2.ทำงานล้างหนี้
รถตู้คันหนึ่งเคลื่อนตัวบนท้องถนนยามค่ำคืน โดยภายในรถดังกล่าวต่างไม่มีใครเปล่งเสียงออกมาแม้แต่น้อย
มินตรานั่งเงียบตลอดเส้นทาง เอนกายพิงกับกระจกรถ หลับตาลงด้วยความเหนื่อยล้า
“ทำไมเธอถึงมาแทนผู้หญิงคนนั้น” จู่ ๆ เสียงของอองรีดังขึ้น ทำลายบรรยากาศความเงียบ
“พี่แก้วเป็นลูกสาวของผู้มีพระคุณของฉัน” เสียงหวานตอบเพียงเท่านั้น คนตัวสูงเข้าใจทันที
บทสนทนาระหว่างทั้งคู่เงียบลง หลังจากมินตราเอ่ยเพียงเท่านั้น ซึ่งอองรีไม่ได้ถามต่อ กระทั่งรถตู้มาหยุดยังหน้ากาสิโนร่างบางจึงถูกนำลงจากรถ
“พวกมึงพาผู้หญิงคนนี้ไปเปลี่ยนเสื้อ แล้วให้เธอมาทำงานในกาสิโน กูจะไปรายงานบอสก่อน”
“ครับคุณอองรี”
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องดังขึ้น เรียกสติเจ้าของห้องหันไปมอง ขณะกำลังยืนสูบบุหรี่
“บอสครับ ผมขอเข้าไปได้ไหม”
“เข้ามา” ตอบลูกน้องเสร็จก่อนจะโยนบุหรี่ในมือทิ้ง
“ขออนุญาตครับบอส พอดีผมมีเรื่องจะมารายงาน” ชายเจ้าของร่างสมส่วนเปิดประตูเข้ามาในห้อง รีบกล่าวขึ้นอย่างไม่รอช้า
“มีอะไร” เอ่ยถามเสียงเรียบ ทว่าแววตาแฝงความดุดัน
“ผมไปตามทวงหนี้จากไอ้ธีรพงศ์มาแล้วครับ แต่มันไม่มีให้ ผมเลยนำตัวหลานสาวมันมาเป็นตัวประกัน ไม่ทราบว่าบอสจะจัดการยังไงต่อ แต่ตอนนี้ผมให้คนพาเธอไปเปลี่ยนชุดแล้วไปทำงานในกาสิโนครับ” อองรีรายงานแก่ผู้เป็นนาย
“งั้นก็ให้ทำงานในกาสิโนล้างหนี้นี่แหละ”
“เอ่อ แล้วบอสไม่อยากจะพบเธอเหรอครับ” เอ่ยถามด้วยความไม่แน่ใจ เพราะหากเจ้านายได้พบหญิงสาวอาจจะชอบและเกิดความหวั่นไหว เนื่องจากเธอเป็นผู้หญิงน่ารักมาก แถมยังตัวเล็ก
“กูจะพบผู้หญิงคนนั้นทำไม เป็นแค่ลูกหนี้มีสิทธิ์อะไรมาเจอกู” กระชากน้ำเสียงไม่พอใจใส่ลูกน้องคนสนิท
“ครับ” อองรีตอบรับอย่างรวดเร็ว ใบหน้าชาวาบถูกคนเป็นนายต่อว่า
“แล้วมึงจะยืนทำซากอะไร!! ออกไปสิวะ”
“ครับ” เป็นอีกครั้งที่อองรีถูกเจ้านายตำหนิ
“เดี๋ยว!!” เสียงเข้มเอ่ย หยุดคนที่กำลังจะเดินออกไป หันกลับมามอง
“ครับบอส”
“ไปเรียกนีน่ามาบริการกูที่ห้องด้วย”
“ได้ครับบอส ผมจะรีบจัดการเดี๋ยวนี้ให้เลย” อองรีรับคำจากเจ้านายเสร็จ ผละออกจากห้องไป
หลังจากมินตราเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อย บัดนี้ร่างเล็กจึงอยู่ในชุดยูนิฟอร์มของกาสิโนและถูกนำตัวมาพบใครคนหนึ่ง
“คุณตุลย์ครับ ผู้หญิงคนนี้จะมาทำงานที่นี่ คุณอองรีให้ผมนำเธอมาพบคุณครับ”
“อืม”
“ผมฝากด้วยนะครับ”
“ไม่ต้องห่วง”
มินตรามองคนทั้งคู่สนทนากัน กระทั่งชายที่นำเธอมาหาชายอีกคนก็เดินจากไปหลังเสร็จธุระ ทิ้งเธอยืนเก้กังภายในห้องอย่างมึนงง เนื่องจากไม่รู้จะทำตัวอย่างไรดี จนเสียงทุ้มของชายตรงหน้าดังขึ้น
“ชื่ออะไรเหรอ” เอ่ยถามพร้อมส่งยิ้ม เพื่อต้องการให้สาวตรงหน้าคลายความกังวล
“มินตราค่ะหรือเรียกว่ามินก็ได้” ยิ้มหวานตอบเขา
“งั้นเรียกว่ามินนะครับ”
“เอ่อ ค่ะ”
“ไม่ต้องกลัวนะครับ ผมชื่อตุลย์เป็นผู้จัดการของที่นี่” ฐิติพัศหรือตุลย์ผู้จัดการกาสิโน ชายหนุ่มแสนอบอุ่นวัยยี่สิบเก้าปีเอ่ยกับหญิงสาวอย่างเป็นมิตร
“ค่ะคุณตุลย์”
“เรียกพี่ตุลย์ก็ได้ครับ ผมไม่ถือ” มองสาวร่างเล็กตรงหน้าด้วยความสนใจ
“ค่ะ” รู้สึกขัดเขินในแววตาดวงนั้นที่จ้องมองมา
“เดี๋ยวพี่จะให้คนพามินไปทำงานนะครับ” ถือวิสาสะเรียกสาวตรงหน้าด้วยความสนิทสนม แถมยังแทนตนเองด้วยสรรพนามที่ต่างไปจากเดิม
มินตราพยักหน้าเท่านั้น เธอรู้สึกมึนงงกับคำพูดของคนตรงหน้าอย่างบอกไม่ถูกทำราวกับสนิทสนมกัน ทั้งที่พึ่งจะเจอกันเมื่อไม่กี่นาที
ฐิติพัศล้วงโทรศัพท์ต่อสายหาใครบางคน กระทั่งผ่านไปไม่นานประตูห้องก็เปิดออกมา ปรากฏร่างสาววัยสามสิบปี
“คุณตุลย์มีอะไรให้น้ำใสรับใช้คะ” สาวคนดังกล่าวมายืนอยู่หน้าชายหนุ่ม พร้อมเหลือบมองร่างบางของมินตราเล็กน้อย
“นี่มินครับเป็นพนักงานใหม่ ผมฝากคุณดูแลด้วยน้ำใส” ฐิติพัศแนะนำแก่สาวตรงหน้า
“สวัสดีค่ะคุณน้ำใส” มินตราไม่รอช้าให้น้ำใสพูดสิ่งใด เธอจึงแทรกขึ้นมาก่อน
“สวัสดีค่ะน้องมิน ท่าทางเรียบร้อยจังเลย น่ารักด้วยนะคะ” น้ำเสียงใสเอ่ยชมอย่างไม่หยุดปาก เธอรู้สึกถูกชะตากับคนตรงหน้า
“ค่ะ” หญิงสาวไม่รู้จะพูดอย่างไรดี จึงตอบเพียงสั้น ๆ เท่านั้น
“น้องมินไม่ต้องกลัวพี่นะคะ”
“ยังไงผมฝากคุณดูแลมินด้วยนะครับ” ฐิติพัศแทรกขึ้น
“ได้ค่ะคุณตุลย์ไม่ต้องห่วงนะคะ น้ำใสจะดูแลเป็นอย่างดีเลย” เธอพอจะเดาได้ว่าผู้จัดการสนใจในตัวของมินตรา
“มินไม่ต้องกลัวนะครับ ไปทำงานกับน้ำใสเถอะ” ชายหนุ่มหันไปพูดกับหญิงสาวที่ยืนเงียบได้สักพัก
“ค่ะ”
“งั้นไปกันเถอะน้องมิน พี่จะพาน้องมินไปแนะนำให้คนอื่น ๆ ได้รู้จัก” น้ำใสเข้าไปประคองร่างมินตราและนำตัวหญิงสาวออกจากห้องทำงานของผู้จัดการ
ฐิติพัศมองร่างคนทั้งสองเดินลับหายไป ก่อนตนเองจะกลับไปทำงานต่อ
มินตราเดินตามหลังน้ำใส ระหว่างทางหญิงสาวมองสังเกตรอบกาย ซึ่งภายในตกแต่งอย่างหรูหรา เฟอร์นิเจอร์ทุกอย่างแวววาวระยิบระยับจนแสบตาไปหมด
“น้องมิน”
“คะ” เสียงเรียกของน้ำใส ปลุกร่างเล็กตื่นจากภวังค์ เงยมองคนตรงหน้า
“เป็นอะไรหรือเปล่าคะ” เอ่ยถามคนตรงหน้าด้วยความเป็นห่วง เนื่องจากเห็นเธอเหม่อลอย
“ปะ เปล่าค่ะ” รีบปฏิเสธทันที
“ถ้าไม่ได้เป็นอะไรมาก งั้นพี่จะแนะนำให้น้องมินรู้จักกับทุกคน”
“ค่ะ” พยักหน้าพร้อมยืนฟังคนตรงหน้าอย่างตั้งใจ
“คนแรกชื่อทัตเทพเป็นบาร์เทนเดอร์ ส่วนโน้นชื่อมาเรียม ผู้ช่วยทัตเทพ ส่วนคนอื่น ๆ น้องมินอยู่ไปก็รู้จักเอง” น้ำใสอธิบายแก่สาวข้างกาย
“ค่ะพี่น้ำใส”
“น้องมินทำหน้าที่เด็กเสิร์ฟนะคะ ท่าทางเรียบร้อยแบบน้องมิน พี่ไม่อยากให้ทำงานโซนโน้น” เธอหมายถึงโซนที่มีการเล่นพนัน
“ค่ะพี่น้ำใส”
“พวกแกสองคน ฉันฝากดูแลน้องมินด้วย”
“ได้ครับพี่น้ำใส” ทัตเทพกล่าว
“ค่ะพี่น้ำใส” มาเรียมกล่าวตามหลังทัตเทพ
“พี่ไปก่อนนะมิน ถ้ามีอะไรก็บอกสองคนนั้นได้ แต่ถ้าไม่อยากบอกสองคนนั้นก็มาบอกพี่ได้เหมือนกัน”
“ขอบคุณพี่น้ำใสมากนะคะ” พนมมือไหว้คนตรงหน้า ที่อย่างน้อยไม่ได้ใจร้ายกับเธอ
“จ้ะ”
พ้นร่างน้ำใสไปครู่หนึ่ง มาเรียมสาวหน้าฝรั่งก็เดินมาหาเธอ พร้อมทักทายอย่างเป็นมิตร
“นี้ ๆ ชื่อมินใช่ไหม เราชื่อมาเรียมนะ”
“ค่ะ ชื่อมิน” หันไปมองสาวข้างกายก่อนจะเอ่ยตอบ
“อายุเท่าไรแล้วเหรอ” มาเรียมยังคงชวนคุยไปเรื่อย
“มินอายุยี่สิบสามแล้วค่ะ”
“เหรอ นึกว่าอายุสิบแปด หน้าเด็กมาก” มาเรียมพูดอย่างตะลึงกับสิ่งที่ได้ยิน
“ค่ะ”
“งั้นเรียกเราว่าพี่มาเรียมนะ เราอายุยี่สิบเจ็ดแล้ว”
“ได้ค่ะพี่มาเรียม มินฝากตัวด้วยนะคะ” คิดจะอยู่ที่นี่อย่างสงบสุขก็ต้องรู้จักเข้าหาคนอื่นบ้าง เธอกล่าวในใจ
“น่ารักมาก” มาเรียมกล่าวชื่นชม
“เอ๊ะ...ฉันได้ยินมาว่ามีเด็กใหม่มาเหรอ” จู่ ๆ เสียงของใครคนหนึ่งแทรก ทำให้คนทั้งสองหันไปมอง
“มีอะไรนางนีน่า” มาเรียมเอ็ดบุคคลมาใหม่
“ไม่มีอะไรหรอก ฉันก็แค่มาดูหน้าตาเด็กใหม่เท่านั้น” พูดด้วยท่าทางจีบปากจีบคอ ก่อนจะเดินจากไป
มินตรามองตามร่างสูงเพรียว ทว่าต้องสะดุ้งเพราะเสียงของมาเรียม
“น้องมินไม่ต้องสนใจมันหรอก มันก็คางคกขึ้นวอแหละ”
“ยังไงเหรอคะ” คิ้วโก่งสวยเลิกขึ้น
“ก็มันนะสิ! ถือว่าตัวเองเป็นคนโปรดของบอส เลยคิดจะกำแหงกับใครก็ได้” มาเรียมขยายความอธิบายเพิ่มเติมแก่คนตัวเล็กตรงหน้า
“ใครคือบอสเหรอคะ” ถามด้วยความสงสัย
“บอสก็คือเจ้าของที่นี่ค่ะ เป็นมาเฟีย ถ้าไม่จำเป็นก็หลีกเลี่ยงนางนีน่าหน่อยละกัน ถ้าไม่อยากมีเรื่องกับมัน เดี๋ยวมันจะฟ้องบอส”
“ค่ะ มินจะพยายามเลี่ยง” หญิงสาวกลืนน้ำลายลงคอ นอกจากจะพยายามอยู่ที่นี่อย่างสงบสุขแล้ว ต้องไม่มีเรื่องกับผู้หญิงของมาเฟียอีกด้วย
