บทที่ 2 รอวันเอาคืน
หลายปีต่อมา เรื่องราวมากมายที่เข้ามาในชีวิตของแป้งร่ำ ช่างผ่านพ้นไปอย่างรวดเร็ว แม้ว่าจะมีอะไรเปลี่ยนไปมากแต่สิ่งหนึ่งที่เธอจดจำได้ดี คือการตายของแม่
หญิงสาวรูปร่างอรชรย่างเท้าไปยังห้องพักผู้ป่วยวีไอพี ก่อนผลักประตูเข้าด้านใน
“มาแล้วเหรอ หนูแป้ง”
“ยายเพิ่งหลับเหรอคะ” แป้งร่ำไปหยุดข้างเตียงพลางมองดูหญิงสูงวัย
“อืม”
“วันนี้ป้าสร้อยกลับไปพักที่บ้านก็ได้ แป้งจะดูแลยายเอง”
“ป้าว่าหนูแป้งควรกลับไปพักมากกว่า”
ท่าทางของหญิงสาวไม่ค่อยสู้ดีนัก นับตั้งแต่เรียนจบบวกกับพวงผกาล้มป่วย ทำให้แป้งร่ำต้องทำงานหลายอย่าง ดอกสร้อยอดไม่ได้จะเป็นห่วงสาวรุ่นลูก
“แป้งไหว ไม่ต้องห่วงนะคะ” ส่งยิ้มหวานให้แก่คนตรงหน้าหวังคลายความกังวล
“ถ้ามีอะไรให้ป้าช่วยก็รีบบอกนะ”
“ค่ะ”
คล้อยหลังของป้าแม่บ้านไม่กี่นาที แป้งร่ำทิ้งตัวนั่งลงบนเก้าอี้พร้อมนำมือเหี่ยวย่นของยายขึ้นมากุม
“ยายต้องรีบหายไว ๆ ชีวิตของแป้งมีแค่ยายคนเดียวนะคะ”
น้ำใสไหลรินอาบแก้มนุ่มนิ่มพลางนึกถึงเรื่องราวในอดีตอย่างซาบซึ้งในบุญคุณของพวงผกา หากตอนนั้นไม่ได้รับการช่วยเหลือจากหญิงสูงวัย ป่านนี้ไม่รู้จะเป็นยังไงแล้ว อาจจะต้องหนีหัวซุกหัวซุนเพื่อเอาตัวรอด
เวลาล่วงเลยผ่านไปสักพัก คนบนเตียงลืมตาขึ้นมาทักทายหลานสาวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม
“คืนนี้แป้งจะเฝ้ายายเหรอ”
“ค่ะ”
“ถ้าเหนื่อยก็พักบ้างนะแป้ง อย่าหักโหมเกินไป ยายอยากเห็นหลานมีความสุขนะ”
“แป้งไม่เป็นไรค่ะ แป้งแข็งแรงจะตาย” ฉีกยิ้มหวานโชว์ฟันขาวให้แก่คนตรงหน้าด้วยท่าทางสดใส
“แป้ง”
“คะ” คิ้วเรียวสวยเลิกขึ้นมองคนบนเตียง สีหน้าเคร่งเครียดของพวงผกาทำให้เธอรับรู้ได้ทันที คำพูดต่อไปนี้ของอีกฝ่ายค่อนข้างจริงจัง
“เรื่องที่หลานจะเอาคืนคนพวกนั้น ยายอยากให้หลานล้มเลิกได้ไหม” เพราะเป็นห่วงแป้งร่ำจะมีจุดจบเช่นเดียวกับลูกสาว พวงผกาจึงอยากให้คนตรงหน้ายุติทุกอย่างลง แล้วใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอย่างที่ควรจะเป็น
“ไม่ค่ะ แป้งจะไม่มีวันล้มเลิกเด็ดขาด” เธอใช้เวลาหลายปีในการรวบรวมข้อมูลของคนเหล่านั้น รวมถึงแผนการต่าง ๆ ที่รอวันสะสาง ฉะนั้นจะไม่มีทางหยุดเด็ดขาด
“แป้ง ถือว่ายายขอก่อนตายเถอะ”
“พูดอะไรของยายคะ ยายจะต้องไม่เป็นอะไรแน่นอน” คำพูดของพวงผกาทำเอาใจสาวร่วงหล่นตาตุ่มอย่างหวาดกลัว
“รับปากยายสิ ถ้ายายเป็นอะไรไปหลานต้องใช้ชีวิตอย่างมีความสุข”
“ค่ะ” พยักหน้าหงึก ๆ
“ห้ามแก้แค้นอะไรด้วย เข้าใจไหม”
“เอ่อ คือ…” แป้งร่ำไม่อาจตอบรับคำขอของพวงผกาทันที เพราะเธอไม่สามารถทำตามได้แน่นอน
“แป้ง!!” ตะคอกเสียงแข็งดังสนั่น ก่อนจะไอหลายที
“อย่าเพิ่งพูดอะไรเลยนะคะ นอนพักก่อนเถอะ” แป้งร่ำพยายามเบี่ยงเบนความสนใจของหญิงชราด้วยความเป็นห่วงสุขภาพ
“แป้ง หลานสำคัญกับยายมากนะ” หญิงสูงวัยกุมมือเรียวของแป้งร่ำ
“ค่ะ แป้งรู้” ส่งยิ้มหวานให้แก่คนบนเตียง ไม่นานพวงผกาหลับอีกครั้ง
“ยายไม่ต้องห่วงนะคะ แป้งจะไม่มีทางเป็นอะไรเด็ดขาด จนกว่าพวกมันจะได้รับบทลงโทษกับสิ่งที่เคยทำกับแม่”
ความเจ็บปวดที่ได้รับจากคนชั่วเหล่านั้น ทางเดียวที่จะสามารถลบล้างได้คือการแก้แค้น
หลังจากพวงผกาหลับไม่นาน แป้งร่ำย่างเท้าออกจากห้อง ก่อนไปหาที่เงียบ ๆ นั่งคิดอะไรเรื่อยเปื่อย
หญิงสาวทอดสายตามองบรรยากาศยามค่ำคืนด้วยความรู้สึกว่างเปล่า ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนที่นั่งเล่นบริเวณนั้น ก่อนแบกร่างกายเหนื่อยล้าจากงานกลับไปหายาย
แป้งร่ำทิ้งตัวนั่งลงข้างหญิงชรา ซบหน้าหวานลงบนเตียงพร้อมกุมมือเหี่ยว
“แป้งรักยายที่สุดนะคะ” ว่าแล้ว ดวงตากลมโตหย่อนลงอย่างเชื่องช้า ในที่สุดเข้าสู่ห้วงนิทรา
แสงแดดในยามเช้าสาดส่องเข้ามาในห้อง ปลุกแป้งร่ำตื่นจากการหลับใหล ก่อนหญิงสาวจะส่งยิ้มให้แก่คนบนเตียง
“ยายคะ ตื่นได้แล้ว” เธอลุกขึ้นยืนเต็มความสูงพร้อมเอื้อมมือจับมือเหี่ยวย่น ใบหน้างดงามสลดลงเมื่อพบว่ามือของพวงผกาเย็นเฉียบ
“ยายคะ ยาย...” เสียงหวานพยายามปลุกคนบนเตียง ซึ่งยังคงไร้การตอบสนอง
เมื่อตั้งสติได้แป้งร่ำรีบวิ่งออกไปเรียกนางพยาบาล อีกคนรีบเดินตามหญิงสาวมาตรวจอาการ
“ยายของแป้งเป็นยังไงบ้างคะ ยายจะไม่เป็นอะไรใช่ไหม” เอ่ยถามขณะน้ำตาคลอเบ้า
“รอคุณหมอมาตรวจอีกทีนะคะ”
“ค่ะ” พยักหน้าหงึก ๆ พลางชำเลืองมองดูหญิงชรา
หญิงสาวรอแพทย์ไม่นานก็ปรากฏตัว ก่อนอีกฝ่ายจะแจ้งสาเหตุการเสียชีวิตของพวงผกาให้แก่แป้งร่ำรับรู้
ประโยคของหมอทำเอาหญิงสาวช็อกราวกับโลกทั้งใบหยุดเคลื่อนไหว วินาทีต่อมากายสาวทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นดั่งคนใจสลาย
“ฮือ ๆ ไม่จริงใช่ไหม ยายต้องอยู่กับแป้งสิ” มือเรียวยกขึ้นปิดหน้าพร้อมปล่อยโฮอย่างไม่อับอายต่อสายตาแพทย์กับนางพยาบาล
การจากไปของพวงผกาสร้างความเสียใจแก่แป้งร่ำ คนงาน และแม่บ้านเป็นอย่างมาก งานศพของหญิงชราถูกจัดขึ้นท่ามกลางความเสียใจของเหล่าผู้คนที่รู้จัก
สำหรับแป้งร่ำทุกอย่างเกิดขึ้นเร็วมาก แทบไม่อยากเชื่อสักนิดสิ่งที่เกิดขึ้นจะเป็นความจริง
“แป้ง ไม่เป็นไรใช่ไหม”
“ริสา ฉันไม่อยากเชื่อเลยมันจะเป็นเรื่องจริง ยายไม่อยู่กับฉันแล้ว” แป้งร่ำสวมกอดเพื่อนสนิทพลางปล่อยน้ำตาไหลพรากอาบแก้มนวล เธอไม่อยากยอมรับกับการสูญเสียครั้งนี้ ได้แต่โทษตัวเองหากดูแลยายดีกว่านี้ หญิงชราคงไม่ด่วนจากไป
“แกต้องเข้มแข็งนะแป้ง นายแม่ไปสบายแล้ว” ทั้งที่เธอเองอยากร้องไห้เหมือนกันที่สูญเสียผู้มีพระคุณ แต่ไม่อาจหลั่งน้ำตาต่อหน้าแป้งร่ำ กลัวเพื่อนจะเสียขวัญไปมากกว่านี้
“ฮือ ๆ”
“แป้ง เธอยังมีฉัน”
“อืม ขอบใจนะริสา” แป้งร่ำผละออกจากอ้อมกอดของคนตรงหน้า ส่งยิ้มทั้งน้ำตาให้อีกคน
“ฉันอยู่ข้างเธอเสมอนะแป้ง”
“อืม”
หลังจากงานศพของพวงผกาผ่านไปเกือบหนึ่งเดือน แป้งร่ำเริ่มทำใจได้บ้างแล้วกับการสูญเสีย ซึ่งนับจากนี้หญิงสาวพร้อมจะเอาคืนพวกคนชั่ว
“ยายขา...ไม่ต้องห่วงแป้งนะคะ แป้งจะไม่เป็นอะไรแน่นอน” ใบหน้างดงามแหงนมองท้องฟ้า ระหว่างยืนชมวิวยามค่ำคืนบริเวณระเบียง
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น ส่งผลให้คนตัวเล็กสะดุ้งตื่นจากภวังค์ แล้วย่างเท้าไปเปิดประตูให้แก่คนข้างนอก
“มีอะไรเหรอ ริสา” คิ้วเรียวเลิกขึ้นเชิงสงสัยในท่าทีของเพื่อน
“ขอคุยอะไรด้วยหน่อย รบกวนหรือเปล่า”
“ไม่เลย เข้ามาสิ” แป้งร่ำเชื้อเชิญคนตรงหน้าให้เข้าห้อง จากนั้นปิดประตูและตามหลังริสาไปนั่งยังปลายเตียง
“แป้ง เธอจะเข้ากรุงเทพใช่ไหม” ริสารีบเปิดประเด็นทันที
“อืม”
“ฉันไปด้วยนะแป้ง ฉันขอแม่แล้ว แม่อนุญาต”
“ริสา เธอรู้ไหมว่าฉันไปทำไม”
“รู้สิ เพราะรู้ไงถึงอยากไปด้วย”
“แต่มันอันตรายนะริสา ฉันไม่อยากให้เธอไปเสี่ยง” เรื่องของเธอ เธออยากจัดการคนเดียวไม่อยากดึงใครเข้ามาเกี่ยวข้องทั้งนั้น
“ฉันรู้ไงว่ามันอันตราย ฉันถึงอยากไปกับแป้ง เราเป็นเพื่อนกันนะแป้ง”
“แต่...” ไม่ทันแป้งร่ำจะเอ่ยจบ ริสายกนิ้วเรียวแตะริมฝีปากอวบอิ่ม
“ฉันจะไปด้วย ถ้าแป้งเห็นว่าเราเป็นเพื่อนกันก็ต้องพาฉันไปด้วย” ไม่ว่าอย่างไร เธอไม่อยากให้แป้งร่ำต้องเสี่ยงอันตรายเพียงลำพัง
“แล้วป้าสร้อยล่ะ ริสาจะทิ้งป้าสร้อยไว้ที่นี่คนเดียวเหรอ”
“ไม่ต้องห่วงหรอก แม่ไม่ได้อยู่ที่นี่คนเดียวสักหน่อย คนอื่นอยู่ตั้งเยอะแยะ”
“ฉันไม่อยากให้เธอไปเสี่ยงจริง ๆ นะริสา” ใบหน้าของแป้งร่ำฉายถึงความกังวล
“ฉันสัญญาเลย ฉันจะไม่เป็นภาระของแป้ง”
“แต่ว่า...”
“พอเลยแป้ง ฉันไม่อยากฟังอะไรทั้งนั้น ฉันจะไปด้วยถือว่าตกลงแล้วนะ” ริสายกมือเล็กทั้งสองข้างปิดใบหูและก้าวออกจากห้อง โดยไม่ยอมฟังคำพูดของแป้งร่ำ
“เฮ้อ...ทำไมหัวรั้นอย่างนี้นะริสา”
