บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 27. ขัดใจ

“ท่านพ่อ ลูกไม่เห็นว่าเรื่องนี้เป็นหัวข้อที่น่าสนทนานัก”

เขาฮึดฮัดอย่างขัดใจ ท่านพ่อเคยพูดว่าไม่รังเกียจแม้นางจะเป็นเพียงบุตรสาวของโจรป่า นางเป็นผู้หญิงคนเดียวที่เขาใกล้ชิดและไม่คิดว่าจะรู้สึกพิเศษเช่นนี้กับใครได้ ที่รั้งรอไม่ยอมแต่งงานก็เพราะใจของเขามีเพียงเคอหลิ่งหลินเท่านั้น หากนางยังไม่แต่งงานก็เท่ากับเขายังมีความหวัง และอาจเพราะเขาเองไม่เคยพูดกับนางเรื่องนี้ตรงๆ สักครั้ง นางจึงยังไม่รู้ว่าตลอดเวลาที่ผ่านมา เขาเป็นห่วงนางในฐานะบุรุษคนหนึ่ง ไม่ใช่เป็นเพียงน้องชายของนาง

“เจ้ายังเด็กอยู่จริงๆ จิ่นสือ” พูดพลางถอนหายใจอีกครั้ง

“ท่านพ่อ”

“เดิมพันกับพ่อไหมล่ะ”

“อะไรนะ” เขาถามกลับอย่างงุนงง

“เดิมพันกับพ่อ” แม่ทัพจ้าวซื่อก่วงพูดด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “พ่อจะส่งเจ้าไปเผ่าเอ้อหลุนชุนและส่งหลิ่งหลินไปเมืองหลวงเป็นเพื่อนแม่ของเจ้า เมื่อกลับมาแล้ว หากเจ้ายังคงเดิมและนางไม่มีผู้ใด พ่อจะสนับสนุนเจ้าทั้งสองคนเอง”

“ขอบคุณท่านพ่อ” เขายิ้มกว้างไม่ปิดบังความยินดีบนใบหน้า

“เร็วไปจิ่นสือ” บิดายกมือห้ามไว้ก่อน “หากนางมีชายในดวงใจ เจ้าก็ต้องยอมหลีกทาง ไม่คิดแค้นเคืองนางหรือชายผู้นั้นเด็ดขาด”

“ลูกสาบาน”

“ดี” ผู้เป็นบิดาพยักหน้ารับ “อย่าลืมคำพูดของเจ้าเสียล่ะ”

“ขอรับ”

“เอาละ เจ้าเพิ่งกลับมา ไปพักผ่อนก่อนเถิด แล้วค่อยเขียนรายงานมาให้พ่อ อ้อ! โกนหนวดโกนเครานั่นออกเสียด้วย พ่อบอกแม่ว่าเจ้าไปเยี่ยมสหายของพ่อที่เมืองอื่น ไม่ได้ส่งไปเป็นโจร”

“ขอรับท่านพ่อ”

เขาเพียงก้มศีรษะรับคำสั่ง มุมปากยกยิ้มน้อยๆ เห็นมือใหญ่ของบิดาโบกไล่แล้วก็ถอยออกมา พอก้าวเดินได้ไม่เท่าไหร่ เขาก็ยกมือลูบคางตัวเอง สงสัยเมื่อครู่ท่านแม่จะจำเขาไม่ได้หรือเพราะตื่นเต้นที่เคอหลิ่งหลินตื่นฟื้นก็มิรู้ ชายหนุ่มเพิ่งเดินยิ้มอารมณ์ดีกลับมาที่ห้องของตนเอง แม้จะเดินทางมาตลอดคืนแต่กลับไร้ความอ่อนเพลีย เขานึกได้ว่าระหว่างทำภารกิจแฝงตัวกับกองคาราวานขนสินค้า เขาได้หวีไม้จันทน์หอมแกะสลักลวดลายอย่างสวยงามมาหนึ่งชิ้น หวังใจจะมอบให้เคอหลิ่งหลิน ชายหนุ่มเดินไปที่ห่อผ้าสัมภาระของตนเอง แล้วหยิบหวีไม้ออกมาพลิกดูด้วยรอยยิ้ม เห็นนางตื่นพูดคุยเป็นปกติก็ดีใจ แต่จะเอาไปให้เลยก็รู้สึกกระดากขัดเขิน จึงเดินเอาไปเก็บในลิ้นชัก ไว้ค่อยหาโอกาสเหมาะๆ มอบให้นาง

พลันวาบหนึ่งเขานึกถึงเจ้ากลองป๋องแป๋งที่เก็บใส่ลิ้นชักข้างๆ กัน เขาหยิบออกมาดูแล้วรอยยิ้มก็ปรากฏบนใบหน้า สิบวันที่เขาไม่อยู่ นางคงอ่านตำราแพทย์สามเล่มนั้นทะลุปรุโปร่งไปแล้ว พอนึกถึงดวงตาที่ถลึงตาจ้องมองเขาอย่างไม่พอใจที่ไปฆ่างูตัวนั้น เขาก็ถึงกับหัวเราะออกมา

หญิงสาวในชุดสีชมพูอ่อนหวานดุจดอกไม้แย้มบานเดินกอดห่อผ้าที่มีตำราแพทย์สามเล่มในอ้อมอกอย่างทะนุถนอม ริมฝีปากสวยขมุบขมิบบ่นพึมพำกับตัวเอง หัวคิ้วขมวดยุ่งด้วยความหงุดหงิด

“เดินตรงตามทางไปเรื่อยๆ ถึงทางแยกแล้วเลี้ยวซ้ายเดินต่อไปอีกหน่อยก็ถึงแล้ว...แล้วอยู่ตรงไหนล่ะ”

มู่ฟางเหนียงเป่าลมหายใจออกทางปากระบายความหงุดหงิดที่แน่นอก หอตำรา นางต้องไปหอตำรา แล้วหอตำราอยู่ตรงไหน ทำไมนางเดินท่องเส้นทางที่เคอหลิ่งหลินบอกแล้วเจอแต่ห้องหับมากมาย

“ไม่นะ! ข้าเดินหลงทางอีกแล้วใช่ไหม!”

หญิงสาวไม่ปิดบังรอยหงุดหงิดที่เกิดขึ้น ทำไมนะ! เรื่องแค่นี้นางก็ต้องหลงด้วย นางอุตส่าห์เดินท่องมาตลอดทางมิได้สะดุดหินสักก้อนจะได้หลงลืมได้ นางหันซ้ายหันขวามองหาคนผู้อื่นเพื่อจะถามทาง เมื่อเดินผ่านห้องหนึ่งก็ได้ยินเสียงดุดันร้องเรียกเสียก่อน

“ใครอยู่ข้างนอกเข้ามานี่หน่อย”

มู่ฟางเหนียงหันมองรอบกายจนแทบจะหมุนตัวเป็นวงกลม คนหลังบานประตูนั้นเรียกใครกันล่ะ นางหรือ? ไม่ใช่กระมัง ก็นางเพิ่งเดินมาถึงนี่ คนข้างในมีญาณทิพย์หรือไรกัน

“ไม่ได้ยินหรือไร บอกให้เข้ามา!”

‘จะตะคอกทำไมกันล่ะ รีบร้อนอะไรนักหนา!!’

นางได้แต่ก่นว่าอยู่ในใจ แต่มั่นใจว่าที่นี่ไม่มีผู้อื่นนอกจากนางที่ยืนงุนงงอยู่ นางจึงผลักประตูก้าวเร็วๆ เข้าไปเพื่อจะได้เห็นหน้าคนที่เรียกผู้อื่นด้วยน้ำเสียงเอาแต่ใจตัวเองเช่นนี้

“อะไรกัน เรียกตั้งนาน ก้าวเท้าไม่ได้หรือไร หรือต้องให้ข้าผู้เป็นนายเชิญพวกเจ้าเข้ามาปรนนิบัติข้า!”

จ้าวจิ่นสือตวาดด้วยน้ำเสียงดุดัน ก่อนหน้านี้ก็อารมณ์ดีอยู่หรอก แต่เพราะจะเรียกเด็กรับใช้มาเพื่อสั่งให้เอาน้ำและมีดสำหรับโกนหนวดให้ เรียกอยู่นานทั้งที่เขารู้ว่ามีคนยืนอยู่หน้าประตูนานแล้วจึงพาลหงุดหงิด ปกติบ่าวรับใช้ถูกเรียกครั้งเดียวก็รีบกุลีกุจอเข้ามารับใช้แล้ว ไม่ใช่ต้องให้เรียกซ้ำอยู่หลายครั้งเช่นนี้

“ข้าจะไปรู้ได้อย่างไรว่าท่านเรียกผู้ใด”

มู่ฟางเหนียงตอบกลับไปทั้งที่ไม่รู้ว่าผู้ที่หันหลังให้เป็นใคร นางเจอมาเยอะแล้ว คนเจ็บคนป่วยที่ชอบโวยวายใส่พ่อกับนาง โดยเฉพาะพวกคุณหนู คุณชายหัวสูงไม่สนใจผู้อื่นนั้น นางตอกกลับไม่เว้นหน้ามานับไม่ถ้วนแล้ว มีหรือจะกลัวแค่คำตะคอก ถ้าพูดดีๆ นางก็จะไม่หงุดหงิดเช่นนี้

“เป็นแค่บ่าวกล้าพูดจากับนายเช่นนี้รึ”

จ้าวจิ่นสือหมุนตัวกลับไปก็ต้องชะงักไป เช่นเดียวกับหญิงสาวที่พอเห็นคนตัวสูงหันมา ปากที่อ้าจะพูดก็กลายเป็นไม่มีเสียงไปเสียนี่

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel