บ่วงปารารี

55.0K · จบแล้ว
ต้นอ้อ/ปั้นสิบ
34
บท
3.0K
ยอดวิว
9.0
การให้คะแนน

บทย่อ

“ค่ารักษามากมายขนาดนั้น จะให้น้าหามาจากไหนกัน” “น้าเอาเงินพ่อไปถลุงจนหมด น้าต้องหาเงินมาจ่ายค่ารักษาพยาบาลพ่อช่วยปลา” “ฉันไม่มี ถ้าอยากให้พ่อแกรอด แกก็ขายตัวหาเงินมาจ่ายรักษาพ่อแกเองแล้วกัน”

นิยายรักจีบเมียเก่าพาลูกกหนีรักแรกพบตั้งครรภ์ดราม่ารักหวานๆโรแมนติก

1

Chapter 1

ภายในห้างวันหยุดสุดสัปดาห์เต็มไปด้วยครอบครัวและกลุ่มวัยรุ่นเดินสวนกันไปมาจอแจ ด้านหน้าของโรงภาพยนตร์กลิ่นหอมของป๊อบคอร์นฟุ้งกระจายชวนยั่วน้ำลาย กลิ่นหอมหมาาล่าหอมฟุ้งอยู่ด้านหน้าร้านชาบูชื่อดัง

“เฮ้อ!” ปารารีถอนหายใจออกมาแรง ๆ แล้วจัดการเก็บทุกอย่างบนโต๊ะชาบูที่ลูกค้าเพิ่งกินออกไปเมื่อครู่ วันนี้เป็นวันหยุดของใครหลายคน แต่สำหรับเธอ นังปารารีทำงานมือเป็นระวิง วิ่งเก็บโต๊ะ เช็ดโต๊ะ วิ่งตั้งหม้อเติมน้ำซุปทั้งวัน เหนื่อยสายตัวแทบขาด

ชีวิตบัดซบ…

ปารารีโอดครวญกับชีวิต เธอยืนมาหลายชั่วโมง ทำงานโดยไม่ได้นั่ง หมดสภาพหมดลุคคุณหนูลูกผู้ดี จะว่าไป เธอก็แค่ลูกคุณหนูตกอับ แม่ตายพ่อถูกโกงจนหมดตัว เฮ้อ คิดแล้วก็สงสารตัวเอง เมื่อก่อนถลุงเงินสนุกสนาน เงินสามสี่ร้อยมันคือเศษเงิน ที่คนอย่างปารารีไม่เคยชายตามอง

ขอเป็นคุณหนูตกยาก ต้องมาทำงานรับจ้างเป็นพนักงานรายวัน ปารารีรู้แล้วว่าเงินแต่ล่ะบาท มันมีค่ามากแค่ไหน

“ถอนหายใจแรงเชียว”

“กว่าจะได้เงินสามสี่ร้อยเขา มันเหนื่อยมากเลยค่ะพี่ฟ้า”

“เอาแรงแลกเงินทุกวัน เหนื่อยก็ต้องอดทนแหละ ทำไงได้ล่ะเรามันจน คนจนไม่มีสิทธิ์เลือกอะไรหรอก” ฟ้่ารดายิ้มแล้วเดินไปเก็บโต๊ะลูกค้าอีกโต๊ะที่เพิ่งลุกไป ส่วนปารารียกหม้อชาบูใส่รถ แต่ไม่ทันที่หม้อจะถูกวาง เด็กที่ไหนก็ไม่รู้วิ่งมาชนเธอ

ปึง! เคร๊ง!

“กรี๊ดดดด!” เด็กชายอายุประมาณเก้าขวบกรีดร้องดังลั่น พร้อมกับล้มลงไปกลิ้งชักดิ้นชักงอ เพราะซุปร้อน ๆ หกราดตัวเขา

“นังเด็กบ้า!” ปิยะดาแผดเสียงดังลั่นก่อนจะวิ่งเข้าไปตบปารารีโทษฐานที่ทำซุปร้อนหกราดลูกชายเธอ “แกทำบ้าอะไร ตายแล้ว! ลูกคิน”

“แม่ครับ ผมเจ็บ ฮือ ๆ” เด็กน้อยดิ้นพล่าน แสบเพราะความร้อนยังไม่พอ ต้องมาแสบเพราะน้ำซุปหม่าล่า มันยิ่งทำให้เขาเจ็บแสบทวีคูณ

“ขะ…ขอโทษค่ะ” นอกจากคำนี้แล้วคงไม่มีอะไรเหมาะไปมากกว่าคำว่าขอโทษ

“ขอโทษมันไม่มีทางหายหรอก ฉันจะเอาเรื่องแกให้ถึงที่สุด!” ปิยะดาชี้หน้าอย่างโมโห พร้อมกับเข้าประคองลูกชาย

“แต่ลูกชายคุณน้าวิ่งมาชนฉันเองนะคะ”

“นังบ้า นี่แกโทษลูกชายฉันเหรอ?”

“มันไม่ใช่แบบนั้น ฉันแค่อธิบายให้คุณคุณน้าทราบค่ะ ที่จริงคุณน้าต้องดูแลลูกคุณน้าให้ดีนะคะ ไม่ใช่ปล่อยให้ลูกมาวิ่งพล่านแบบนี้”

“ปลา” ฟ้ารดาดึงกระโปรงเพื่อนเบา ๆ เป็นพนักงานที่ร้าน ใช่ว่าจะพูดได้ตามใจคิด

“นี่แกโทษฉันเหรอ?” ปิยะดาไม่ขอทน ใครจะผิดก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่หล่อน

“ปะ…เปล่านะคะ ปลาแค่อธิบายให้ฟังเฉย ๆ”

“คุณน้าคะ ฟ้าว่าเรารีบพาเด็กไปโรงพยาบาลก่อนดีกว่าค่ะ” ฟ้ารดารีบตัดบท

“ได้ แต่ฉันไม่จบแค่นี้แน่ แล้วแกจะได้รู้ว่าฉันไม่จบ แกต้องชดใช้ให้ฉันกับลูก ไม่อย่างนั้นฉันจะเอาแกเข้าคุก”

ปารารีมือสั่นเทาแต่ก็รีบเข้าไปช่วยนำเด็กส่งโรงพยาบาล แม้จะโดนด่าโดนว่าแต่เธอก็ได้แต่เงียบ ต่อล้อต่อเถียงไปก็เท่านั้น เพราะนอกจากจะไม่ทำอะไรให้ดีขึ้น ยิ่งจะทำให้ทุกอย่างแย่ลง

เธอเคยเป็นลูกคุณหนูเคยมีนิสัยเอาแต่ใจ เธอเข้าใจดีว่าพวกคนรวยชอบดูถูกคนด้อยกว่ามันเป็นยังไง

“อาการลูกฉันเป็นยังไงบ้างคะหมอ?” ปิยะดาถลาเข้าถามหมอเมื่อหมอเปิดประตูออกมาจากห้องฉุกเฉิน

“แผลน้ำร้อนลวกระดับสอง ผิวหนังบวมพองน้ำ มีอาการแสบร้อน หมอทำแผลและปิดแผลป้องกันการติดเชื้อ”

“แล้วเด็กจะเป็นแผลเป็นไหมคะ?”

“ไม่ครับ แผลจะหายภายใน 7-10 ญาติไม่ต้องกังวลนะครับ”

“ค่ะ หมอช่วยให้พยาบาลจัดการเรื่องห้องพิเศษให้ฉันด้วยได้นะคะ”

“ได้ครับ” หมอยิ้มแล้วเดินเข้าไปด้านใน

“ฉันต้องขอโทษอีกครั้งนะคะ”

“ขอโทษเหรอ ลูกฉันเป็นหนักขนาดนั้น มีแต่คำว่าขอโทษเหรอ? ฉันต้องการให้แกชดใช้ แกต้องจ่ายมาหนึ่งแสน เพื่อชดใช้ในสิ่งที่แกทำกับลูกฉัน”

“หนึ่งแสน!” ถ้าเป็นเมื่อก่อนตอนเป็นคุณหนูปารารี เงินนี้จิ๊บจ๊อยมาก แต่พอมาเป็นปารารีคนธรรมดา เงินหนึ่งแสนมันไม่ใช่เงินน้อย ๆ เลย

“ใช่ แกต้องชดใช้ ถ้าแกไม่ยอมจ่าย แกเตรียมตัวโดนฉันเล่นงานได้เลย!” ปิยะดายื่นคำขาด ปารารีหน้าเจื่อนเธอไม่ใช่คนผิดสักหน่อย ทำไมเธอต้องมาชดใช้ให้ผู้หญิงคนนี้ด้วยเงินมากมายขนาดนี้

“ฉันไม่ใช่คนมีเงินมากขนาดนั้นนะคะ”

“ใช่ค่ะคุณน้า เราเป็นพวกหาเช้ากินค่ำ เงินมากมายแบบนั้น เพื่อนฟ้าจะเอาจากไหนมาให้คะ?” ฟ้ารดาเอ่ยเสริม เป็นแค่พนักงานที่ร้านชาบู หาเช้ากินค่ำ ไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น แค่จะกินไปวัน ๆ ยังก็แทบจะไม่มี อย่าพูดถึงเงินแสนเลย เงินหมื่นก็ไม่มีให้เก็บ เงินออกก็เหมือนเงินทอน ไม่รู้ค่าอะไรต่อค่าอะไรที่ต้องจ่าย แต่ละเดือนหมุนเงินจนหัวหมุน

ยิ่งที่บ้านมีภาระมากมายที่ต้องแบกรับ บอกได้เลยเต็มปาก ว่ากว่าจะใช้ชีวิตผ่านไปได้ในแต่ละวัน มันโคตรทุลักทุเล

“ฉันรู้!” ปิยะดาเหยียดยิ้ม มองปารารีในชุดพนักงานร้านชาบูอย่างดูแคลน “ฉันจะให้เวลาถึงพรุ่งนี้ ถ้าเธอไม่อยากติดคุก เธอต้องเอาเงินมาให้ฉันหนึ่งแสน เธอก็ต้องชดใช้ให้ลูกชายของฉัน”

“ฉัน…” ปารารีอึกอัก หล่อนไม่ได้มีเงินมากมายขนาดนั้น จะให้ไปเอามาจากที่ไหน ถ้าเป็นเพื่อนที่หล่อนเคยรู้จัก พอรู้ว่าหล่อนจนไม่มีจะกิน พ่อถูกฟ้องล้มละลาย เพื่อนทุกคนก็พร้อมที่จะหันหลังให้ ตอนนี้มีเพื่อนที่ทำงานเดียวแค่ฟ้ารดา ฐานะไม่ได้ร่ำรวยอะไร

ที่สำคัญ ความผิดนี้มันไม่ใช่ของเธอคนเดียว เธออาจจะประมาทเลินเล่อ แต่ผู้ปกครองของเด็กก็ผิดที่ไม่ดูแลลูกให้ดี พอลูกเจ็บตัว ดันมาโทษเธอคนเดียว

“ฉันไม่ยอมแน่ พรุ่งนี้เอาเงินมาให้ฉันที่นี่!”

“ฉันคงทำแบบนั้นไม่ได้ ถ้าอยากให้รับผิดชอบด้วยการดูแลลูกคุณ จ่ายค่ารักษาพยาบาลช่วย ฉันยังพอจะช่วยได้ แต่ให้จ่ายเงินมากมายขนาดนี้ ฉันไม่มีหรอก”

“ถ้าไม่จ่ายก็ลองดู คนอย่างฉันไม่พูดเล่นแน่นอน!”ปิยะดายื่นคำขาดแล้วเดินตามบุรุษพยาบาลที่เข็นลูกชายเธอไปที่ห้องพิเศษ ทำให้บทสนทนาของทั้งสามสิ้นสุดลง

ปารารีเดินเข้าไปในบ้านอย่างเหนื่อยล้า เธอเหนื่อยทั้งกายและใจ ในหัวมีแต่เรื่องวุ่นวายอยู่ในนั้น

“แหม่ ๆ ทำหน้ายังกับจะตาย แกแค่ไปทำงานนะนังปลา ไม่ได้ไปรบ ไม่ต้องทำหน้าจะตายก็ได้หรอก” พี่สาวต่างแม่เอ่ยขึ้น ปานวาดเป็นลูกติดเมียใหม่ของบิดา นิสัยไม่ดี ปารารีไม่ค่อยชอบสองแม่ลูกนี่หรอก เพราะนอกจากจะมาผลาญสมบัติพ่อเธอจนหมด วัน ๆ ไม่ทำงานทำการ ไม่ออกไปเที่ยวก็นั่ง ๆ นอน ๆ กินที่บ้าน

“แล้วยังไง แกจะยังไงกับฉันปานวาด!”

“ฉันไม่อยากอะไรหรอกนะ!” เธอวางที่ตะไบเล็บลง

“ถ้าไม่อยากอะไรอย่าเพิ่งมาปากดี วันนี้ฉันอารมณ์ไม่ดี ถ้าไม่อยากปากแตก อย่าเพิ่งมายุ่งกับฉัน!”