ตอนที่ 2
ตอนที่ 2
โดยหารู้ไม่ว่าเวลานี้มีคนบางคนกำลังนั่งมองภาพที่ติดอยู่ในเอกสารสมัครงานพร้อมสีหน้าครุ่นคิด เมื่อรู้สึกคุ้นหน้าคนในภาพ ก่อนที่ความทรงจำเมื่อหลายเดือนก่อนจะผุดขึ้นมา วันนั้นเขาไปเที่ยวกับคนรักและกำลังเดินไปขึ้นรถ แล้วอยู่ๆ ก็มีคนวิ่งมาชน ทำให้สาวข้างกายของเขาไม่พอใจเป็นอย่างมาก ต่อว่าและกล่าวหาคนในภาพต่างๆ นานา ว่าตั้งใจวิ่งชนเพื่อเรียกเงิน แต่คนในภาพปฏิเสธเสียงแข็งพร้อมปาเงินคืน เมื่อคนรักของเขายื่นเงินให้ ตอนนั้นสองสาวปะทะฝีปากกันจนคนเริ่มหันมอง ทั้งที่เขาพยายามห้ามแล้ว แต่สองสาวกลับไม่ฟัง เขาเลยขอร้องให้คนในภาพรับเงินไป แล้วเขาก็รีบพาคนรักไปขึ้นรถ แต่คนในภาพกลับเอาเงินมาปาคืน ตอนนั้นทำเอาเขาไม่พอใจอยู่เหมือนกัน
‘เอาเงินของพวกคุณคืนไป แล้วก็จำเอาไว้ด้วยว่าอย่าเที่ยวเอาเงินฟาดหัวคนอื่นแบบนี้อีก เพราะเงินมันซื้อทุกอย่างไม่ได้’
ปากหยักขยับยิ้มเล็กน้อยเมื่อหวนคิดถึงคำพูดทิ้งท้ายของสาวสวยคนนั้น ที่ทำให้เขานึกอยากกำราบให้หลาบจำนัก ก่อนจะลืมเลือนเรื่องราวนี้ไป จนกระทั่งเธอมาสมัครงานที่บริษัทของเขา
“อยากรู้จริงๆ ว่าถ้าได้เห็นหน้าโจทก์เก่า แล้วจะทำหน้ายังไง” สิ้นเสียงเขาก็เรียกให้คนบางคนเข้าไปสัมภาษณ์ ทำเอาคนที่เฝ้ารออย่างใจจดใจจ่อถึงกับตกใจระคนดีใจเมื่อการรอคอยสิ้นสุดลง พร้อมภาวนาขอให้ได้งานที่มั่นคงต่อชีวิตซะทีเถอะ เพราะเรียนจบมาเกือบสองปีแล้ว แต่ยังหางานที่มั่นคงกับชีวิตไม่ได้ ทั้งที่เธอไม่เคยเลือกงาน
******
พราวรัมภาหยุดอยู่หน้าห้องท่านประธานแล้วสูดลมหายเข้าปอดลึกๆ ก่อนจะยกมือเคาะส่งสัญญาณบอกผู้เป็นเจ้าของห้อง เมื่อได้รับอนุญาตจึงได้เดินเข้าไปอย่างประหม่า
“สะ...สะ…สวัสดีค่ะ” กล่าวทักทายตามมารยาท แล้วนั่งลงบนเก้าอี้นวมอย่างดีเมื่อสิ้นเสียงคำเชื้อเชิญ
“ทำตัวตามสบาย ผมแค่จะสัมภาษณ์งานคุณเท่านั้น ไม่ได้คิดทำอย่างอื่น ไม่ต้องทำท่ากลัวผมขนาดนั้น” กรณ์ วิโรจน์ธรรม ท่านประธานหนุ่มในวันสามสิบเก้ากล่าวเสียงทุ้ม ก่อนจะกดยิ้มมุมปากเล็กน้อยเมื่อสาวเจ้าเงยหน้ามามอง แต่เหมือนเธอจะชะงักไปเล็กน้อย
“เป็นอะไรหรือเปล่า”
“ปละ…เปล่าค่ะ” พราวรัมภาตอบเสียงตะกุกตะกัก ก่อนจะพยายามบอกตัวเองว่าไม่ใช่ เขาไม่ใช่ผู้ชายกับผู้หญิงคู่นั้น ที่เธอเคยปาเงินใส่หน้า
“แน่ใจเหรอ”
“แน่…แน่ใจค่ะ” ตอบไปแล้วพราวรัมภาก็เริ่มคิดว่าจะขอตัวกลับดีหรือไม่ เมื่อสิ่งที่พยายามบอกตัวเองว่าไม่ใช่ จริงๆ แล้วมันใช่ เขาคือผู้ชายคนที่เธอปาเงินใส่หน้า
พราวรัมภาเอ่ออ่าจะขยับปากขอตัวกลับ อีกใจก็ค้านว่าไม่อยากได้งานหรือไง งานสมัยนี้หายากนะ
“ดิ…ดิฉันขอโทษค่ะ”
กรณ์ทำหน้านิ่วคิ้วขมวด แล้วถามกลับอย่างสงสัย “ขอโทษผมทำไม”
“ขอ…ขอโทษที่ดิฉันแสดงท่าทีไม่สุภาพต่อท่านค่ะ”
“ไม่เป็นไร ผมไม่ถือสา ว่าแต่ทำไม...” กรณ์หยุดพูดแค่นั้น แล้วใช้สายตามองสำรวจเสื้อผ้าบนกายของหญิงสาวเมื่อเพิ่งสังเกตว่าเสื้อผ้าของหญิงสาวดูไม่เรียบร้อย
“ท่านประธานหมายถึงเสื้อผ้าของดิฉันหรือเปล่าคะ” เธอย้อนถามเสียงเรียบ พร้อมกับพยายามจะดึงเสื้อสูทมาปิดตรงหน้าอก เพราะตรงนี้เปื้อนหนักกว่าตรงอื่นและเธอก็ใช้น้ำล้างจนตอนนี้ยังเปียกๆ อยู่
