ตอนที่3/2
ตอนที่3/2
กิตติโค้งตัวรับคำสั่ง เจ้านายเขาเลือดเย็นทำธุรกิจได้เด็ดขาดไม่แพ้พี่ชาย เดิมกิตติเป็นเลขาของอัตตนาถ พี่ชายคนเดียวของกฤษฎา ประธานบริษัทอสังหาริมทรัพย์บุริม กฤษฎาเจ้านายของเขาทั้งๆ ที่ไม่ได้เรียนมาทางด้านนี้โดยตรง จะเรียกว่ากฤษฎาออกแนวจะหัวขบถสักนิด ไม่ว่าคุณหญิงเปรมฤทัยจะสั่งให้ทำอะไรกฤษฎาก็เลือกที่จะทำตรงกันข้ามตลอด สั่งให้เรียนบริหารก็ไปเรียนศิลปะ สั่งให้ช่วยบริหารธุรกิจก็หนีไปท่องเที่ยวรอบโลก เพิ่งจะกลับมาเป็นผู้เป็นคน อยู่ในร่องในรอยก็หลังจากที่ท่านภานุภพเสียไปเมื่อหลายปีก่อน แต่พอมาทำงานโดยมีอัตตนาถดูแลให้คำปรึกษา บวกเรียนต่อปริญญาโทบริหาร จากคนที่เคยถือแค่พู่กันก็เปลี่ยนมาจับปากกา
ตั้งแต่มาคอยดูแลกฤษฎา เขาก็ไม่เคยเห็นเจ้านายยิ้มอีกเลย
โทรศัพท์ใส่กระเป๋าการเกงสั่งต้องหยิบขึ้นมาดูก็พอจะคาดเดาว่าใครที่สามารถโทรมายังเครื่องส่วนตัวของเขาได้
"ครับกุ๊กกิ๊ก" ไม่รับก็ไม่ได้ กิตติจำใจล้วงกระเป๋าหยิบโทรศัพท์มือถือออกมากดรับสายอย่างอ้อยอิ่ง
(นัทไม่รับสายฉัน) เสียงเล็กๆ บาดแก้วหูไม่มีแม้แต่คำทักทาย
"เจ้านายประชุมอยู่ครับ" กิตติไขว้นิ้ว หากเจ้านายไม่รับสายคุณกุ๊กกิ๊ก ก็คือเลี่ยงที่จะคุยจึงเป็นหน้าที่เขาที่ต้องช่วยโกหกต่อ
(ประชุมอะไรทั้งวันทุกวัน) ดาราสาวที่เคยเป็นดาวรุ่งพุ่งแรงตอนนี้เธอแทบไม่ได้รับงานในวงการแล้ว เนื่องจากมีดาวดวงใหม่ สาวกว่าสวยกว่า เกิดใหม่มากมาย เธอจากที่เคยได้รับบทนางเอกจะให้ไปรับบทนางร้าย บทเพื่อนนางเอกหรือน้านางเอกเธอไม่เอา คนอยากสินีนาท อัยกุลไม่จำเป็นต้องทำงานก็ไม่เดือดร้อน ที่ผ่านมาเธอแค่ชอบเป็นจุดสนใจ เมื่อมีคนทาบทามไปเล่นละครเธอก็ลองไปเล่นๆ ขำๆ จนดังชั่วข้ามคืน วางเรื่องในวงการบันเทิงเอาไว้ก่อนเอาเรื่องในสายตอนนี้ก่อน
(ไอ้เกาะบ้านั่นมันมีอะไรดีนักถึงได้ย้ายไปอยู่นั่นไม่ยอมกลับกรุงเทพ)
"นายมาทำงานครับ"
(ทำงานบ้าบอคอแตกอะไร เดือนๆหนึ่งแทบจะสิงอยู่ที่เกาะบ้านั่น) หญิงสาวหวีดแหวออกมาจนสุดเสียง เธอจะทนกฤษฎาไม่ไหวอยู่แล้วนะ
กิตติยกโทรศัพท์ออกให้ไกล ไม่อย่างนั้นอาจเสี่ยงเป็นโรคหูดับได้ แรกๆ เขาก็ไม่เขาใจว่าทำไมเจ้านายเขาถึงไม่ยอมแต่งงานกับคู่หมั้นสาวสวยเสียที แต่กฤษฎาแทบจะมาปักหลักอยู่ที่เกาะไข่มุก คุณกุ๊กกิ๊กก็กลายร่างเป็นอะไรสักอย่างที่ถ้าเขามีแฟนสักคนจะไม่มีวันเลือกผู้หญิงแบบนี้เป็นคู่ชีวิตเด็ดขาด
"นายยุ่งมากๆ ครับช่วงนี้กำลังจะเซ็นสัญญาสำคัญ" กิตติหาทางเบี่ยงประเด็นให้คู่หมั้นเจ้านายเย็นลง หรือถ้าใจยังเย็นลงไม่ได้ก็เลิกตะโกนกรอกโทรศัพท์ได้ไหม
(สำคัญ? สำคัญจนแค่จะรับสายฉันยังไม่ได้ ข้อความก็ไม่อ่านงั้นเหรอ")
ก็คุณเป็นแบบนี้ ใครจะไปอยากคุยด้วยละครับ
"ถ้านายประชุมเสร็จผมจะรีบแจ้งว่าคุณกุ๊กกิ๊กโทรมาดีไหมครับ"
(.....ดี) ปลายสายคิดอยู่สักพักก็ตอบรับกลับมา แล้วกดวางสายไปในทันที
เขาก็ไม่ได้อยากยุ่งเรื่องของเจ้านายนักหรอก แต่ถ้าเจ้านายไม่รับสายคนที่คุณกุ๊กกิ๊กคิดถึงเป็นคิวถัดไปก็คือเขา เลขาหนุ่มส่ายหัว ถอนหายใจออกมาหนักๆ ก่อนที่จะเดินเข้าลิฟต์เพื่อไปสั่งงานที่เจ้านายมอบหมาย เรื่องที่บอกว่าจะแจ้งเจ้านายให้ คงไม่ต้องไปแจ้งอะไรให้กฤษฎารู้ ถ้ามีคนโทรมามันก็โชว์อยู่แล้ว เจ้านายเขาเลือกที่จะไม่รับสายแค่ของคู่หมั้น เขาก็เลือกที่จะทำตามคำสั่งเข้านายมากกว่าอีกฝ่ายที่เป็นเพียงคู่หมั้น แม้จะหมั้นหมายกันมาหลายปีแล้วก็ตาม
