิน
“นั่งรอพี่ก่อนนะปลาย พี่หยิบของก่อน” เธอชี้ให้อีกฝ่ายนั่งลงบนเตียง
“พี่แฟนไปอยู่บ้านปลายเลยดีกว่ามั้ย กว่าแม่จะหายดี”
“ไม่ดีกว่าปลาย ปกติมันก็ไม่ค่อยกลับมาบ้านหรอก ตั้งแต่แม่ไม่อยู่พี่ก็เพิ่งเห็นหัวมันนี่แหละ” ตอบขณะที่มือก็เก็บเสื้อผ้ากับของใช้ส่วนตัวใส่กระเป๋า “เรียบร้อยแล้ว ไปกันเถอะ”
...................
สุชาติกำลังนั่งอยู่ที่โซฟารับแขก พร้อมกับชายหนุ่มหน้าตาดีที่เขาไม่ชอบหน้านัก เพราะมองเขาเหมือนจะจับผิดอยูตลอดเวลา
“แกเป็นอะไรกับหนูแฟน”
“แล้วคุณน้าคิดว่าเป็นอะไรล่ะ” น้ำเสียงที่ฝ่ายนั้นถามกระด้างยิ่งนัก เขาจึงรวนกลับบ้าง
“เอ๊ะ! ฉันถามแกดี ๆ นะไอ้หนุ่ม!”
“ก็คนที่ดึก ๆ ดื่น ๆ เขาขับรถมาส่งกันเนี่ยะ จะเรียกว่าอะไรล่ะน้า”
“เด็กดีอย่างหนูแฟน คงไม่คบกับคนอย่างนายหรอก!” เพราะความหึงหวงในตัวลูกเลี้ยง ทำให้สุชาติเริ่มคุมอารมณ์ไม่อยู่ จึงพาลใส่อย่างไม่พอใจ
“แล้วคนอย่างพี่ต้นเขาเป็นยังไงเหรอน้าชาติ”
สองสาวที่เดินลงมาจากชั้นบนได้ยินคำพูดของสุชาติเข้าพอดี แต่กลับเป็นธิมาดาที่ไม่พอใจพ่อเลี้ยงอย่างมาก จับมือของทิตยาแล้วบีบแน่นเมื่อเธอกระแซะเข้าหาอย่างกริ่งเกรง
“ผู้ชายคนนี้เขาเป็นอะไรกับฉันมันก็ไม่เกี่ยวกับน้า อย่ามาก้าวก่ายเรื่องส่วนตัวของฉันอีก จำไว้” เธอเดินลงบันไดแล้วก้าวมายืนข้างชายหนุ่ม ปล่อยมือของทิตยา “ออกไปจากบ้านฉันได้แล้ว ฉันจะปิดบ้าน ไปกันเถอะค่ะพี่ต้น น้องปลาย” แล้วเดินนำหน้าออกไปที่รถ
หลังจากที่ทุกคนเดินออกจากบ้านไปแล้ว สุชาติก็เตะไปที่โซฟารับแขกอย่างต้องการระบายอารมณ์
“มึงหนีกูไม่พ้นหรอกอีแฟน ถ้ากูไม่ได้มึงเป็นเมียก็อย่ามาเรียกกูว่าสุชาติเลย” แล้วผลุนผลันออกจากบ้านไป เป้าหมายก็คือบ่อนการพนันที่คุ้นเคย
……………..
คฤหาสน์ธนภัทร์กิตติวุฒิ
ฐวรรษเลี้ยวรถเข้าไปภายพื้นที่ของคฤหาสน์ และเห็นชายหนุ่มคนหนึ่งยืนกอดอกรออยู่ก่อนแล้ว
“น้องปลาย คุณเป้มาตั้งแต่เมื่อไหร่” ธิมาดาชะโงกหน้ามาจากด้านหลังแล้วถามเสียงเบา เมื่อเห็นเจ้าของบริษัทสุดหล่อที่ยืนพิงเสามุขรอท่า
เห็นแบบนี้ก็เหมือนเขายืนแอ็คท่าถ่ายแบบอยู่เหมือนกันนะ
“สงสัยเพิ่งมาถึงค่ะพี่แฟน เพราะตอนที่ปลายออกไปพี่เป้ยังไม่มาเลย” สองสาวนั่งคุยกันอยู่ในรถ แต่อีกหนึ่งหนุ่มนั้นเปิดประตูลงไปแล้ว เพราะรู้ว่าเพื่อนสนิทคงจะออกมายืนรอน้องสาวแน่ ๆ
“มาถึงเมื่อไหร่วะเป้”
“มาถึงเมื่อชั่วโมงก่อนนี้เอง” เขาตอบเพื่อน คลายมือที่กอดอกลงไปล้วงกระเป๋าแทน “ไปไหนกันมา” เขารู้สึกโล่งอก เมื่อเห็นน้องสาวกลับมาพร้อมกับเพื่อนสนิท ไม่ใช่ชายหนุ่มแปลกหน้าคนไหน
“น้องปลายเขาชวนไปงานเปิดตัวคอลเล็กชั่นใหม่ของลาซิก้าน่ะ ทำไม เป็นห่วงเหรอ”
“รู้ว่าไปกับนายฉันก็สบายใจ นึกว่าไปกับใครที่ไหน.. แล้วนี่แม่คุณจะนั่งอยู่บนรถอีกนานไหม พี่ชายกลับมาทั้งทีไม่เห็นจะดีใจเลย” ตอนท้ายตำหนิน้องสาวให้เพื่อนฟังอย่างเอ็นดู
“สงสัยจะคุยเพลิน” ฐวรรษตอบยิ้ม ๆ เพ่งมองเข้าไปในรถแต่ก็ไม่เห็นอะไรเพราะความมืด
“คุยกับใครอยู่ในรถ” ยุทิตย์ขมวดคิ้วสงสัย เพ่งมองเข้าไปในรถแต่ก็ไม่เห็นอะไร แล้วความสงสัยของเขาก็เปลี่ยนเป็นรอยยิ้ม เมื่อเห็นคนที่เปิดประตูลงมา
“พี่เป้ขา” ทิตยาวิ่งเข้าไปกอดรอบเอวสอบไว้อย่างรักใคร่ เธอเงยหน้าขึ้นสบตาพี่ชาย “คิดถึงพี่เป้จังเลยค่ะ แล้วพี่เป้คิดถึงปลายบ้างหรือเปล่า”
ยุทิตย์กอดตอบน้องสาว หอมแก้มซ้ายขวาของเธอโดยไม่ได้สังเกตใครอีกคนที่ลงมาจากรถทีหลัง
“สวัสดีค่ะคุณเป้”
เสียงทักที่ดังขึ้นทำให้เขาละสายตาจากน้องสาวและมองไปที่เธอพร้อมยกมือรับไหว้
