บทที่ 3-2
กุมุทไม่รู้จะจัดการสถานการณ์กระอักกระอ่วนนี้อย่างไร คืนนั้นเขานอนกระสับกระส่าย ภาพใบหน้ากัณหาวนเวียนอยู่ในสมอง สัมผัสผิวนิ่มราวค้างคาอยู่บนมือ
ก่อนรุ่งสางกุมุทสะดุ้งตื่นด้วยฝันถึงเธอ ฉากร่วมรักเร่าร้อน ร่างกายอุ่นไอสาวที่เปลือยเปล่า ทำเอากุมุทเกิดอาการ “ฝันเปียก”
เขาทั้งอายปนโกรธตัวเอง โกรธธรรมชาติของวัยหนุ่ม กัณหาไม่ได้มีดีอะไรเลย เธอเป็นแค่ยัยตัวยุ่งเจ้าปัญหาจอมยั่ว ที่ทำเขาตกหลุมพราง ว้าวุ่น
เช้าวันนั้นกุมุทนอนจ้องนาฬิกาปลุกบนเตียงอยู่นาน ใจตีกันระหว่าง ...ไป หรือไม่ไป โรงเรียน เขาไม่อยากเจอกัณหา ไม่อยากมองหน้า ...ไม่รู้ว่าทำไมเหมือนกัน
แต่แล้วด้วยความรับผิดต่อคำสั่งของอาจารย์เรื่องติวหนังสือเธอ ก็ดึงให้เขาลุกจากเตียง
อาบน้ำแต่งตัว หยิบสมุดโน้ตเล่มโปรดติดมือไปห้องสมุด กัณหาอาจจะไม่มา แต่เขาไม่ยอมบกพร่องต่อหน้าที่
กุมุทนั่งรอในห้องสมุดด้วยใจอันไม่สงบนัก เปิดสมุดที่ติดมือมาด้วยผ่านๆ เวลาแต่ละวินาทีเคลื่อนผ่านไปช้าเหลือเกิน ห้องสมุดเงียบ จนหูเขาได้ยินเสียงเข็มนาฬิกาข้อมือดังติ๊ก...ติ๊ก
ทันใดนั้นเสียงสวบสาบก็หยุดลงบนเก้าอี้ตรงหน้า
“อ่านหนังสือมาหรือยัง”
เขาทักพยายามคุมเสียงให้ปรกติที่สุด ไม่สั่นหรือแปร่ง
“อ่านมาแล้ว ไม่ค่อยรู้เรื่อง”
กัณหาสบตาเขาแวบเดียว เท่านั้น ก่อนเสมองหนังสือที่ตัวเองเพิ่งวางบนโต๊ะ หนังสือเขาให้ไปอ่านเมื่อวาน
“มันยากถ้าจะอ่านให้รู้เรื่องหมดภายในคืนเดียว เอ้า! นี่ ช็อตโน้ต ฉันให้ยืม”
“ขอบใจ”
เธอรับสมุดที่เขาเลื่อนจากฝั่งตัวเองให้มาเปิดดู แล้วเลิกคิ้วห่อปาก
“การ์ตูนพวกนี้นายวาดเองเหรอ”
กุมุทวาดการ์ตูนเพื่อย้ำจุดที่น่าสนใจในวิชาเรียนให้จำง่าย เป็นการแก้เบื่อจากการอ่านตัวอักษรเยอะๆ
“วาดสวยนะ อย่างกับพวกจะเอ็นท์ฯเข้าศิลปากร”
“ไม่เอาหรอกจะเอ็นท์ฯเข้าทำไมศิลปากร เรียนวาดรูปได้เงินน้อย เคยได้ยินไหม ศิลปินไส้แห้งน่ะ”
เขาใช้สายตาตำหนิเธอ สายตาแบบเดียวกับพ่อยามเขาพูดอะไรที่ออกแนว “ไร้สาระ” ในความคิดท่าน
“งั้นก็เรียนเอ็นท์เข้าคณะที่ทั้งได้วาดรูป ทั้งได้ตังค์สิ จะได้มีเงิน ไม่อดตาย แบบสถาปนิกไง”
นิ้วกัณหาไล่ตามตัวการ์ตูน หลากหลายประเภท ทั้งการ์ตูนซุปเปอร์ฮีโร่ตามสมัยนิยม และสัตว์ที่ท่าทางเหมือนคน เขามีแง่มุมน่ารักที่คิดไม่ถึง
“ที่บ้านไม่ชอบ ฉันต้องเป็นหมอสืบทอดกิจการโรงพยาบาล”
ปรกติทุกคนคาดหวังอนาคตเช่นนี้จากเขาอยู่แล้ว กับกัณหาเท่านั้นที่เขายอมรับออกมาด้วยวาจา เธอเท่านั้นที่เขาพูดจากความจริงในใจ
“ชอบหรือไม่ชอบอยู่ที่ตัวเราต่างหาก อนาคตของเราเองนะ”
แม่ไม่ค่อยมีเวลาดูแลกัณหา ทำให้เธอมีอิสระ ตัดสินใจอะไรด้วยตัวเอง จึงมองคนที่อยู่ในกฎระเบียบเคร่งครัดอย่างไม่เข้าใจ
“อย่ายุ่งเรื่องของฉันเลยน่ะ อ่านแล้วจำด้วยล่ะโน้ตนั่น ขืนสอบแล้วได้คะแนนไม่ดี เสียชื่อฉันหมด”
กุมุทตัดบทฉุนเฉียว แสร้งกลบเกลื่อนอาการใจเต้นแรง และหันเหความสนใจตนออกจากริมฝีปากบางนั้นเสีย การติวหนังสือจึงเป็นไปด้วยความเงียบสงบ ในเมื่อเธอเฉย เขาจึงเลือกนิ่งด้วย
กัณหาดื่มแอลกอฮอล์นิดหน่อย คนรออยู่ที่บ้านเคยเปรย
“อย่าดื่มเยอะ แอลกอฮอล์ทำให้เปิดเผยธาตุแท้ออกมา ผู้หญิงควรมีอะไรสักอย่างสองอย่างเป็นความลับบ้าง ให้ผู้ชายได้เซอร์ไพรส์ แบ๋ไต๋เดาง่ายก็ไม่สนุกกันพอดี”
เธอยิ้มทุกครั้งเมื่อนึกถึงเจ้าตัว ชอบพูดอะไรแปลกๆ ไม่เข้ากับหน้านิ่งๆ เพราะฤทธิ์น้ำนี้กระมังทำให้หัวหมุน ใจหวนกระหวัดถึงความร้อน
กลิ่นอับหนังสือเก่า เหงื่อชื้นของใครบางคน ลมหายใจกระเส่าอุ่นรินรดแก้ม วงแขนผอมแต่แข็งแกร่งกว่าที่คิด ประคองร่างเธอไว้ในห้องสมุด
กุมุทมักทำหน้ายุ่งใส่เธอ หัวหน้าห้องผู้เป็นที่พึ่งของทุกคนเสมอ แค่นแคะเขาในใจว่าเป็นนายตี๋แว่นจอมจุ้น คอยจับผิด ตามจ้ำจี้จำไชเรื่องเรียนเธอ
กัณหาแค่มาเรียนม.ปลาย เพราะแม่ไม่อยากให้อยู่บ้านเฉยๆ ฆ่าเวลาให้จบเทอมเพื่อรอไปอยู่ต่างประเทศกับสามีใหม่แม่เท่านั้นเอง
โลกเธอวันนั้นจึงกร้าน แห้งแล้ง แม่สนใจแต่ชีวิตสุขสบาย กัณหาโตมาอย่างขาดๆ เกินๆ ทำอะไรตามใจตัวเอง ไร้ระเบียบ
เมื่อมาเจอกุมุท เด็กหนุ่มนิสัยตรงเผงเป็นที่รักของผู้ใหญ่ เรียนเก่ง บุคลิคสะอาดสะอ้าน บ่งบอกว่าได้รับการอบรมเลี้ยงดูมาอย่างดี
เขาและเธอเหมือนมาจากคนละโลก คนละสังคม กุมุทมีทุกอย่างที่เธอไม่มี ครอบครัวที่รัก เพื่อน สติปัญญาดี ผู้ใหญ่ให้ความไว้วางใจ
กัณหาพาลหมั่นไส้ ไม่ชอบเขา ยิ่งกุมุทมาใกล้เพราะอาจารย์สั่งให้ดูแลตัวปัญหาอย่างเธอ กัณหาจึงชอบแกล้งการปั่นหัวให้เด็กดี ประเภทนี้หน้าแดงได้ มีอยู่อย่างเดียว เรื่องใต้สะดือ
เธอในยามเป็นเด็กสาวสนุกกับปฏิกิริยาของกุมุท จนลืมนึกถึงคำเตือนของคนโบราณ ผู้หญิงกับผู้ชายเหมือนน้ำมันกับไฟ ใกล้กันมากเกินไปยิ่งโหมกระพือ
“งานเลี้ยงเลิกแล้วเราต่อไหนดี ใครจะไปบ้าง”
หนุ่มเนื้อหอมประกาศเสียงดัง ร้านอาหารกำลังจะปิดบริการแล้ว แต่หลายคนซึ่งร่ำแอลกอฮอล์ไปเยอะดูเหมือนยังไม่จุใจ
“แถวทองหล่อไหม ฉันโทร.จองให้”
กุมุทกำลังเริ่มมึนๆ ร้องบอก
“นับจำนวนสิว่าใครไปมั่ง น้องเคลียร์บิลเลย เอาอะไรเพิ่มไหมเดี๋ยวโทร.ไปสั่งไว้ให้”
เขาหันไปทางบริกร แล้วล้วงโทรศัพท์มือถืออกมาจากกระเป๋ากางเกง
“กุมุทยังเป็นหัวหน้าห้องอยู่ดี ช่างจัดการ”
เจ้าของฟิตเนสหัวเราะ
“ฉันเรียนโทบริหารนี่ เรื่องพวกนี้ถนัด”
ว่าแล้วก็กวาดสายตาไปทั่วงาน กัณหากำลังคุยกับปัทม์อยู่
“ไม่ต้องหรอก วันนี้พวกเราจัดการเอง นี่เป็นการเลี้ยงต้อนรับนายกลับมาเมืองไทยด้วยยังไงล่ะ”
เพื่อนบอกพลางหัวเราะกันครื้นเครง พลอยทำให้กุมุทรื่นเริงไปด้วย
“ฉันขอตัวก่อนนะคงไม่ได้ไปต่อ ต้องรีบกลับ”
กัณหาไม่สนใจเสียงเรียกร้องให้อยู่ต่อของเพื่อน หรือสายตาจากกุมุท
“มีคนรออยู่”
เขากระดกแก้วทันทีที่ฟังจบ วัยเยาว์จบลงนานแล้ว เวลาไม่หวลคืน อดีตคืออดีต กุมุทโทษว่าเป็นเพราะฤทธิ์น้ำสีอำพันทำให้จิตใจแปรปรวน เรื่องเก่าๆ จึงผุดขึ้นในหัว ...ความผิดเก่าๆ
