บท
ตั้งค่า

บทที่7 อดีตฝังใจ

หลังจากส่งคุณยายกลับห้องเรียบร้อยลันน์ลภัสก็กลับมาปิดห้องทำงานและเข้ามานั่งในห้องของลูกสาวตัวน้อยที่หลับสบายอยู่บนเตียงอย่างไร้เดียงสา พอแม่เลี้ยงลาวัลย์มาถามมันก็ทำให้หญิงสาวรู้สึกสับสน เธอไม่ได้สับสนว่าตัวเองทำผิดหรือไม่ แต่แค่สับสนว่าทุกอย่างมันดีกับลูกสาวของเธอจริง ๆ หรือไม่ มันจึงทำให้เธอต้องมาหาลูกสาวและมองใบหน้าไร้เดียงสานี้อย่างขบคิด

ทว่ายิ่งได้เห็นหนูน้อยยามหลับก็ยิ่งนึกไปถึงใครคนนั้นที่ใบหน้าเหมือนกันกับหนูน้อยราวกับคัดลอกกันมา ความทรงจำในอดีตแทรกเข้ามาในหัวและพาให้หญิงสาวจมอยู่กับภวังค์ความหลังอันยาวนาน

ห้าปีก่อน

‘ไม่เอาซิคะที่รัก เดี๋ยวก็มีคนมาเห็นเข้าหรอก‘

น้ำเสียงหวานตอบพร้อมกับหัวเราะคิกคักเมื่อถูกชายหนุ่มที่ใช้ของแบรนด์เนมตั้งแต่หัวจรดเท้าซุกไซ้ซอกคอขาว ภาพนั้นอยู่ในครรลองสายตาของลันน์ลภัสอย่างชัดเจน ไม่เพียงแค่ภาพ แต่เสียงเองก็ชัดแจ๋ว

เธอไม่ควรมาแอบดูเรื่องบัดสีบัดเถลิงแบบนี้ และจะไม่ให้ความสนใจเลยถ้าเจ้าของน้ำเสียงหวานที่ตอนนี้หลุดครางปนหัวเราะเป็นผู้หญิงที่ไหนก็ไม่รู้ ไม่ใช่ผู้หญิงที่ผู้ชายที่เธอหลงรักเลือกมาเป็นแฟน นี่หรือผู้หญิงที่เขารักนักรักหนา นี่หรือคนที่ทำให้เขามองข้ามความรักของเธอ

ยัยคนนี้ก็แค่ผู้หญิงที่นอกใจเขาไม่ใช่หรือไง มีดีกว่าเธอตรงไหนกัน

ลันน์ลภัสนึกโกรธเคืองแทนก่อนจะหยิบสมาร์ทโฟนขึ้นมาถ่ายรูปและวิดิโอเก็บไว้ เธอจะต้องกระชากหน้ากากผู้หญิงจอมปลอมคนนี้ออกให้ได้…แล้วถึงตอนนั้น รัชพลจะได้หันมามองเธอสักที

กริ่ง!

‘นั่นใครน่ะ‘

สองคนที่ถูกแอบดูมองหาต้นเสียงทันทีด้วยความเลิ่กลั่ก และในที่สุดก็ได้พบกับลันน์ลภัสที่แอบมองอยู่ เธอไม่น่าเปิดเสียงโทรศัพท์มือถือเอาไว้เลย ไม่อย่างนั้นคงไม่ต้องเผชิญหน้ากับคนทั้งคู่

‘คิดว่าใคร คุณหนูลูกจันทร์นี่เอง’ อณิมา แฟนสาวที่คบหาออกหน้าออกตาของรัชพลเปลี่ยนจากท่าทีตกใจเลิ่กลั่กเป็นปกติ ถ้าเป็นลันน์ลภัส อณิมาไม่กลัวอะไรหรอก ‘ไม่ยักรู้ว่าหลานสาวเจ้าของโรงแรมชอบแอบดูลูกค้า’

‘ฉันก็ไม่ได้อยากจะดูหรอก มันอุจาดตา เพียงแค่ผ่านมาเห็นเท่านั้น’ ลันน์ลภัสตอบอย่างฉะฉาน เธอไม่ได้เกรงกลัวหรือละอายใจที่มาเห็นการพรอดรักของทั้งคู่จนต้องสั่นงก ๆ เพราะถูกจับได้ หลานสาวพ่อเลี้ยงภากรเคยกลัวใครที่ไหนกัน

‘ถ้าเธอกำลังคิดจะเอาไปบอกเพลิง ฉันขอเตือนเลยนะ อย่าเลย มันเปล่าประโยชน์ เขาไม่เชื่อเธอหรอก ต่อให้หลักฐานของเธอมันจะแน่นหนาแค่ไหนก็ตาม’ อณิมาดักทางคนอายุน้อยกว่าพลางยิ้มอย่างเยือกเย็น ‘เพราะอะไรรู้มั้ย...เพราะว่าเป็นเธอพูดไงล่ะ’

‘ฉันพูดแล้วมันยังไง’

‘ไม่น่าถามเลยนะ ถึงเธอจะสนิทกับน้อง ๆของเพลิงเขา แต่เพลิงเขาก็เพิ่งมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นาน ไม่รู้หรอกคนนั้นเป็นยังไง คนนี้เป็นยังไง นั่นก็หมายความว่าพูดอะไรไปเขาต้องเชื่อไว้ก่อน‘ นัยน์ตาของอณิมาตอนนี้มองอย่างไรก็ฉายแววความร้ายกาจ แตกต่างไปจากตอนที่อยู่ข้าง ๆ รัชพล ในตอนนั้นทั้งหน้าตาและกิริยาท่าทางช่างเรียบร้อยราวกับเป็นคนละคน ลันน์ลภัสนึกไม่ถึงเลยว่าธาตุแท้ของคนตรงหน้าจะเป็นอย่างนี้

และนึกไม่ถึงเลยว่าสาเหตุที่รัชพลไม่ค่อยข้องแวะกับเธอจะเป็นเพราะผู้หญิงตรงหน้า ‘เธอ เธอเอาฉันไปพูดเสีย ๆ หาย ๆ ให้พี่เพลิงฟังเหรอ’

‘ก็...แค่บอกว่า ได้ยินคนเขาพูดมา’

‘เธอ...’

‘เดี๋ยวสิ อย่าเพิ่งโกรธ’ อณิมารีบห้ามคนที่กำลังจะหลุดด่าก่อนจะพูดในสิ่งที่ทำให้หญิงสาวอายุน้อยกว่าต้องหยุดสนใจฟัง ‘ฟังที่ฉันเล่าให้เพลิงฟังเมื่อไม่กี่วันก่อนแล้วค่อยโกรธ’

‘เธอไปพูดอะไรกับเขา’

‘ก็แค่บอกว่าเธอชอบอ่อยผู้ชายไปทั่ว แม้แต่กับเพชร ก็เท่านั้นเอง’

‘เธอ’ มือคู่ขาวกำแน่นจนแดงก่ำ รู้สึกโกรธผู้หญิงตรงหน้าจนตัวสั่น นี่หรือธาตุแท้ของผู้หญิงที่อยู่ข้างกายรัชพล มิน่าละเขาถึงได้มีท่าทีเกลียดเธอนัก ที่แท้เพราะผู้หญิงคนนี้ว่าร้ายเธอให้ฟังนี่เอง

‘ฉันจะบอกเรื่องนี้ให้พี่เพลิงรู้’

‘ไปบอกเลยจ้า เชิญเลย‘ คนเผยธาตุแท้ให้กับคนที่มาหลงรักแฟนหนุ่มได้ฟังบอกก่อนจะหัวเราะเยาะเมื่อลันน์ลภัสเดินออกไป ลันน์ลภัสจะนับว่าใจเย็นก็ว่าได้ ผู้หญิงคนนี้อณิมาเคยยั่วยุมาแล้วหลายครั้งแต่ก็ไม่เคยจะพุ่งเข้ามาหาอย่างผู้หญิงหลาย ๆ คนที่เธอเคยเจอ ‘คิดว่าไม่แตะต้องฉันแล้วเธอจะรอดเหรอ...โทษฐานที่มาขัดจังหวะกันคงต้องสั่งสอนสักหน่อยแล้ว‘

‘เบา ๆ หน่อยนะอลิซ ตาของแม่สาวนั่นมีอิทธิพลมากเลยนะ’

‘ไม่ต้องห่วงค่ะที่รัก คนที่จะจัดการยัยนั่นน่ะไม่ใช่อลิซหรอก แต่เป็นเพลิงต่างหากล่ะ’ หญิงสาวบอกกับคู่ขาก่อนที่จะโอบเอวกันหายเข้าไปในห้องพัก รอก่อนเถอะ แล้วยัยนั่นจะต้องได้นั่งร้องไห้เพราะคนที่ตัวเองชอบ

‘คุณนี่ร้ายจริง ๆ’

หลายชั่วโมงต่อมา , บ้านพลาพลพิทักษ์

‘ลันน์ลภัส...อยู่ที่ไหน ลันน์ลภัส’ เสียงที่เต็มไปด้วยความโมโหที่คล้ายกับพายุลูกใหญ่กำลังจะซัดเข้าฝั่งดังมาจากหน้าบ้านเรียกให้คุณนายพรพรรษาต้องรีบเดินมาดู เสียงที่ได้ยินเป็นเสียงลูกชายคนโตของบ้านพลาพลพิทักษ์แห่งนี้แน่ ๆ แต่ที่ทำให้คุณนายพรพรรษาไม่เข้าใจก็คือการที่ลูกชายโวยวายเรียกหาเพื่อนของน้อง ๆ คู่แฝดเสียงดังลั่นต่างหากล่ะ

‘อะไรกันลูก เอะอะโวยวายอะไร’

‘หลานสาวพ่อเลี้ยงภากรอยู่ที่นี่ใช่มั้ยครับแม่’ รัชพลที่หน้าบึ้งตึงเข้าบ้านมาถามทันทีทั้งที่ในใจรู้อยู่แล้วว่าอีกฝ่ายต้องอยู่ที่นี่

‘น้องอยู่ที่สวนกับเพชรกับพลอยน่ะ มีอะ...‘ ไม่ทันที่คุณนายพรพรรษาผู้เป็นแม่จะได้พูดจบลูกชายคนโตของบ้านก็พุ่งตรงไปที่สวนหลังบ้านทันทีด้วยหน้าตาถมึงทึง คุณนายพรรษาได้แต่ตามไปอย่างงุนงงด้วยรู้ว่าลูกชายเหมือนจะไม่ค่อยชอบเพื่อนของน้องสาวและน้องชายคนนี้สักเท่าไหร่

ภายในสวนของบ้านพลาพลพิทักษ์ ลันน์ลภัสที่ยังคงขุ่นเคืองมาที่นี่ก็เพื่อบอกเล่าให้เพื่อนสนิททั้งสองได้ฟัง ลันน์ลภัสรู้ดีว่าเดินไปบอกโต้ง ๆ รัชพลคงไม่เชื่อเธอแน่ ๆ เธอจึงต้องมาหารัชนีญาและรณพีร์ที่ช่วยเธอคิดได้ทุกเรื่อง

‘เดี๋ยวฉันบอกเรื่องนี้กับพี่เพลิงเองดีกว่า ถ้าฉันพูด พี่เพลิงต้องเชื่อฉันแน่’ รณพีร์เอ่ยขึ้นหลังจากที่ฟังเรื่องราวทั้งหมดจนจบ เขาเชื่อเพื่อนสาวโดยไม่นึกสงสัยเลยแม้แต่นิด ลึก ๆ แล้วรณพีร์ก็รู้สึกเช่นกันว่าอณิมาไม่ได้ดีอย่างที่เห็น ๆ ทว่าเขาก็ไม่คิดเลยว่าอีกฝ่ายจะอาศัยช่องโหว่ที่ว่ารัชพลเพิ่งจะมาอยู่ที่นี่ได้ไม่นานมาใส่ร้ายเพื่อนของเขาให้รัชพลฟัง

เป็นเพราะรัชพลเข้าโรงเรียนนายร้อยไปตั้งแต่ก่อนที่พ่อและแม่ของเขาจะย้ายมาตั้งรกรากที่นี่แท้ ๆ ลันน์ลภัสจึงถูกว่าร้ายทั้งที่ความจริงแล้วเพื่อนเขาไม่ได้ร้ายกาจอะไรเลยสักนิด

รัชพลก็กระไร เชื่อคำพูดผู้หญิงคนนั้นง่ายดายซะเหลือเกินทั้งที่ก็คบหากันได้ไม่นานแท้ ๆ คนพวกนี้นี่มันจริง ๆ เลย

‘เราต้องรีบไปบอกพี่เพลิงนะ ฉันก็จะพูดอีกแรง ยังไงเราสองคนพูดพี่เพลิงต้องเชื่อแน่’ รัชนีญาพูดบ้างทว่าไม่ทันที่คู่ฝาแฝดแห่งบ้านพลาพลพิทักษ์จะได้ไปบอกเล่าเรื่องราวให้พี่ชายได้ฟัง คนเป็นพี่ก็มาอยู่ไม่ไกลเสียแล้ว

‘เชื่ออะไร จะมาปั้นเรื่องอะไรหลอกฉัน’

‘พี่เพลิง’

‘แกอยู่เงียบ ๆ’ รัชพลยกมือห้ามน้องชายที่มีทีท่าจะเข้ามาพูดบางอย่างก่อนจะมองหญิงสาวที่ถือว่าเป็นคนนอกของบ้านด้วยสายตาวาวโรจน์ ‘ส่วนเธอ ถ้ายังอยากติดต่อกับพลอยกับเพชรอีก อย่ามาล้ำเส้นฉัน’

‘ลูกจันทร์ไปล้ำเส้นอะไรพี่เพลิง แล้วพี่เพลิงเป็นอะไรเนี่ย รู้มั้ยว่าวันนี้ลูกจันทร์เขาไปเจออะไรมา’ รัชนีญารีบก้าวมาขวางเมื่อเห็นว่าพี่ชายกำลังทำให้เพื่อนของเธอรู้สึกหวั่นใจ พี่ชายเธอไปโดนเป่าหูอะไรเข้าอีกละถึงได้ตีหน้ายักษ์มาหาเรื่องเพื่อนเธอแบบนี้

‘เจออะไร จะบอกว่าเจออลิซพลอดรักกับผู้ชายคนนึงอยู่รึไง’

‘ก็ชะ...’

‘อย่างที่อลิซพูดไม่มีผิด เธอนี่มันจอมมารยาจริง ๆ ทำร้ายอลิซยังไม่พอ ยังปั้นเรื่องมาหลอกครอบครัวฉันอีกเหรอ‘ ไม่ทันที่รัชนีญาจะได้พูดจบคนเป็นพี่ก็สวนขึ้นซะก่อนซ้ำยังส่ายหน้าราวกับระอา

‘เฮ้ยพี่’

‘แกไม่ต้องพูด เราด้วยพลอย วันนี้อลิซมาหาฉันด้วยหน้าที่มีรอยมือ แล้วบอกผู้หญิงคนนี้เป็นคนทำ สิ่งที่ผู้หญิงคนนี้พูด หลอกลวงทั้งนั้นล่ะ’

ลันน์ลภัสเสียใจจนแทบจะน้ำตาริน ไม่เคยรู้สึกเจ็บใจขนาดนี้เลยสักครั้งในชีวิต เธอคิดอ่านช้ากว่าอณิมาอย่างนั้นสินะ ผู้หญิงคนนั้นนำเธอไปก้าวนึงอีกแล้ว แล้วรัชพลก็ยังเชื่อจนไม่ลืมหูลืมตาเสียอีก เจ็บใจจริง ๆ

อยากจะด่าเขาเสียเหลือเกินว่าโง่ แต่มันคงไม่เป็นการดีแน่ ๆ ถ้าพูดออกไปแล้วจะส่งผลกับรัชนีญาและรณพีร์

หญิงสาวไม่โต้แย้งหรือปฏิเสธ เธอทำเพียงพรวดพราดออกไปด้วยความเจ็บใจ ในเมื่อเขาเชื่อผู้หญิงคนนั้นไปแล้ว เธอคงทำอะไรไม่ได้นอกจากพิสูจน์ให้เขาได้เห็นกับตาตัวเอง...แล้วถึงวันนั้นเธอจะรอดูว่าเขาจะขอโทษคนที่เขาหาว่าหลอกลวงคนนี้ยังไง

ออกจากบ้านพลาพลพิทักษ์ลันน์ลภัสก็ตรงดิ่งกลับบ้านและพุ่งตรงไปหาผู้เป็นตาที่มีชื่อเสียงกว้างขวางในทันที ลึก ๆ แล้วเธอมีหลายความคิดมากกว่าที่ใคร ๆ จะคาด แต่เธอไม่จำเป็นเลยที่จะต้องบอกให้ใครต้องรู้จนกว่าจะแน่ใจ

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel