บทที่ 9 เขาคือวีรบุรุษ
บทที่ 9 เขาคือวีรบุรุษ
เงียบ... ความเงียบที่น่าอึดอัดหนักหน่วงยิ่งกว่าพายุหิมะ เสมียนหนุ่มคนนั้นเบิกตากว้างอ้าปากค้าง เขาหันไปมองหัวหน้าหลี่แล้วหันกลับมามองสวี่จิ้งอี หลี่เจี้ยนกั๋วตอนนี้หน้าของเขาไม่เป็นหน้าแล้ว มันไม่ใช่แค่แดง มันกลายเป็นสีม่วงคล้ำ เส้นเลือดที่ขมับเต้นตุบ ๆ
"ทะ... ทะเบียนสมรส?" เขาเค้นเสียงออกมา "จด...จดกับใคร?"
สวี่จิ้งอีพยักหน้าไปทางลู่เฟิงที่เดินกะเผลกเข้ามายืนเคียงข้างเธอ ลู่เฟิงวางบัตรประชาชนทหารปลดประจำการของเขาลงบนโต๊ะ ปึก! เสียงหนักแน่นไม่ต่างจากการวางอาวุธ
"ว่า... ว่าไงนะ!!!" หลี่เจี้ยนกั๋วคำรามลั่น นี่มันไม่ใช่แค่การตบหน้า นี่มันคือการเหยียบหน้ากันชัด ๆ! เขาเพิ่งยื่นข้อเสนอให้เธอแต่งงานกับลูกชายเขา เธอปฏิเสธ และไม่ถึงครึ่งชั่วโมงต่อมา เธอกลับมาพร้อมกับไอ้ขยะขาพิการที่เขาเหยียดหยามที่สุดในหมู่บ้าน เพื่อจดทะเบียน!
"สวี่จิ้งอี! แกมันบ้าไปแล้ว!" หลี่เจี้ยนกั๋วตะโกน "แกปฏิเสธลูกชายฉันเพื่อมาเลือกไอ้ขาพิการนี่น่ะเหรอ!"
สวี่จิ้งอีหันไปมองเขาเป็นครั้งแรก แววตาเย็นชา "ท่านหัวหน้าหลี่ นี่คือการตัดสินใจส่วนตัวของฉัน" เธอหันไปหาเสมียน "สหาย ตามกฎหมายการแต่งงานของรัฐ เราทั้งคู่บรรลุนิติภาวะ โสด และสมัครใจทั้งสองฝ่าย กรุณาดำเนินการด้วยค่ะ"
นี่คือการเชือด เธอใช้กฎหมายที่อยู่เหนือกว่าอำนาจของเขาในคอมมูนนี้ การขัดขวางการแต่งงานที่ถูกต้องตามกฎหมาย คืออาชญากรรมทางการเมือง!
"แก... แก..." หลี่เจี้ยนกั๋วชี้หน้าเธอ นิ้วสั่นเทา เขาอยากจะฉีกเธอเป็นชิ้น ๆ แต่เขาทำไม่ได้! เขาทำได้แค่หันไปข่มขู่ลู่เฟิง
"ลู่เฟิง! แกคิดดีแล้วเหรอ!" เขาขู่ฟ่อ "แกกล้าท้าทายฉันเหรอ! แกอย่าลืมว่าคะแนนงานของแก อาหารของน้องแก มันอยู่ในมือฉัน!"
ลู่เฟิงยืนนิ่ง เขาเหลือบมองสวี่จิ้งอี ผู้หญิงที่สัญญาว่า "มีจนพวกคุณเบื่อ" เขานึกถึงซาลาเปาไส้เนื้อ เขานึกถึงขาที่กำลังปวดร้าวและคำวินิจฉัยว่าต้องตัดทิ้ง และนึกถึงยาแก้ปวดที่เธอให้มา เขากินเข้าไปไม่นานอาการปวดก็บรรเทาลง เขาหันกลับไปเผชิญหน้ากับหลี่เจี้ยนกั๋ว แววตาของทหารที่เคยผ่านสมรภูมิมันไม่กลัวคำขู่
"เธอกำลังจะเป็นภรรยาของผม" ลู่เฟิงพูดเสียงทุ้มต่ำ
จบ! มันคือคำประกาศ คือการเลือกข้าง เขายอมเดิมพันอนาคตกับผู้หญิงคนนี้
"อ๊ากกกก!" หลี่เจี้ยนกั๋วคำรามอย่างบ้าคลั่ง เขาถูกต้อนจนมุม เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากหันไปตะคอกใส่เสมียน "มองอะไร! ทำสิ! ทำให้มันเสร็จ ๆ ไป!"
เสมียนหนุ่มสะดุ้งสุดตัว มือไม้สั่น รีบหยิบแบบฟอร์มและสมุดเล่มแดง เขาแทบไม่กล้าเงยหน้า "ชื่อ... อายุ..."
"สวี่จิ้งอี อายุ 19"
"ลู่เฟิง อายุ 25"
การกรอกเอกสาร การประทับตรา ทุกอย่างเกิดขึ้นท่ามกลางบรรยากาศที่กดดันจนแทบระเบิด หลี่เจี้ยนกั๋วยืนหายใจฟึดฟัดเหมือนวัวกระทิง จ้องเขม็งราวกับจะฆ่าคนทั้งสอง
ห้านาทีต่อมา สมุดเล่มเล็กสีแดงสดสองเล่มถูกยื่นออกมา "ทะ... ทะเบียนสมรส... เรียบร้อยแล้ว"
สวี่จิ้งอีรับเล่มของเธอมา เธอเปิดมันออก ชื่อของเธอและชื่อของเขาถูกผูกมัดกันด้วยหมึกสีดำและตราประทับสีแดง เธอได้เกราะที่เธอต้องการแล้ว เธอมองลู่เฟิง เขาก็รับเล่มของเขามาและยัดมันลงในกระเป๋าเสื้ออย่างไม่ใส่ใจราวกับมันเป็นแค่เศษกระดาษ สวี่จิ้งอีหันหลัง เธอโค้งคำนับให้หลี่เจี้ยนกั๋ว รอยยิ้มเยือกเย็นปรากฏขึ้นที่มุมปาก
“ขอบคุณสำหรับความช่วยเหลือนะคะท่านหัวหน้าหลี่” เธอกำลังจะก้าวออกจากประตู
"เฮอะ! ไปอยู่กับไอ้ขยะขาพิการนั่นให้สบายเถอะ!" หลี่เจี้ยนกั๋วคำรามไล่หลังด้วยความเดือดดาล "เหมาะสมกันดี! พวกไร้ค่า! ไปอยู่ด้วยกันให้อดตายไปเลย"
เท้าของสวี่จิ้งอีหยุดกึก อากาศในห้องที่กำลังจะคลายตัวพลันเย็นเยียบลงยิ่งกว่าจุดเยือกแข็ง
ลู่เฟิงที่กำลังจะออกเดินชะงัก แผ่นหลังของเขาแข็งทื่อ
ขยะ... ไร้ค่า...
คำพูดนี้ เขาได้ยินมันมานับครั้งไม่ถ้วน ได้ยินจากญาติพี่น้องที่รังเกียจ ได้ยินจากสายตาดูแคลนของชาวบ้าน เขากำหมัดแน่น สันกรามขบกัน เขาชินแล้ว เขาชินจนมันด้านชา แต่ครั้งนี้มันเจ็บปวดกว่าทุกครั้ง เพราะมันตอกย้ำความจริงที่โหดร้าย วันนี้เขาขายนามสกุลของตัวเองเพื่อแลกกับซาลาเปาสามลูก วันนี้เขาต้องพึ่งพาผู้หญิงที่เพิ่งเจอกันเพื่อให้น้อง ๆ ของเขามีชีวิตรอด
ความอัปยศถาโถมเข้าใส่เขาราวกับภูเขาถล่ม ภาพในอดีตซ้อนทับขึ้นมา ภาพของเปลวไฟ เสียงระเบิด เสียงกรีดร้องของสหาย ภาพที่เขาใช้ร่างของตัวเองไถลไปกับพื้น ดึงร่างของผู้บังคับบัญชาออกจากแนวยิงก่อนที่ระเบิดลูกนั้นจะระเบิดขึ้นมา ความเจ็บปวดแหลมคมที่ขาขวา ก่อนที่ทุกอย่างจะดับวูบไป... เขาเสียสละขาเพื่อเกียรติยศ และบัดนี้เกียรติยศนั้น ถูกบดขยี้จนไม่เหลือชิ้นดี เขาปกป้องคนอื่นได้ แต่เขากลับปกป้องน้องตัวเองจากความหิวโหยไม่ได้
เขาคือขยะจริง ๆ ...
ลู่เฟิงก้มหน้าลง ยอมรับชะตากรรมนั้น ไหล่ที่เคยตั้งตรงบัดนี้ลู่ลง เขาแค่ไม่อยากให้เธอ ผู้หญิงที่เพิ่งกลายเป็นภรรยาของเขา ต้องมาทนอัปยศไปด้วย แต่สวี่จิ้งอีกลับหมุนตัวช้า ๆ รอยยิ้มเยาะเย้ยหายไปจากใบหน้าเธอ สิ่งที่เข้ามาแทนคือความเย็นชาที่ไร้ก้นบึ้ง ความเย็นชาของฟีนิกซ์ที่กำลังจะสยายปีก เธอหันไปมองลู่เฟิง มองแผ่นหลังที่กำลังสั่นสะท้านด้วยอารมณ์ที่ถูกกดข่ม มองไปที่ขาข้างที่บาดเจ็บ ขาข้างที่ทำให้เขาถูกเรียกว่า ไอ้ขยะขาพิการ ก่อนจะเอ่ยขึ้นมา น้ำเสียงของเธอไม่ดังแต่ชัดเจนและก้องกังวานไปทั่วสำนักงานที่เงียบงัน
"ท่านหัวหน้าหลี่" เธอจ้องตรงไปยังจิ้งจอกเฒ่าที่กำลังผงะกับแววตาของเธอ "ท่านเรียกเขาว่า 'ขยะขาพิการ'"
เธอเดินกลับมาช้า ๆ ทีละก้าว มาหยุดยืนอยู่ข้าง ๆ ลู่เฟิง เคียงบ่าเคียงไหล่ เธอมองตรงไปที่หลี่เจี้ยนกั๋ว "ขาข้างนี้ที่ท่านเหยียบย่ำ" เธอชี้ไปที่ขาขวาของลู่เฟิง "มันไม่ได้พิการเพราะความเกียจคร้าน มันไม่ได้หักเพราะไปตีรันฟันแทงกับใคร"
เธอก้าวไปข้างหน้าอีกหนึ่งก้าว บีบให้หลี่เจี้ยนกั๋วต้องสบตาเธอ "ขานี้ มันพิการเพราะมันแบกรับอุดมการณ์ที่ท่านนั่งพูดอยู่บนเก้าอี้ตัวนี้ทุกวัน!"
เสมียนหนุ่มสะดุ้งเฮือก หน้าซีดเผือด หลี่เจี้ยนกั๋วหน้าเปลี่ยนสี "ลู่เฟิง" สวี่จิ้งอีประกาศก้อง "ไม่ใช่คนไร้ค่า เขาคือทหารปลดแอกประชาชน!"
เธอกระแทกคำพูดแต่ละคำราวกับตอกลิ่มลงไปในมโนธรรมของทุกคนที่ได้ยิน
"เลือดเนื้อที่เขาเสียไปในสมรภูมิคือสิ่งที่ค้ำจุนตำแหน่งอันสุขสบายของท่านในวันนี้! บาดแผลนี้ไม่ใช่ความอัปยศ แต่มันคือ เกียรติยศที่ย้อมด้วยเลือด!"
ลู่เฟิงยืนตัวแข็งทื่อ เขาก้มมองผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่ยืนอยู่ข้างเขา ผู้หญิงที่กำลังสู้เพื่อศักดิ์ศรีที่เขาคิดว่าทำหล่นหายไปนานแล้ว หัวใจที่เย็นชืดของเขาพลันสั่นสะท้านอย่างรุนแรง สวี่จิ้งอีจ้องหลี่เจี้ยนกั๋ว และกวาดสายตามองเสมียนที่กำลังตัวสั่น
"เขาคือวีรบุรุษ ไม่ใช่ขยะ คนที่ควรละอายต่อบาดแผลนี้ไม่ใช่เขา" เธอยิ้มเย็น รอยยิ้มที่คมกริบ
"แต่คือ คนที่ลืมไปแล้วว่าตัวเองได้ทุกอย่างมาเพราะการเสียสละของคนอย่างเขา"
จบคำ ไม่มีใครกล้าสบตาเธอ หลี่เจี้ยนกั๋วอ้าปากพะงาบ ๆ โกรธแต่เถียงไม่ออก! เพราะเธอใช้อุดมการณ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดมาตบหน้าเขา! การดูถูกทหารผ่านศึกคือการดูถูกรากฐานของประเทศ! เสมียนหนุ่มก้มหน้า มือไม้สั่น เขาไม่ใช่แค่กลัว แต่เขากำลัง ละอายใจที่เขาเองก็เคยมองลู่เฟิงอย่างไม่ให้เกียรติและมองเขาเป็นตัวภาระ
สวี่จิ้งอีไม่รอคำตอบ เธอหันไปหาสามีตามกฎหมายของเธอ "กลับบ้านกันเถอะค่ะ"
เธอเป็นฝ่ายเดินนำออกไป ทิ้งให้ลู่เฟิงที่ยังคงตกตะลึงได้แต่กัดฟันและเดินกะเผลกตามแผ่นหลังที่เล็กแต่กลับดูยิ่งใหญ่ที่สุดที่เขาเคยเห็นออกไป
สวี่จิ้งอีและลู่เฟิง สามีภรรยาคู่ใหม่ เดินออกจากสำนักงานไป ทิ้งจิ้งจอกเฒ่าไว้เบื้องหลัง ให้จมอยู่กับความโกรธแค้น และเสียงถ้วยชาที่ถูกขว้างจนแตกกระจาย
**** พี่ลู่ได้เมียดีนะเนี่ย เพิ่งจะจดทะเบียนก็กระโดดเข้าปกป้องสามีแล้ว ****
