13 ดินเนอร์หรู...หรือหนูติดกับ
แสงไฟสลัวภายในร้านอาหารหรูหราสร้างบรรยากาศลึกลับและเย้ายวน มธุสรเดินเคียงข้างปุณณภพ สัมผัสอุ่นร้อนจากมือหนาที่กุมมือเธอไว้ ทำให้หญิงสาวรู้สึกถึงความปรารถนาที่กำลังก่อตัวขึ้น
สายตาของผู้คนในร้านต่างจับจ้องมาที่หนุ่มหล่อสาวสวย ราวกับกำลังชื่นชมคู่รักที่เหมาะสมกันอย่างกิ่งทองใบหยก
มธุสรรู้สึกถึงความร้อนผ่าวที่แก้ม เธอพยายามควบคุมสติไม่ให้หลุดลอยไปกับสายตาเหล่านั้น ปุณณภพไม่สนใจสายตาของใคร ก่อนจะกระชับมือของเธอให้แน่นขึ้น และพาหญิงสาวเดินไปยังโต๊ะที่จองไว้ซึ่งอยู่ในโซนวีไอพีที่ถูกปิดบังสายตาด้วยฉากกั้น สร้างความเป็นส่วนตัวให้กับทั้งสอง
เมื่อนั่งลงที่โต๊ะ ปุณณภพก็สั่งอาหารและเครื่องดื่ม เขาหันมามองมธุสรด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความปรารถนา ก่อนจะเอ่ยถามเธอขึ้นด้วยเสียงทุ้มนุ่ม
“วันนี้คุณอยากทานอะไรเป็นพิเศษไหมครับ” เขาถาม
“อะไรก็ได้ค่ะ” มธุสรตอบ
“ผมไม่น่าถามเลย โอเค.. งั้นผมขอสั่งให้คุณเลยก็แล้วกัน” ปุณณภพกล่าวจบก็รีบแสกนคิวอาร์โค้ดเมนูอาหารบนโต๊ะทันที
หลังจากสั่งอาหารเสร็จ ปุณณภพก็เริ่มชวนมธุสรคุย เขาพยายามทำให้เธอรู้สึกผ่อนคลายและเป็นกันเอง หญิงสาวพยายามตอบคำถามของเขา แต่เธอก็ยังคงรู้สึกอึดอัดและไม่ไว้ใจเขาอยู่ดี
เมื่อพนักงานมาเสิร์ฟ ปุณณภพก็รีบตักอาหารให้เธอ เขาดูแลหญิงสาวเป็นอย่างดี จนมธุสรเคลิ้มและเริ่มรู้สึกประทับใจในตัวเขา แต่เธอก็ยังคงคอยระวังตัว
“อาหารอร่อยถูกใจไหมครับ” ปุณณภพเอ่ยถามหลังจากเห็นมธุสรทานอย่างเอร็ดอร่อย
“อร่อยค่ะ” มธุสรตอบพร้อมรอยยิ้ม
“ผมดีใจที่คุณชอบ” ปุณณภพกล่าว
“ทุกเมนูผมตั้งใจเลือกสำหรับคุณเลยนะ”
“ขอบคุณนะคะ” มธุสรกล่าว
“ไม่เป็นไรครับ” ปุณณภพกล่าว
“ผมมีความสุขที่ได้ดูแลคุณ”
ทั้งคู่ทานอาหารกันไปคุยกันไป จู่ ๆ ปุณณภพก็เล่าเรื่องสนุกๆ ให้เธอฟัง
“งานเลี้ยงรุ่นเพื่อนเก่า โฆษกประกาศ ใครกลัวเมียให้ขึ้นบนเวที” ปุณณภพเริ่มเล่า
“ผู้ชายทุกคนขึ้นเวทีเกือบหมด เหลือแค่นายสมชายคนเดียวที่ยังคงนั่งอยู่ที่โต๊ะ เพื่อนๆ ของเขาต่างพากันฮือฮายกย่องในความใจกล้า ทุกคนต่างพากันตบมือและยกนิ้วให้เขา โฆษกจึงเข้าไปสัมภาษณ์ถึงเคล็ดลับของสมชายว่าทำไมเขาถึงไม่กลัวเมีย
สมชายรีบตอบทันควัน เมียผมไม่ให้ขึ้นครับ!!!”
มธุสรหัวเราะออกมาเบาๆ ปุณณภพยิ้ม เขาดีใจที่เธอชอบเรื่องตลกของเขา
“แล้วมีอีกเรื่องหนึ่ง” ปุณณภพเล่าต่อ
“ภรรยายืนพินิจพิจาณารูปร่างของตัวเองอยู่หน้ากระจกในห้องแต่งตัว
เธอรู้สึกไม่ดี กับภาพที่เห็น จึงเอ่ยกับสามีว่า
คุณคะ ฉันรู้สึกแย่จังเลย ดูสิ!! ทั้งแก่ ทั้งอ้วน ทั้งน่าเกลียด คุณพอจะชมอะไรที่ทำให้ฉันรู้สึกดีขึ้นบ้างไหมคะ”
“สามี ก็เลยรีบตอบว่า อืม!!! สายตาคุณยังดีมากเลยนะ!”
มธุสรหัวเราะออกมาดังกว่าเดิม ปุณณภพหัวเราะตามเธอไปด้วย
“คุณนี่ตลกจริงๆ เลยนะคะ” มธุสรกล่าชมพร้อมกับอมยิ้ม
“ขอบคุณครับ” ปุณณภพกล่าว
“ผมดีใจที่ทำให้คุณหัวเราะได้”
“ฉันไม่ค่อยได้หัวเราะแบบนี้มานานแล้ว” มธุสรกล่าว
“ผมหวังว่าผมจะเป็นคนที่ทำให้คุณหัวเราะได้บ่อยๆ นะครับ” ปุณณภพกล่าว
มธุสรยิ้ม เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกาย มธุสรเริ่มรู้สึกว่าตนเองอาจจะชอบปุณณภพขึ้นมาบ้างแล้ว
ความรู้สึกของเธอเริ่มที่จะชัดเจนขึ้นเมื่อปุณณภพแสดงความเป็นห่วงเป็นใยต่อเธออย่างจริงใจ
ความอ่อนโยนของเขาทำให้มธุสรรู้สึกว่าเธอสามารถเปิดใจให้กับเขาได้
มธุสรเริ่มรู้สึกว่าปุณณภพไม่ใช่คนเลวร้ายอย่างที่เธอคิด
เธอรู้สึกถึงความอบอุ่นที่แผ่ซ่านไปทั่วร่างกายจนรู้สึกว่าตนเองอาจจะชอบปุณณภพจริงๆ
ทั้งสองทานอาหารกันต่ออย่างเงียบๆ มธุสรรู้สึกผิดที่เธอขับรถชนเขาในวันนั้น
“ผมอยากจะพาคุณไปที่ ๆ เป็นส่วนตัวมากกว่านี้” ปุณณภพรีบบอกเธอหลังจากทานอาหารเสร็จ
มธุสรลังเลเล็กน้อย แต่เธอก็ยอมตกลง มันเป็นบาร์เล็ก ๆ ที่เขาโปรดปราน
แสงไฟสลัวในบาร์สร้างบรรยากาศลึกลับและเย้ายวน เสียงเพลงแจ๊สคลอเบา ๆ ชวนให้เคลิบเคลิ้ม มธุสรนั่งจิบไวน์ มองปุณณภพที่นั่งอยู่ตรงข้าม
“ผมขออะไรอย่างหนึ่งได้มั้ยครับ” ปุณณภพเอ่ยเสียงกระซิบ ดวงตาคมกริบจับจ้องอยู่ที่ริมฝีปากอวบอิ่มของเธอ
“อะไรเหรอคะ”
“เต้นรำกับผมสักเพลงได้มั้ย” ปุณณภพเอ่ยขึ้น เมื่อเพลงบรรเลงมาถึงท่อนที่ฟังสบาย ๆ ชวนให้ขยับตัวตาม
มธุสรเม้มปากแน่น เธอรู้สึกถึงความปรารถนาที่กำลังก่อตัวขึ้นในใจ แต่ก็พยายามตั้งสติว่าตนเองไม่ควรปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเขา
“...........” มธุสรลังเลเล็กน้อย แต่บรรยากาศในร้านมันช่างเป็นใจเหลือเกิน
“อื้ม..ก็ได้ค่ะ” เธอตอบเสียงเบาหวิว ปุณณภพยิ้ม เขาเดินมาจูงมือเธอไปยังฟลอร์เต้นรำ เขาสวมกอดเธออย่างแผ่วเบา ก่อนจะเริ่มขยับตัวตามจังหวะเพลง
ฤทธิ์ของแอลกอฮอร์ทำให้อารมณ์ของเธอพลุ่งพล่าน ก่อนจะซบหน้าลงกับอกของเขา หญิงสาวรู้สึกถึงความอบอุ่นและปล่อยให้เขาพาเธอเต้นรำไปตามจังหวะเพลง
เสียงเพลงแจ๊สคลอเบา ๆ สร้างบรรยากาศโรแมนติก
แสงไฟสลัวสาดส่องร่างของทั้งสองที่กำลังเต้นรำด้วยท่าทางที่งดงาม และมีเสน่ห์ มธุสรลืมเรื่องราวทุกอย่าง เธอปล่อยให้ความรู้สึกดี ๆ นำพาเธอไป
ปุณณภพกระชับอ้อมกอดให้แน่นก่อนจะโน้มใบหน้าลงมากระซิบข้างหูเธอ
“ผมมีความสุขจังเลยครับ..ที่ได้อยู่ใกล้ๆ คุณ”
มธุสรยิ้ม เธอรู้สึกถึงความจริงใจในน้ำเสียงของเขา
“ฉันก็มีความสุขค่ะ” เธอตอบไปตามความรู้สึก
ทั้งสองเต้นรำกันอย่างเงียบ ๆ ปล่อยให้เสียงเพลงและสัมผัสของร่ายกายบอกความรู้สึกในใจ
เมื่อเสียงเพลงจบลง ปุณณภพก็ผละร่างบางออกมาเล็กน้อย ก่อนจะจ้องมองใบหน้าหน้าสวยหวานของหญิงสาวด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความหลงใหล
“ขอบคุณนะครับ” เขากล่าว
“ค่ะ” มธุสรตอบ
ปุณณภพจูงมือมธุสรกลับไปที่โต๊ะด้วยกัน เธอรู้สึกถึงความเร่าร้อนที่ยังคงหลงเหลืออยู่บนร่างกายของเธอ
มธุสรรู้ดีว่าเธอไม่ควรปล่อยตัวปล่อยใจไปกับเขา แต่เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกแบบนั้นกับเขา ช่วงที่เต้นรำกันเมื่อสักครู่ ปุณณภพก็โอบกอดเธอสายตาของเขานั้นเต็มไปด้วยความห่วงใยและอ่อนโยนใจจนเธอรู้สึกหลงไหล
