ตอนที่4/1
ตอนที่4/1
ภาพที่พระอาทิตย์ค่อยๆ ถูกขอบฟ้ากลืนกิน แสงที่เปล่งประกายออกมาของสะท้อนบนผิวน้ำค่อย ๆ กลายเป็นสีส้มเข้มขึ้นเรื่อยๆ
“ซี้ด…” กฤษฎาเอื้อมมือไปจับศีรษะของตน มืออีกข้างที่ว่างอยู่คว้านยากระปุกเล็กที่เขามักจะพกใส่เสื้อสูทติดตัวเสมอ เหมือนอวัยวะชิ้นที่ 33 หากเป็นยุคนี้ อวัยวะชิ้นที่ 33 ของคนในยุค 5 จี คงจะเป็นสมาสโฟน แต่สำหรับกฤษฎาคือยาระงับปวดออกฤทธิ์เฉียบพลัน
เขามีอาการปวดหัวรุนแรงทุกครั้งที่มองพระอาทิตย์ตกดิน แต่อาการนี้มีแค่เฉพาะตอนที่เขามองมันผ่านเพิร์ลเกสต์เฮาส์เท่านั้น หากมองจากมุมอื่นหรือสถานที่อื่น ชายหนุ่มไม่มึอาการเช่นนี้ แต่ถึงกระนั่นเขาก็ชอบมองมันเหลือเกิน แม้จะต้องผ่านอาการปวดหัวอย่างแสนสาหัส แต่ไม่รู้เพราะอะไร หากต้องมองพระอาทิตย์ตกดินผ่านเพิร์ลเกสต์เฮาส์ กฤษฎากลับไม่อาจละสายตาไปจากมันได้
แม้ความทรงจำทั้งหมดเขาจะหายไปหลังจากพื้นจากอาการโคม่า แต่ก็ไม่เคยรู้สึกปวดหัว และไม่เคยคิดจะรื้อฟื้นความทรงจำที่หายไป เพราะเวลาที่หายไปเพียงหนึ่งปี ไม่ได้มีผลกระทบกับการใช้ชีวิตประจำวันของเขาเลย แต่สิ่ฃที่ทำให้เขาไม่มีเวลาคิดและอยากตามหาความทรงจำนั่น เป็นเพราะตอนที่ฟื้นมามารดาของเขาเสียชีวิต
จากที่เคยต่อต้านมารดาทุกอย่าง พอมารดาเสียเขากลับยอมไปเรียนต่อบริหารและทำงานช่วยพี่ชายที่บริษัทไปด้วย
ในเวลานั่นครอบครัว บุริมพัฒนา กำลังระส่ำระสาย เสาหลักของรอบครอบอย่างเจ้าสัวปัฐวิกรณ์ป่วยหนักจนต้องเข้าห้องไอซียู ทำให้คุณหญิงเปรมฤทัยต้องตามหาบุตรชายคนเล็กที่โลกส่วนตัวสูง ท่องเทียวไปทั่วโลกไม่มีหลักแหล่ง ยังดีที่คราวนี้อยู่ในเมืองไทย แต่จะให้โทรตามคงยากที่จะตามตัวกับได้ทันที คุณหญิงเปรมฤทัยนั่งเฮลิคอปเตอร์มารับบุตรชายคนเล็ก แต่ในความโชคร้ายกลับมีความโชคร้ายเข้ามาแทรกมากว่าเดิม เฮลิคอปเตอร์ลำที่นั่งตกเพราะเจอเข้ากับพายุในขาบินกลับ นักบินบาดเจ็บสาหัส กฤษฎาบาดเจ็บสาหัส สตรีวัยกลางคนเสียชีวิตในที่เดิดเหตุ ข่าวนี้ถูกปิด เพราะในตอนนั้นคุณหญิงเปรมฤทัยดำรงตำแหน่งเป็นประธานบริษัท
ข่าวประธานเครือบุริมพัฒนาอยู่ในไอซียูก็ทำราคาหุ้นหยุดนิ่ง ข่าวรองประธานเสียชีวิตทำให้ราคาหุ้นชะลอตัว กฤษฎาทายาทคนเล็กที่อาการโคม่าอยู่เกือบเดือนจึงไม่มีใครรู้
กฤษฎายอมหมั้นกับบุตรสาวของเพื่อนสนิทพ่อเพื่อนเพื่อสยบข่าวลือว่าบุริพัฒนาเข้าสู่ยุควิกฤต สายตาคมก้มมองรอยแผลเป็นยาวตั้งแต่ข้อมือหายมือเข้าไปในแขนเสื้อ แผลเป็นยาวจนถึงหัวไหล่ ต่อให้อยากกลับไปวาดรูปอีกครั้งคงทำไม่ได้แล้วเพราะอุบัติเหตุครั้งนั้นไม่ได้ทิ้งเอาไว้แค่แผลเป็นแขนข้างนี้ด้ามด้วยเหล็กทั้งเส้น
“เฮ้อ” เมื่อคิดถึงคู่หมั้นสาว กฤษฎาปรายตามองมือถือสั่นบนโต๊ะ ชายหนุ่มได้แต่ถอนหายใจยาวเหยียด หลังจากที่บิดาเสีย เขาก็บอถอนหมั้นกับเธอในทันที ลึกๆ เขารู้สึกรู้สึกผิดไม่น้อยที่เอาชื่อเสียงในวงการบันเทิงของเธอมาใช้เป็นเครื่องมือ หลังจากถอนหมั้นเขาจึงเป็นคนให้เธอประกาศเรื่องนั้นเอง เพื่อรักษาหน้าของเธอด้วย แต่จนถึงทุกวันนี้สินีนาทก็ยังไม่ยอมบอกใครว่าถอนหมั้นกับเขาแล้ว อีกทั้งยังทำตัวเป็นเจ้าข้าวเจ้าของกฤษฎามากว่าเดิม และหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ
คิ้วคมเข้มขมวดเมื่อเดินลงมาที่เลาท์ของรีสอร์ต ร่างบางที่นั่งหันหลังอยู่ที่บาร์เครื่องดื่มคุ้นตา ไวกว่าความคิดขายาวก้าวเดินไปหยุดอยู่ด้านหลัง เมื่อเห็นเสี้ยวใบหน้านวล
‘นิสา ‘
เธอมานั่งดื่มอะไรที่รีสอร์ตของเขา หลังจากถูกเขาปฏิเสธการเซ็นสัญญาซื้อขาย กฤษฎาคิดว่าเธอต้องรีบกลับไปแก้ไขสัญญาให้ถูกใจเขา เพื่อที่จะได้รีบเอากลับมาให้เขาเซ็น
ร่างสูงเดินเลยไปยังอีกมุมของบาร์ เขาสั่งน้ำเปล่ามานั่งดื่มเงียบ ๆ ตาคมยังคงจับจ้องใบหน้าคนที่นั่งยกแก้วเหล้าดื่มไวยิ่งกว่าเขาที่ดื่มน้ำเปล่าเสียอีก
กฤษฎาก็ไม่รู้ว่าทำไมเขาต้องมานั่งตรงนี้ อาจจะเป็นความรับผิดชอบจากจิตใต้สำนึก หากนิสาเมาจนขาดสติแล้วถูกคนไม่ดีหิ้วออกไปจากบาร์ของรีสอร์ตเขา เขาคงรู้สึกผิดต่อเพื่อนร่วมโลก แม้ในทางธุรกิจเขาจะใจร้ายกับเธอก็ตาม
