บทที่ 2
“เมื่อกี้เบลพูดว่าจะไปต่างประเทศเหรอ”
“อะไร ไม่มี” คนเผลอพูดความลับทำหน้าเหลอหลาไม่รู้ไม่ชี้ แต่มีหรือที่เกวลินจะปล่อยผ่าน
“มี เรามั่นใจว่าไม่ได้หูฝาดไปเองแน่ๆ” เกวลินจ้องหน้าครองขวัญนิ่ง
“ก็ใช่ที่ว่าเรากำลังจะไปต่างประเทศ” เมื่อจนมุมสุดท้ายครองขวัญก็ยอมรับ
“จะไปที่ไหนเมื่อไหร่ พูดมาให้หมดนะเบล” คนตรงหน้าซักถามอย่างละเอียดนั่นเพราะเธอไม่เคยรู้เรื่องนี้มาก่อน ไหนบอกว่าเรียนจบแล้วจะทำงานด้วยกันก่อน พอมีเงินหน่อยก็จะออกไปเที่ยวด้วยกัน ตามคอนเซ็ปต์เพื่อนกันไปไหนไปกันไม่ใช่เหรอ
“อย่าทำหน้าบึ้งแบบนั้นสิ ไม่สวยแล้วนะ” ครองขวัญพยายามเปลี่ยนอารมณ์ของเกวลินให้ดีขึ้นแต่ดูเหมือนจะไม่ได้ผล
“ไม่สวยก็ช่าง พูดทุกอย่างมา เดี๋ยวนี้” น้ำเสียงของเกวลินนั้นห้วนขึ้นอย่างเห็นได้ชัด
“ยอมพูดแล้วๆ คือว่า…” ในที่สุดครองขวัญก็ยอมพูดว่าเธอกำลังจะไปต่างประเทศ นั่นเพราะอีกหนึ่งความฝันของเธอคือการเป็นยูทูปเบอร์นักเดินทางที่ถ่ายทอดเรื่องราวต่างๆ ผ่านคลิปที่จะโพสต์ลงในช่องของตัวเอง ซึ่งตอนนี้แม้คนที่ติดตามจะมีแค่หลักหมื่นทว่าครองขวัญก็มั่นใจว่าหากได้ลงคลิปใหม่ๆ จะมีคนติดตามเธอมากขึ้นอย่างแน่นอน
เกวลินนั่งฟังและมองเห็นความสุขผ่านแววตาของเพื่อนสนิทเพราะเธอรู้มาตลอดว่าครองขวัญชอบและอยากทำอะไร แน่วแน่แบบนี้มาแต่ไหนแต่ไรแต่เพราะก่อนหน้านี้ยังเรียนด้วยกันทั้งคู่จึงทำตามความฝันไม่ได้อย่างเต็มที่
อย่างน้อยครองขวัญก็รู้จักตัวเองว่าต้องการอะไรต่างจากเธอที่รู้แค่อย่างเดียวคือการแอบรักใครมาคนมานานหลายปี ความรักที่มันไม่มีทางสมหวังแต่ก็ยังไม่ตัดใจไม่เด็ดขาด
“จะเดินทางเมื่อไหร่”
“อีกสองอาทิตย์”
“อีกแค่สองอาทิตย์เองเหรอ” เกวลินอุทานออกนั่นเพราะไม่คิดว่าจะรวดเร็วขนาดนี้
“อือ”
“แล้วคิดจะบอกเรื่องนี้เราตอนไหน” น้ำเสียงของ เกวลินสั่นเครือเล็กน้อย รู้ว่าเพื่อนจะไปตามความฝันแต่มันก็อดใจหายไม่ได้
“วันนี้”
“แน่ใจนะว่าจะบอกเราวันนี้ ไม่ใช่จะบอกเพราะหลุดปาก”
“แน่ใจ นี่ไงเราจดไว้ในลิสต์ประจำวันว่าจะทำอะไรบ้าง เราไม่มุสาวาทาเด็ดขาด บาป” ครองขวัญเปิดโทรศัพท์ออกมาให้เกวลินดูว่าเธอจดไว้แล้วจริงๆ
“แต่เราก็ยังน้อยใจอยู่ดี ใจหายมากด้วยที่จู่ๆ เธอก็จะไปต่างประเทศแบบนี้” นั่นเพราะตั้งแต่ที่รู้จักกันมาตอนปีหนึ่งทั้งเธอและครองขวัญเจอหน้ากันแทบทุกวัน คุยกันตลอดและคุยกันได้ทุกเรื่อง ตัวติดกันทั้งในและนอกมหาวิทยาลัยจนใครๆ ต่างคิดว่าเธอกับเกวลินเป็นเลสเบี้ยน แต่เธอทั้งคู่ก็เลือกที่จะไม่สนใจคำนินทาเหล่านั้น
“เราขอโทษที่บอกช้า แต่อายก็รู้ใช่ไหมว่าการเป็นยูทูปเบอร์นักเดินทางคือความฝันของเรา”
“รู้และเราก็พร้อมสนับสนุนให้เธอทำตามความฝันนั่นด้วย”
“แต่เราจะกังวลใจมากๆ ถ้ามีเรื่องยัยน้าอ้อวนเวียนอยู่ในหัว” ใบหน้าของครองขวัญกลับมาเครียดจนหัวคิ้วขมวดชนกันอีกครั้ง
“แล้วถ้ากำจัดน้าอ้อได้สำเร็จจริงๆ ปรากฎว่าวันหนึ่งคุณอาเกิดมีรักครั้งใหม่ขึ้นมาอีกทำไง”
“ถ้าดีกว่าน้าอ้อเราก็สนุบสนุนไง แต่ถ้าไม่ดีก็คงต้องฝากเธอจัดการต่อ” นั่นคือทางออกเพียงทางเดียวที่ครองขวัญคิดไว้
“บ้า ฝากกันได้ที่ไหน ขืนเราเข้าไปก็มีแต่จะก้าวก่ายสิ”
“อนาคตค่อยคิดเพราะสถานการณ์เฉพาะหน้าของเราในตอนนี้คือต้องกำจัดน้าอ้อให้ได้ก่อนเราออกเดินทาง เส้นตายของเราในศึกครั้งนี้มีแค่สิบสี่วันเท่านั้นเพื่อนอาย” ครองขวัญยื่นมือมาตบบ่าเพื่อนสนิทหนักๆ สองสามครั้ง ทั้งๆ ที่เกวลินยังไม่ได้ตบปากรับคำว่าจะช่วยก็ตาม
“ยังไงก็ไม่ยอมเปลี่ยนความคิดเรื่องน้าอ้อใช่ไหม”
“แน่ใจ แล้วอายอยากให้น้าอ้อนั่นมาเป็นแม่ของเราเหรอ”
“ถามเราได้ไงต้องถามคุณอาสิ” เกวลินตอบคำถามของครองขวัญไม่ได้จริงๆ
“เคยถามแล้ว คุณพ่อก็ยิ้มร่าท่าเดียวเลย หึ๋ย” ครองขวัญกัดฟันกรอดๆ เธออุตส่าห์รวบรวมความกล้าเข้าไปคุยเรื่องดาวฉายกับผู้เป็นพ่อมาแล้วครั้งหนึ่ง แต่ดูเหมือนพ่อของเธอยังไม่ให้ความร่วมมือเอาเสียเลยเพราะแบบนั้นเธอจึงต้องคิดและจัดการด้วยวิธีของตัวเอง
“งั้นก็แสดงว่าคุณอารักน้าอ้อมาก” พูดไปแล้ว เกวลินก็รู้สึกเจ็บจี๊ดในอกอย่างบอกไม่ถูก เธอเก็บซ่อนความรู้สึกบางอย่างมาตลอดและตั้งใจจะซ่อนมันไว้แบบนั้นไปจนวันตายเลยด้วยซ้ำ
“แต่ถ้าคุณพ่อได้รู้ธาตุแท้ของน้าอ้อว่าหน้าไว้หลังหลอกแค่ไหน เรามั่นใจว่าคุณพ่อต้องตาสว่างแน่” นั่นคือสิ่งที่ครองขวัญคิดและอยากให้เป็น รวมถึงจะใช้โอกาศนี้ทำอะไรบางอย่างเช่นกัน
“นะอาย ช่วยเราหน่อย เราขอร้องเธออีกครั้งก็ได้ กราบก็ยอม” นั่นทำให้เกวลินรีบห้ามครองขวัญทันที เพราะเห็นเธอทำท่าจะกราบอย่างที่พูด
“ไม่ต้องๆ เอาเป็นว่าเราจะช่วย แต่สำเร็จไหมเราไม่รับปากนะ” ครองขวัญพยักหน้ารับทันที ก่อนจะเอ่ยต่อด้วยความซาบซึ้ง
“อือ…ขอบใจนะ ฮือ เธอคือเพื่อนที่ดีที่สุดของเราจริงๆ”
เพราะรับปากว่าจะช่วยครองขวัญ นั่นทำให้เกวลินต้องย้ายไปอยู่กับเพื่อนที่บ้านเป็นการชั่วคราว เกวลินไม่ใช่คนกรุงเทพฯ แต่กำเนิดเธอมาเรียนต่อที่นี่ได้สี่ปีแล้วพอเรียนจบก็ตั้งใจจะทำงานไม่กลับบ้านเกิดที่จังหวัดสงขลาแต่อย่างใดเพราะต่อให้อยากกลับคนที่นั่นก็คงไม่ต้อนรับ
ตั้งแต่เธอมาเรียนต่อพ่อหรือใครก็ไม่เคยมาเยี่ยม แม้จะส่งเสียให้เธอเรียนกระทั่งจบปริญญาตรีแต่พอจบใครบางคนก็ทวงบุญคุณทันที โดยกำชับว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่เธอทำงานหาเงินได้ต้องส่งเงินส่วนหนึ่งให้ที่บ้านเพราะตอนนี้น้องชายต่างแม่ของเธอที่กำลังจะเรียนต่อที่ต่างประเทศ บางครั้งเกวลินก็น้อยใจในโชคชะตาของตัวเองมากเหมือนกันเพราะแบบนั้นจึงเข้าใจความรู้สึกของครองขวัญ
และเท่าที่เธอได้รู้จักดาวฉายอุปนิสัยบางอย่างก็ตรงอย่างที่ครองขวัญได้พูดไว้ ดาวฉายยังเคยกล่าวหาว่าที่เธอไปบ้านครองขวัญบ่อยๆ ก็เพราะต้องการอ่อยพ่อของเพื่อนสนิท รวมถึงคำพูดหลายๆ อย่างที่บั่นทอนความรู้สึกของเธอและนั่นก็ทำให้เธอรู้จักตัวตนของอีกฝ่ายได้พอสมควรเช่นกัน
เมื่อจัดกระเป๋าเรียบร้อยเกวลินก็เดินทางไปที่บ้านของครองขวัญ บ้านหลังใหญ่สีขาวที่ดูสวยไปเสียทุกมุม เธอเคยมาที่นี่แล้วหลายครั้งโดยเฉพาะเวลาสอบที่มักจะมานอนค้างเพื่อติวหนังสือกับครองขวัญ แต่ทุกครั้งบิดาของเพื่อนสนิทมักจะบินไปทำงานที่ต่างประเทศเสมอและไหว้วานให้ดาวฉายมาคอยดูแล หลังๆ มานี้เธอจึงมีโอกาสได้เจอคุณอาปราณหรือที่เธอเรียกจนติดปากกว่าคุณอาน้อยครั้งมาก
