
บทย่อ
“ที่รัก จัดการผมบ้าง” กรณ์นึกอยากให้คนตัวเล็กได้สัมผัสเขาบ้างพูดขึ้นและขยับลุกขึ้นยืนคร่อมร่างเล็ก แล้วค่อยๆ ย่อตัวลงให้ตัวตนอยู่ใกล้ริมฝีปากอิ่ม พราวรัมภาตาโตกับสิ่งที่ได้เห็นในระยะใกล้ อึดใจต่อมาเธอก็อ้าปากตามคำสั่งของเขา แล้วดูดกลืนตัวตนแข็งกร้าวนั้นอย่างเงอะงะ แต่กลับทำให้คนเหนือร่างคำรามลั่นห้อง แต่ไม่นานเขาก็ลุกยืนเต็มความสูง “คุณกรณ์” คนตัวเล็กขานเรียกด้วยความงุนงง ทั้งที่เมื่อครู่เขายังบังคับให้ทำอยู่เลยแต่มาตอนนี้กลับถอยหนี “พอก่อนที่รัก” ขาดคำนั้นก็กลับมาแทรกตัวกลางร่างสาวอีกครั้ง มือใหญ่จับสองขาเรียวยกขึ้นแล้วดันให้ไปด้านหน้าจนสองขาแนบสนิทกับทรวงอก จับตัวตนที่พร้อมเต็มที่เข้าหากุหลาบงาม วินาทีถัดมาเขานำพาตัวตนเข้าไปสำรวจถ้ำน้ำหวาน “อื้อ! คุณกรณ์” ความเจ็บทำให้เธอแทบเธอร้องออกมา แต่ความเจ็บแปลบที่ก่อเกิดก็เต็มไปด้วยความเสียวซ่าน *****บ่วงร้ายต้อนรัก ผ่านการตีพิมพ์กับสำนักพิมพ์ Smile life เมื่อปี 2558 ในชื่อเรื่อง บำเรอสวาทเมียเลขา นามปากกา ธิชาร์ เมื่อหมดสัญญากับทางสำนักพิมพ์ นักเขียนจึงนำมาปรับปรุงเนื้อหา (ปรับเยอะมากกกกก) เพื่อลง ebook ในนามปากกา วรัมพร ...ฝากติดตามด้วยนะคะ *****เรื่องนี้ต่อจากเรื่อง ไฟพยาบาทจอมมาร, ทัณฑ์ร้ายปรารถนาเถื่อน นะคะ แต่ก็อ่านแยกได้ค่ะ เนื้อเรื่องไม่ได้ต่อกัน เพียงแต่ตัวละครในแต่ละเรื่องโผล่ไปแจมนิดหน่อย*****
ตอนที่ 1
ตอนที่ 1
ติ๊ดๆ
เสียงโทรศัพท์ดังออกมาจากกระเป๋าสะพายทำให้เจ้าของรีบควานหา ได้แล้วก็กดรับสายโดยไม่ดูชื่อคนโทรเข้ามา เพราะตอนนี้เธอกำลังรีบเดินเพื่อไปสัมภาษณ์งาน
“สวัสดีค่ะ” พราว หรือ พราวรัมภา ปุณณุณารมย์ สาวสวยเจ้าของใบหน้าหวานน่าหลงใหลกล่าวทักทายคนในสาย ส่วนตาก็มองถนน สองเท้าก็เร่งเดินไปให้ถึงจุดหมาย
“เราเอง แก้วใจ”
“แก้วเองเหรอ มีอะไรหรือเปล่า”
“จะโทรมาถามว่าสัมภาษณ์งานเป็นยังไงบ้าง” เชฟสาวนามว่าแก้วใจถามกลับ เพราะก็ลุ้นไปกับเพื่อนด้วยเช่นกันว่าจะได้งานทำหรือไม่ หลังเจ้าตัวรองานมาเป็นเวลาหลายเดือน
“ยังไม่ได้สัมภาษณ์เลยแก้ว นี่พราวก็กำลังรีบไป แต่ฝนก็ดันตกใส่อีกเลยต้องหาที่หลบฝนก่อน” คนเร่งรีบตอบกลับแล้วก็รีบเดินจ้ำๆ ไปยังบริษัทที่นัดสัมภาษณ์งาน
“อ้าว! งั้นแก้ววางสายก่อนแล้วกัน พราวจะได้รีบไป” แก้วใจวางสายไปทันทีเมื่อเพื่อนกำลังรีบ ส่วนอีกคนก็เร่งเดินไปให้ถึงจุดหมาย เพราะกลัวฝนจะเทลงมาอีกห่าใหญ่ หลังเพิ่งหยุดตกไปได้ไม่กี่นาที
ฟู่!
“พวกบ้า!! ขับรถประสาอะไรเนี่ย มองไม่เห็นหรือไงว่ามีคนเดินอยู่ เสื้อผ้าเลอะหมดเลย” เจ้าของเสียงมองท้ายรถเบนซ์คันงามอย่างขุ่นเคือง เมื่อรถคันดังกล่าววิ่งมาด้วยความเร็ว ทำให้น้ำฝนที่ขังเต็มท้องถนนกระเซ็นโดนตัวเธอจนเลอะ ก่อนที่เจ้าตัวจะรีบเดินย้อนกลับไปยังปั๊มน้ำมันเพื่อล้างคราบสกปรก เพราะเธอคงกลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าที่หอพักไม่ทันแล้ว จากนั้นก็โบกรถวินมอเตอร์ไซค์ให้มาส่งที่หน้าบริษัทวิโรจน์ธรรม
“สวัสดีค่ะ ดิฉันพราวรัมภา ปุณณุณารมย์ ที่ทางบริษัทนัดให้มาสัมภาษณ์งานค่ะ” หลังจากเดินแกมวิ่งมาถึงฝ่ายบุคคลได้ทันเวลาพอดิบพอดี พราวรัมภาก็รีบละล่ำละลักบอก ขณะที่อีกฝ่ายก็ได้แต่มองเธอตั้งแต่หัวจรดเท้า
“แน่ใจนะคะว่าจะเข้าไปสัมภาษณ์ทั้งชุดนี้” ฝ่ายบุคคลเอ่ยถามอย่างเป็นห่วง ทั้งห่วงตัวเองที่ปล่อยให้คนแต่งตัวสกปรกเข้าไปสัมภาษณ์ ทั้งห่วงคนมาสัมภาษณ์ ที่อาจจะไม่ได้งานเพราะเสื้อผ้าสกปรก เพราะงานนี้ท่านประธานรูปหล่อจะสัมภาษณ์ด้วยตัวเอง
“ดิฉันขอโทษค่ะที่เสื้อผ้าสกปรก แต่ดิฉันไม่ได้ตั้งใจจะให้เสื้อผ้าสกปรกนะคะ พอดีมีรถขับมาเร็วแล้วน้ำบนถนนกระเด็นมาโดน แต่ดิฉันก็ไปล้างแล้วนะคะ แต่…ก็ได้แค่นี้ค่ะ” พราวรัมภาชักใจเสีย เพราะเสื้อผ้ายังมีคราบและเปียกน้ำให้เห็น
ฝ่ายบุคคลรับฟังแล้วก็ยิ้มเล็กน้อยและนึกเห็นใจ ก่อนจะบอกให้อีกฝ่ายเดินตามมาไปรอคิวสัมภาษณ์ ที่มีคนนั่งรออยู่
พราวรัมภาหันไปยิ้มให้กับอีกสองสาวที่นั่งรอคิวสัมภาษณ์ หากแต่ก็ต้องรีบหุบยิ้มลง เพราะสองสาวมองเธอด้วยสายตา ที่ทำให้เธอหน้าหดเหลือสองนิ้ว เพราะด้วยสภาพการแต่งตัวเธอและสองสาวต่างกันราวฟ้ากับเหว แถมแต่ละคนก็สวยระดับนางเอกกันเลยทีเดียว
เวลาผ่านไปเกือบจะเที่ยงวันอยู่แล้ว ก็ยังไม่ถึงคิวสัมภาษณ์ของเธอเสียที พราวรัมภาได้แต่ผุดลุกผุดนั่งอยู่อย่างนั้น เพราะสองสาวที่มารอได้เข้าไปสัมภาษณ์และพากันกลับไปแล้ว ส่วนเธอยังคงรออยู่และรอมายี่สิบกว่านาทีแล้ว
