บท
ตั้งค่า

ตอนที่13. เดี๋ยวข้าจะไปดูเอง

“เจ้าตัวนั้นนะเหรอ” นางถามอย่างนึกได้ บ้านของเสี่ยวจิงอยู่ไม่ไกลนัก นางจำได้เพราะว่าเด็กชายมักมาคุยเล่นกับนางบ่อยๆ บางทีก็จูงมือนางไปดูวัวที่พ่อยกให้เขาเป็นของขวัญ

“วัวของข้า วัวของข้า” เด็กน้อยได้แต่พูดซ้ำๆ ยกแขนขึ้นปาดน้ำตาจนแก้มเปื้อนเปรอะมอมแมมไปหมด

“ไม่เป็นไรๆ เดี๋ยวข้าจะไปดูเอง” นางจับมือเด็กน้อยแล้วลุกขึ้น “ท่านพ่อ เดี๋ยวข้ามานะ ท่านหิวก็อุ่นกับข้าวกินไปก่อนนะเจ้าคะ”

มู่หยางซัวโบกมือไล่ให้นางรีบออกไป ไม่เช่นนั้นเด็กชายคงร้องไห้จนตาบวมปูดเป็นแน่ มู่ฟางเหนียงถูกเด็กชายจูงมือแล้วลากให้นางวิ่งตามไปอย่างรวดเร็ว และตามประสาเด็กที่มักจะใช้เส้นทางลัดมุดรั้วบ้านผู้อื่น แม้ต้องคลานสี่เท้าคล้ายสุนัขก็ตามที หญิงสาวก็ยอมทำตามด้วยรู้ว่าเด็กน้อยร้อนใจนัก เขาหมายมั่นจะเป็นคนเลี้ยงวัว ตั้งแต่รู้ว่าวัวของตัวเองตั้งท้อง เขาก็ดูแลมันอย่างดีมาตลอด เห็นวัวท่าทางไม่สบายก็มาตามนางไปดู ทั้งที่ก็รู้ว่าเป็นหมอรักษาคน ไม่ใช่หมอรักษาวัว แต่เอาเถิด เด็กก็คือเด็ก เขามีความตั้งใจมุ่งมั่นดี นางก็ต้องสนับสนุนแม้ต้องคลานจนเจ็บเข่าอย่างนี้ พอพ้นรั้วก็แหวกกอหญ้าสูงท่วมศีรษะ แล้วก็ถึงเขตบ้านของเสี่ยวจิง เขาจูงมือนาง กำมือของนางแน่นราวกับกลัวว่านางจะหนีไปเสียก่อน

แม่วัวกระสับกระส่าย ส่งเสียงร้องตลอดเวลา เสี่ยวจิงหาหญ้าหรือฟางข้าวปูรองไว้ก่อนแล้ว นางเห็นคนอื่นเฝ้ายืนมองอย่างจนปัญญา ทำอย่างไรแม่วัวก็ไม่อาจเบ่งลูกออกมาได้เสียที หรือจะต้องเสียทั้งแม่และลูกไปพร้อมกัน

“มาเถอะ ช่วยกันเอาเชือกมัดมันไว้ก่อน เดี๋ยวมันจะถีบผู้อื่นเข้า” นางร้องสั่งให้พ่อของเสี่ยวจิงผูกเชือกล่ามแม่วัวไว้ นางเดินอ้อมไปด้านหลังยกหางวัว เพ่งมองอย่างพิจารณา ปกติลูกวัวจะยื่นขาหน้าออกมาก่อน แต่นี่...

“เสี่ยวจิงไปเอาน้ำมันหมูมาเร็ว” นางสั่งเด็กชาย เสี่ยวจิงรีบวิ่งไปทันที “ช่วยกันจับแม่วัวให้ดี ข้าต้องล้วงไปดึงขาลูกวัวเสียก่อน”

นางม้วนแขนเสื้อขึ้นจนถึงโคนแขนทั้งสองข้าง ท่อนแขนกลมเล็กดุจลำเทียน เมื่อเสี่ยวจิงถือหม้อใส่น้ำมันมาถึง นางก็ให้เด็กชายชโลมทั่วมือและแขน นางสบตากับผู้ใหญ่ที่ช่วยกันจับแม่วัวเป็นเชิงให้สัญญาณแล้วสอดมือเข้าไปในช่องคลอดของวัว ลูบคลำจนรู้ว่าไหล่วัวติดอยู่ นางจึงออกแรงดึงขาหน้าของวัวให้ค่อยๆ ออกมาอย่างช้าๆ

“ออกมาแล้วๆ” เด็กชายร้องอย่างดีใจที่เห็นลูกวัวหลุดออกมา แม่วัวร้องอย่างเจ็บปวดสะบัดไปมาจะเหยียบลูกเข้าให้ นางต้องรีบลากออกมาให้พ้นรัศมีเท้าของมัน แม่วัวสาวท้องแรกยังตื่นตกใจไม่ยอมมาเลียลูกวัว มู่ฟางเหนียงมองหาเศษผ้าสักผืน แต่ด้วยความร้อนใจ นางจึงฉีกชายกระโปรงของตนรีบเช็ดเมือกออกจากตัวลูกวัว

“โชคดีที่ไม่มีเมือกอุดรูจมูก” นางพึมพำ ไม่นานนักลูกวัวก็ค่อยๆ ยืนขึ้น แม้แข้งขาจะสั่นก็ตาม แม่วัวเริ่มใจเย็นแล้วเดินมาเลียลูกของตน ลูกวัวเดินมุดเข้าไปดูดนมจากเต้าของแม่ทันที

“เย้ๆ วัวของข้า” เสี่ยวจิงดีใจกระโดดโลดเต้น ทั้งที่ก่อนหน้านี้เขาร้องไห้จนตาบวมช้ำ

“ขอบคุณแม่นางมู่ ลำบากเจ้าจริงๆ”

“ไม่เป็นไร ข้าทำเท่าที่พอทำได้” นางถอนหายใจอย่างโล่งอก แล้วก็ก้มมองสภาพตัวเองที่เปื้อนเปรอะคราบคาวเลือดกับน้ำคร่ำของแม่วัว

“เชิญเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนเถิด เอาชุดของลูกสะใภ้ข้าก็ได้ นางกับเจ้ารูปร่างพอๆ กัน”

“เห็นทีต้องรบกวนแล้ว” ดูสภาพนางตอนนี้แล้วคงกลับบ้านไปแบบนี้ไม่ได้แน่ นางยิ้มน้อยๆ แล้วเดินตามมารดาของเสี่ยวจิงไปในบ้าน นางเช็ดเนื้อตัวเอาคราบคาวออกแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าชุดใหม่

“ข้าซักเสื้อผ้าชุดนี้แล้วจะเอามาคืนนะ” นางเอ่ยบอกเมื่อเปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้ว

“ถ้าไม่รังเกียจก็ขอยกชุดนี้ให้เจ้า ตอบแทนที่เจ้าอุตส่าห์มาช่วยทำคลอดแม่วัวให้”

“ข้าไม่ได้รังเกียจแต่ข้าเกรงใจ ข้าเห็นเสี่ยวจิงร้องไห้อย่างนั้นจะไม่ช่วยก็ไม่ได้” นางหัวเราะออกมาเมื่อนึกถึงเด็กผู้ชายคนนั้นที่พยายามทำเข้มแข็งแต่ร้องไห้จนมอมแมมไปหมด

“ถ้าอย่างนั้นข้าจะให้เสี่ยวจิงไปส่งเจ้า”

มู่ฟางเหนียงยิ้มฝืด เรื่องนางเป็นคนหลงทิศหลงทางนั้นเป็นที่รู้กันไปทั่ว อยากจะห้ามแต่แม่ของเสี่ยวจิงก็เดินเร็วๆ ไปตามลูกชายแล้ว เด็กชายรีบวิ่งมาหาพร้อมรอยยิ้ม

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel