บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 หลงลืม【2】

“ไม่เจ็บแล้วขอรับ ข้าหายดีแล้ว”

“ดี ดียิ่ง หมิงเอ๋อร์ ต่อไปเจ้าอย่าได้ซนเช่นนี้อีกรู้หรือไม่ เวลาเจ้าเจ็บป่วยทุกครั้ง มารดาของเจ้าปวดใจยิ่ง”

“ข้าทราบแล้วขอรับ ข้าสัญญา ต่อไปข้าจะระวังตัวและดูแลตัวเองให้ดีกว่านี้ ข้าขอโทษนะขอรับ”

“ไม่เป็นไร หมิงเอ๋อร์หิวหรือไม่ แม่ทำโจ๊กเปล่าไว้ เนื้อหมูหมดแล้ว คงได้แต่เติมน้ำตาลผักเท่านั้น”

จางอี้หมิงพยักหน้ารับ เขาคิดไว้อยู่แล้วว่าเนื้อหมูที่มีคงจะหมดประมาณช่วงนี้ เด็กน้อยขยี้ตาเบา ๆ ก่อนจะเอ่ยปากขอตัวไปล้างหน้าล้างตาให้สดชื่น

“ข้าขอตัวไปล้างหน้าก่อนนะขอรับ”

“ไปเถอะลูก เดินระวัง ๆ ด้วย” หลี่อ้ายตอบรับก่อนที่จะลุกไปตักโจ๊กมาให้จางอี้หมิง

ส่วนจางอี้เทา หลังจากที่ได้รับใบสั่งซื้อน้ำตาลผักมาอีกห้าร้อยไห เขาก็บอกภรรยากับมารดาว่าจะขึ้นเขาไปเก็บหญ้าหวานเพื่อนำมาตากแห้งตอนนี้เลย เนื่องจากใกล้เข้าฤดูหนาวแล้ว พระอาทิตย์ตกเร็ว ช่วงเวลากลางวันจึงสั้นตามไปด้วย เขาเกรงว่าอาจจะต้องใช้เวลาในการตากต้นหญ้าหวานมากกว่าหนึ่งวัน

“ท่านพี่ ข้าไปด้วยเจ้าค่ะ หมิงเอ๋อร์หายดีแล้ว ข้าไปช่วยจะได้เสร็จเร็วขึ้น” หลี่อ้ายเมื่อนำโจ๊กมาให้บุตรชายแล้วจึงเอ่ยบอกสามี

“น้องหญิง เจ้ายังไม่แข็งแรง พี่เกรงว่าจะล้มป่วยไปอีกรอบ” จางอี้เทาปฏิเสธ ถึงแม้ในตอนนี้อากาศจะไม่ร้อนมากแต่ให้หลี่อ้ายออกไปทำงานในช่วงนี้เลยคงจะไม่ดี

“ท่านพี่ ให้ข้าตามขึ้นไปช่วยท่านพี่เถอะนะเจ้าคะ อย่างน้อยจะได้ไปเป็นเพื่อน วันนี้ข้าไม่อยากให้หมิงเอ๋อร์ขึ้นเขาอีก ลูกเพิ่งหายไข้ น้องอยากให้ลูกได้พักก่อนเจ้าค่ะ”

“พี่ไปคนเดียวได้ ไม่หนักหนาอันใด แต่เอาเถอะ พี่ขอบใจน้องหญิงที่มีใจอยากช่วยเหลือ เช่นนั้นไปกันเถอะ” จางอี้เทาเตรียมห้ามอีกครั้ง แต่เมื่อเห็นสายตาที่เต็มไปด้วยความเด็ดเดี่ยวของภรรยาจึงปฏิเสธไม่ลง

เอาเถอะ...ดีเหมือนกัน อย่างน้อยก็มีเพื่อนคุยระหว่างทาง เขาจะให้นางแบกตะกร้าที่ไม่หนักมากนักแทน

“ท่านพ่อกับท่านแม่ช่างรักกันยิ่ง แต่เหตุใดข้าถึงยังไม่มีน้องชายน้องสาวมาเป็นเพื่อนเล่นเล่าขอรับ” จางอี้หมิงที่นั่งร่วมวงอยู่เงียบ ๆ เอ่ยถามขึ้นมาหน้าซื่อตาใส

“มะ หมิงเอ๋อร์ เจ้ากล่าวอันใด แม่ไม่คุยกับเจ้าแล้ว ท่านพี่ พวกเราไปกันเถอะเจ้าค่ะ” หลี่อ้ายเขินอายกับคำถามของบุตรชายจนใบหน้าขึ้นสีแดงระเรื่อ รีบดึงแขนสามีให้เดินออกจากบ้านไป

นั่นสินะ! เขาจะมีน้องสาวน้องชายได้อย่างไรเล่าในเมื่อความเป็นอยู่ยังเป็นเช่นนี้

จางอี้หมิงมองไปรอบ ๆ บ้านที่เป็นเหมือนห้องสี่เหลี่ยม ไม่มีห้องนอนเป็นของตนเอง สี่ชีวิตนอนรวมกัน ตอนมาคราแรกเขายังไม่คิดว่าที่นี่เป็นบ้านด้วยซ้ำ แล้วเช่นนี้ท่านพ่อกับท่านแม่จะมีเวลาส่วนตัวได้เช่นไร

แต่ไม่เป็นไร...อีกไม่ถึงเจ็ดวัน บ้านสกุลจางหลังใหม่จะได้ฤกษ์ก่อสร้างแล้ว รออีกนิดนะขอรับท่านพ่อท่านแม่

จางอี้หมิงบอกตนเองในใจเงียบ ๆ

หลังจากที่บิดามารดาออกไปจากบ้านแล้ว กระท่อมปลายนาจึงเหลือเพียงนางหูกับจางอี้หมิง หญิงชราลุกขึ้นยืน นางบอกกับหลานชายว่าจะไปซักผ้าที่ลำธารและเก็บผักบุ้งมาผัดกับเครื่องเทศสำหรับอาหารกลางวัน จางอี้หมิงพยักหน้ารับแต่โดยดี พอเริ่มว่างเขาก็รู้สึกเหมือนลืมอะไรสักอย่างที่สำคัญมาก ๆ ไป แต่ก็นึกไม่ออกว่าคืออะไร

สุดท้ายเขาจึงเดินไปรอบ ๆ บ้าน จะกล่าวให้ถูกก็คือเดินไปรอบ ๆ ห้องสี่เหลี่ยมเผื่อว่าจะจำอะไรขึ้นมาได้บ้าง หูไป๋หงกลับมาจากซักผ้าแล้ว นางตากผ้าจนเรียบร้อยแล้วจึงถือผักบุ้งเดินเข้ามา

“หมิงเอ๋อร์ เจ้ากำลังหาสิ่งใดหรือ”

เมื่อเห็นหลานชายเดินวนไปวนมาในบ้านจึงถามด้วยความสงสัย นางเดินผ่านไปเพื่อวางตะกร้าผักบุ้งไว้ที่ส่วนครัว

“ท่านย่า ข้าก็ไม่รู้เหมือนกันขอรับ เพียงแต่เหมือนข้าจะลืมอะไรสักอย่างที่มันสำคัญมาก แต่ก็ไม่รู้ว่ามันคืออันใด ข้าจึงลองเดินรอบ ๆ บ้านดูขอรับ”

“เช่นนั้นก็ค่อย ๆ คิดดูนะ” นางหูบอกพลางเดินไปหยิบห่ออะไรสักอย่างขึ้นมาถือเพื่อนำไปทิ้ง จางอี้หมิงเห็นเช่นนั้นจึงเอ่ยถาม

“ท่านย่า กำลังทำอันใดอยู่หรือขอรับ”

“อ้อ ดอกหญ้าสายรุ้งน่ะ ซูลี่เอามาให้เจ้าตั้งแต่เมื่อสามวันที่แล้ว นางบอกว่าหมิงเอ๋อร์เก็บดอกหญ้าสายรุ้งให้สะใภ้ แต่เจ้าเป็นไข้เสียก่อน ดูสิ มันแห้งหมดแล้ว ย่าจึงคิดว่าจะเอาไปทิ้งน่ะ” นางหูตอบและเตรียมจะนำหญ้าสายรุ้งออกไปทิ้งด้านนอก

“ท่านย่า อย่าเพิ่งทิ้งขอรับ” จางอี้หมิงรีบตะโกนบอกท่านย่าของตนเองทันที เขาหูผึ่งตั้งแต่ได้ยินคำว่าดอกหญ้าสายรุ้งแล้ว สุดท้ายเขาก็รู้แล้วว่าเขาลืมอันใดไป โธ่เอ๊ย...ลืมไปได้ยังไงกันเนี่ย

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel