บท
ตั้งค่า

บทที่ 3

ในห้องนอกจากโต๊ะเก้าอี้แล้ว ยังเห็นเวทีอยู่ไม่ไกล ไม่ต้องเดาก็รู้ได้ง่ายๆ ว่าเวทีที่เห็นนั่นไว้ทำอะไร บรรยากาศแบบนี้ อารมณ์แบบนี้เหมือนซีรีส์ญี่ปุ่นแบบมีโฮสต์ชอบกล

“นี่มันกึ่งๆ บาร์โฮสต์ป่ะ”

“อื้อ…ทำนองนั้น”

“แล้วแกจะให้ฉันหิ้วผู้ชายจากที่นี่ไป…อย่างว่าเหรอ” ถามไปแล้วญาตาวีก็หน้าแดงก่ำขึ้นมาอย่างห้ามไม่ได้ แค่คิดว่าเธอต้องทำอะไร ยังไง หัวใจก็เต้นโครมคราม เหงื่อนี่ซึมไปทั้งตัว

“เออ…ขอบอกว่าผู้ที่นี่โปรไฟล์ดีๆ ทั้งนั้นนะแก แล้วที่สำคัญสะอาด โรคร้ายไม่มีด้วย”

“แต่ฉัน...” สีหน้าของญาตาวีนั้นเต็มไปด้วยความลังเล

“เลือกเอาระหว่างเสียจิ้นให้ผู้ชายล่ำๆ หล่อๆ แมนๆ ซิกแพคเป็นซิกแพค หรือตาแก่ตัณหากลับ หัวล้าน อ้วน ลงพุง ปากเหม็น” แม้นี่จะไม่ใช่ทางออกที่ดีนักก็ตาม แต่สำหรับพรพรรณแล้วเธอจะไม่ยอมมีอะไรกับตาเฒ่านั่นแน่ ไหนๆ ก็จะเสียจิ้นสู้เสียในแบบที่เธอเลือกเองไม่ดีกว่าเหรอ

“คนบ้าเท่านั้นแหละที่จะเลือกอย่างหลัง”

“ก็ใช่ไง ฉันถึงพาแกมาที่นี่ อยากได้ผู้คนไหนแกเลือกจิ้มเอาเลยตามสบาย ส่วนค่าตัวฉันเปย์ให้เอง”

“ไม่ได้” ญาตาวีรีบปฏิเสธ

“ต้องได้ ถือซะว่านี่เป็นของขวัญวันเกิดแกล่วงหน้าจากฉัน...โอเค้”

“แก…” มือเย็นเฉียบของญาตาวีคว้ามือของพรพรรณไปกุมไว้ นั่นเพราะเวลานี้เธอทั้งกลัวทั้งประหม่าไปหมด

“มันไม่มีอะไรน่ากลัวเลยแก คิดเสียว่ามันคือวันไนท์สแตนด์งี้ก็ได้...ชิลๆ”

“ชิลบ้าแกน่ะสิ ยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด” เวลานี้ญาตาวีนั้นสองจิตสองใจ เธอลังเลว่าจะหยุดแค่นี้หรือไปต่อ

“อย่าไปเครียดสิ จิ้นนี้เป็นของแก แกมีสิทธิ์เลือกว่าจะให้ใครทะลวง”

“ไอ้บ้า!”

“เดี๋ยวพองานเริ่ม บรรดาหนุ่มๆ ก็จะออกมาเดินตรงเวที แกก็แค่สบตาหนุ่มๆ พวกนั้น คนไหนใช่ก็เลือกได้เลย

เสร็จจากห้องวีไอพี หนุ่มๆ ถึงจะลงไปหาสาวๆ ที่ข้างล่าง”

“แล้วถ้าไม่ใช่สักคนอ่ะ”

“หลับตาจิ้มเหมือนทำข้อสอบก็ได้ งานเริ่มแล้วแก” ทันทีที่ไฟตรงเวทีดับลง พรพรรณก็รู้ว่างานเริ่มแล้ว เธอจับญาตาวีที่หน้าเหวอกับวิธีที่ได้ยินเมื่อครู่ให้หันหน้าไปยังเวทีทันที

ไม่นานบรรดาหนุ่มๆ ก็ทยอยกันเดินออกมาจากด้านหลัง แต่ละคนเรียกได้ว่าหล่อเหลาราวกับดารา นายแบบหรือไม่ก็นักร้องเกาหลี หุ่นดีมีซิกแพคกันแทบจะทุกคน ยิ่งใส่แค่กางเกงยีนส์ตัวเดียวแบบนี้ก็ยิ่งเรียกเลือดกำเดาจากบรรดาสาวโสดหรือแอบโสดภายในห้องวีไอพีได้เป็นอย่างดีทีเดียว

เพราะมีเหตุจำเป็นให้ต้องมองเพื่อเลือกใครก็ได้ ทำให้ญาตาวีมองสบตาหนุ่มๆ ทุกคนด้วยความใสซื่อ เธอไม่ได้มีจริตจะก้านหรือชั้นเชิงแพรวพราวแฝงความเชื้อเชิญเหมือนสายตาจากบรรดาสาวน้อยสาวใหญ่ ที่บางคนหรือเกือบทั้งหมดนี้อาจจะผ่านเรื่องเซ็กซ์มาแล้ว

ญาตาวีค่อยๆ ใช้สายตาซื่อๆ เพ่งมองหนุ่มๆ ทั้งเก้าคนตรงหน้าชนิดไล่เรียงกันไปทีละคนๆ คนที่เธอสะดุดตากลับไม่ใช่หนุ่มหล่อกล้ามแน่น แต่กลับเป็นชายหนุ่มหน้าตาธรรมดาแถมยังดูผอมกว่าใคร ที่สนใจเพราะเขาไม่ได้ใช้สายตาหยาดเยิ้มแพรวพราวประหนึ่งผมมีเสน่ห์มหาศาลมายังเธอ ซึ่งหากสาวๆ คนไหนถูกเขามองแบบนี้มีอันต้องเสียอาการทุกครั้ง แต่กลับไม่ใช่ญาตาวี

“แกชอบคนนั้นเหรอ” เพราะเห็นญาตาวีเอาแต่มองหนุ่มที่ยืนตรงหน้า นั่นทำให้พรพรรณกระซิบถาม

“เปล่า”

“เปล่าอะไร เห็นจ้องเอาๆ”

“ก็เขายังดูเด็กแถมกล้ามก็ไม่ค่อยจะมีด้วย”

“เออ...เหมือนที่แกว่าจริงๆ ด้วย งั้นคนนี้มองข้ามไปเลยแล้วกัน เลือกคนอื่น” พรพรรณเอ่ยบอก ซึ่งญาตาวีก็พยักหน้าเห็นด้วย

แม้จะไม่รู้สึกอึดอัดยามสบตาด้วย แต่ญาตาวีก็แทบไม่มองชายตรงหน้าอีกเลย ซึ่งหารู้ไม่ว่าเขานั้นกำลังสนใจเธอ เขาชอบแววตาซื่อๆ ไม่ประสานั่นพร้อมกับตั้งคำถามขึ้นมาทันทีว่าเธอคือใครและมาที่นี่เพื่ออะไร โดยเฉพาะชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าของญาตาวีในเวลานี้

“เป็นไงแก เลือกได้ยัง”

“ยัง” ขณะที่เอ่ยตอบพรพรรณ สายตาของญาตาวีก็ยังคงมองตรงมาที่หนุ่มๆ พรพรรณชักจะเริ่มสงสารเพื่อน นั่นเพราะถ้าเป็นเธอคงเลือกไม่ได้เหมือนกัน คนนั้นก็หล่อคนนี้ก็ดูดี คนโน้นก็ซิกแพคสวย

แต่จะว่าไปตั้งแต่มาเที่ยวที่นี่ เธอก็ไม่เคยจะพาหนุ่มๆ คนไหนไปค้างด้วยเลยนี่นา อย่างมากก็แค่เพื่อนคุย แค่คิดว่าญาตาวีต้องไปทำอะไรกับหนุ่มๆ หนึ่งในนี้ เธอก็ขนลุกเกรียว นั่นเพราะเธอเองก็ไม่เคยมีประสบการณ์เรื่องอย่างว่า ได้แค่คิดและมโนอยู่คนเดียว

“หลับตาจิ้มเหมือนทำข้อสอบเลยไหม” ข้อเสนอแนะจากพรพรรณทำเอาคนฟังรีบแย้ง

“ไม่เอา จิ้นฉันมีแค่อันเดียวจะให้หลับตาจิ้มได้ยังไงเล่า”

“งั้นก็เลือกเร็วๆ ก่อนที่ป้าๆ มุมนู้นจะเหมายกแผง” พรพรรณหันไปมองมุมซ้ายของห้อง ซึ่งดูท่าแล้วแขกโต๊ะนั้นจะกระเป๋าหนักกว่าเธอแน่นอน

“หืม…มีเหมาได้ด้วยเหรอ”

“ได้สิ”

“แต่ฉันยังไม่รู้เลยว่าจะเลือกคนไหน มัน…” ญาตาวีอึกๆ อักๆ นั่นเพราะเธอกระดากปากและละอายใจกับสิ่งที่กำลังทำอยู่ตอนนี้เหลือเกิน แต่ถ้าไม่ทำแล้วรอให้ถึงเวลาต้องเสียตัวให้อานนท์ เธอก็ไม่เอาอีกนั่นแหละ

“งั้นก็ตั้งข้อแม้เอา เช่นเกิดวันนี้ มีไฝตรงนั้นตรงนี้หรืออะไรก็ว่าไป” ข้อเสนอของพรพรรณครั้งนี้ฟังดูเข้าท่า ทำให้ญาตาวีคล้อยตามทันที

“โอเค งั้นฉันจะเลือกคนที่เกิดวันเดียวกับฉัน”

“โอ๊ย...ตายๆ แค่วันเกิดในรอบปีทั่วๆ ไปก็หาตรงกันยากแล้ว แต่นี่แกเกิดวันที่ยี่สิบเก้ากุมภานะเฮ้ย ต้องรอสี่ปีเชียวนะถึงจะเวียนมาถึง แล้วใครมันจะเกิด…”

“ผมครับ ผมเกิดวันที่ยี่สิบเก้ากุมภา” เสียงทุ้มที่ดังขึ้นทำเอาพรพรรณที่กำลังคุยอยู่กับญาตาวีหันขวับไปมอง ชายตรงหน้าที่เอ่ยตอบว่าเกิดวันเดียวกันกับญาตาวีนั้น คือคนที่ทั้งสองได้ตัดออกจากตัวเลือก เหตุเพราะเขาซิกแพคไม่แน่นและดูเหมือนเด็กไปหน่อย แถมโฮสต์คนอื่นๆ ก็ไม่มีใครแสดงตัวเลยสักคนว่าเกิดวันที่ตามที่บอกไป

“ฉันขอดูบัตรประชาชน” คนที่เอ่ยประโยคนี้คือพรพรรณ นั่นเพราะเธอจะเชื่อได้ยังไงว่าเขาเกิดวันที่ 29 กุมภาพันธ์จริงหากไม่มีหลักฐานมายืนยัน

“สักครู่ครับ” เอ่ยจบชายคนนั้นก็เดินกลับเข้าไปข้างในท่ามกลางเสียงฮือฮาของแขกและบรรดาโฮสต์คนอื่นๆ ไม่นานเขาก็กลับมาพร้อมกับยื่นบัตรประชาชนให้พรพรรณ

“ยี่สิบเก้ากุมภาพันธ์จริงๆ ด้วยแก” พรพรรณหันมามองหน้าญาตาวีที่เวลานี้นั่งอึ้งอยู่ นั่นเพราะไม่คิดว่าจะมีใครเกิดวันเดียวกับเธอนั่นเอง แต่พอคิดลึกว่าหลังจากนี้เธอกับเขาต้องมีอะไรกัน ใบหน้าสวยก็แดงก่ำ อาการอายเกิดขึ้นให้เห็นจนไม่กล้าสบตาชายตรงหน้าทั้งๆ ที่เมื่อสิบวินาทีก่อนเธอยังกล้าสบตาเขาอยู่แท้ๆ ก่อนจะพึมพำๆ ตอบกลับไป

“เออ…คนนี้ก็คนนี้”

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel