บท
ตั้งค่า

ตอนที่24. เป็นอย่างไรบ้าง

หญิงสาวรีบเดินกลับเข้ามาไปในบ้าน หยิบสมุนไพรที่ท่านพ่อเตรียมไว้ให้ก่อนแล้ว นางหันซ้ายหันขวากวาดตามองว่าลืมสิ่งใดอีกหรือไม่ ทันใดนั้นนางก็นึกถึงตำราแพทย์ที่หยิบยืมมาจากจวนแม่ทัพจ้าว หลังจากวันนั้นที่เขาส่งคนมาบอกนางให้เก็บหนังสือไว้ก่อน เขาก็เงียบหายไปสิบวันเต็ม ไม่รู้ว่าลืมนางไปหรือไม่ เดิมทีอยากยืมหนังสือไว้นานๆ แต่หลังจากที่ปรึกษาพูดคุยกับบิดาว่าเราจะโยกย้ายออกจากเมืองนี้ นางจึงอยากคืนหนังสือให้เขาโดยเร็ว เพื่อจะได้ไม่มีสิ่งใดติดค้างในใจ คิดได้ดังนั้นนางก็หยิบหนังสือสามเล่มห่อผ้าเรียบร้อยแล้วเดินถือล่วมยาและห่อผ้าออกมาออกไปหน้าบ้าน พ่อบ้านตู้รีบเข้าไปช่วยรับและส่งนางขึ้นรถม้าแล้วพาไปที่จวนแม่ทัพอย่างรวดเร็ว

เมื่อมาถึงมู่ไปถึง มู่ฟางเหนียงเห็นความโกลาหนหลที่เกิดขึ้น ดูเหมือนว่าคุณหนูของบ้านจะเป็นที่รักและห่วงใยของทุกครั้ง คน ระหว่างเดินผ่านผู้คนเหล่านั้น แอบเห็นบางคนเช็ดน้ำตาป้อยๆ ด้วยความดีใจ นางจึงพลอยยิ้มไปด้วย พ่อบ้านตู้พานางมาไปส่งที่ห้องพักของเคอหลิ่งหลิน

“พี่หลิ่งหลิน” นางร้องทักด้วยความยินดี ก่อนถลาเข้ามาแล้วไปประคองเคอหลิ่งหลินให้นั่งพิงหมอนเอนกายได้สบายตัวขึ้น

“ฟางเหนียง? เจ้ามาที่นี่ได้อย่างไรกัน” เคอหลิ่งหลินเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ

“พ่อบ้านตู้ไปรับข้ามาเจ้าคะค่ะ”

เคอหลิ่งหลินมองไปยังชุนเอ๋อร์ สาวใช้เข้าใจสายตาของผู้เป็นนายจึงค่อยๆ ถอยออกไปอยู่นอกห้อง เมื่อหญิงสาวไม่เห็นว่าเหลือเพียงมู่ฟางเหนียงแล้วจึงเอ่ยปากถามด้วยความร้อนใจ

“คุณชายเฉินเป็นอย่างไรบ้าง”

“พี่สาวควรห่วงตัวเองก่อนนะเจ้าคะ” คนเป็นหมอหญิงส่ายหน้าไปมา แล้วพลิกข้อมือของหญิงสาวมาจับชีพจร ข้อมือของเคอหลิ่งหลินเล็กและร่างกายก็ซูบผอมลงไปมาก

“บิดาของเจ้าล่ะ” เคอหลิ่งหลินพยายามสงบสติอารมณ์ให้คงที่ แต่ความกังวลที่รู้ว่าตัวเองหมดสติหลับใหลไปนานนับเดือนทำให้กังวลถึงชายคนที่นางแอบมีใจให้

“ออกไปตรวจคนไข้ที่อื่น กลับพรุ่งนี้เจ้าคะ ค่ะ ข้าเลยอาสามาดูอาการของท่านเอง” มู่ฟางเหนียงขมวดคิ้ว “ชีพจรท่านไม่ปกติ ลมปราณไหลเวียนเปลี่ยนทิศ”

“คงจะเป็นเช่นนั้น ข้าไม่เคยบาดเจ็บขนาดนี้มาก่อน” นางเพียงฝืนยิ้มให้

“ท่านพ่อก็พูดเช่นนั้น” หญิงสาวอายุน้อยกว่าพยักหน้า “ระหว่างที่ท่านไม่ได้สติ แม่ทัพจ้าวให้พ่อบ้านไปเชิญท่านพ่อมาดูอาการท่าน ข้ากับพ่อจึงเพิ่งรู้ว่าท่านเป็นบุญบุตรธรรมบุตรบุญธรรมของแม่ทัพจ้าว”

“เรื่องนั้น... ข้าต้องขอโทษที่ไม่ได้บอกเจ้ากับพ่อ ข้าไม่มีเจตนาจะปิดบังแต่อย่างใด”

“ข้าเข้าใจ” นางพยักหน้า แต่เคอหลิ่งหลินทำหน้างุนงง

“เข้าใจว่าอย่างไรกัน”

“เข้าใจว่าท่านไม่อยากบอกใคร อยากให้ผู้อื่นเข้าใจไปเองว่าท่านเป็นคนเลี้ยงม้าในจวนแม่ทัพจ้าว”

พูดจบนางก็ได้ยินเสียงหัวเราะของเคอหลิ่งหลิน นางเผลอทำแง่งอนที่ถูกหัวเราะแบบนั้น

“เด็กโง่ ข้าเพียงได้รับความเมตตาจากท่านแม่ทัพจ้าว แต่บิดาที่แท้จริงของข้าก็ยังคงเป็นเพียงโจรป่ากลับใจเท่านั้น ข้าไม่ตีตนเสมอคุณชายของบ้านนี้หรอก อีกอย่างข้าอยู่สนามรบมานาน คนรักข้าก็มี คนชังข้าก็มาก เพื่อความปลอดภัยของเจ้าและท่านหมอมู่ ข้าจึงไม่อยากให้ใครล่วงรู้ว่าข้าเป็นใคร”

“เอาเถอะ พี่เคยช่วยชีวิตข้า ข้าจะไม่ถามอะไรท่านมากไปกว่านี้”

“เช่นนั้นข้าถามเจ้าได้หรือไม่ เขาผู้นั้นเป็นอย่างไรบ้าง”

“เขาสบายดี กลับเมืองหลวงไปครึ่งเดือนแล้ว”

“จริงรึ?”

“ข้าจะโกหกพี่ไปทำไม มีแม่นางคนงามนำไข่มุกหมื่นราตรีมาให้ท่านพ่อข้าปรุงยาขับพิษในตัวคุณชายเฉิน”

“อะไรนะ” คราวนี้เป็นเคอหลิ่งหลินที่ตกใจ

“เรื่องนั้นข้าไม่รู้ เพียงแต่พอคุณชายเฉินฟื้นตัวก็มีเหตุด่วนต้องกลับเมืองหลวง หลังจากนั้นข้าก็ไม่ทราบว่าคนผู้นั้นเป็นอย่างไร”

มู่ฟางเหนียงลอบเห็นสีหน้าของเคอหลิ่งหลินเจ็บแปลบ นางเข้าใจดี แม้ตนเองจะไม่เคยมีคนรักก็ตาม แต่จากที่ติดตามบิดารักษาคนป่วย ‘โรคใจ’ นั้นรักษายากยิ่งไม่แพ้โรคอื่น ผิดหวังในความรักจนตรอมใจมีมากมายนัก

“ดีแล้ว เขายังมีชีวิตอยู่”

เคอหลิ่งหลินเอ่ยเสียงแผ่วและฝืนยิ้มอ่อนระโหยออกมาได้ แต่มู่ฟางเหนียงกลับขมวดคิ้ว ยกมือขึ้นเท้าเอวแล้วถลึงตาใส่คนป่วย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel