บุตรชายตัวน้อยของบัณฑิตจาง เล่ม2

74.0K · จบแล้ว
Ocean Books
41
บท
26.0K
ยอดวิว
8.0
การให้คะแนน

บทย่อ

คำโปรย อานนท์ ชายหนุ่มอายุ 25 ปี โสด หน้าตาดาษดื่น เติบโตมาจากบ้านเด็กกำพร้าอุ่นไอรัก อาชีพหลักคือการขายอาหารตามสั่งในฟู้ดเซนเตอร์ห้างดัง อาชีพรองเป็นผู้ช่วยนักเขียนนิยาย รับจ้างหาข้อมูลต่าง ๆ ส่งให้กับนักเขียน งานไหนได้เงิน อานนท์ทำทั้งหมด ในวันหยุดยาว กลางวันนอกจากต้องไปยืนทำอาหารตามสั่ง กลางคืนยังต้องมานั่งหาข้อมูลส่งให้ผู้ว่าจ้างงานด่วนอีก ทำให้พักผ่อนไม่เพียงพอ วิญญาณจึงบ๊ายบายจากโลกเก่า ไปเกิดใหม่ในร่างของจางอี้หมิง บุตรชายตัวน้อยอายุ 5 ขวบของบัณฑิตจาง ที่ถูกบ้านหลักมอบหนังสือแยกบ้าน พร้อมขับไล่ครอบครัวให้มาอยู่บ้านนอก อุตส่าห์ได้กลับมาเกิดใหม่ทั้งทีในครอบครัวที่อบอุ่น มีพ่อ แม่ และย่าตามที่อานนท์เคยฝันไว้ แต่ทำไมถึงแถมความยากจนมาให้เขาด้วย ชาติก่อนก็สู้ชีวิตจนตาย มาชาตินี้ชีวิตสู้กลับยิ่งกว่านิยายที่เขาเคยอ่านเสียอีก  นี่สินะ!!! ของฟรีไม่มีในโลก มันต้องมีสิ่งแลกเปลี่ยนกันอย่างสมน้ำสมเนื้อ

เกิดใหม่ข้ามมิติพระเอกเก่งปลูกผักนิยายจีนโบราณจีนโบราณพลิกชีวิต

ตอนที่ 1 หลงลืม【1】

เด็กน้อยเริ่มกลับมาสดใสหลังจากนอนป่วยอยู่สองวันเต็ม จางอี้หมิงสัญญากับตัวเองว่าจะไม่ยอมป่วยอีกเด็ดขาด เขาเกลียดการกินยาต้มเป็นที่สุด ถึงแม้ว่าจะมีน้ำตาลผักมาช่วยแล้วก็ตาม มันก็ยังขมจนเคลือบลิ้นอยู่ดี

เช้าวันใหม่มาเยือน แสงอาทิตย์ที่สาดส่องลงมากระทบพื้นหญ้า ดวงอาทิตย์ยังไม่ทันพ้นขอบฟ้าในยามเฉิน (07.00 – 08.59) สมาชิกบ้านจางคนอื่น ๆ ต่างก็ตื่นนอนและกินมื้อเช้ากันหมดแล้ว เหลือเพียงเด็กน้อยคนเดียวของบ้านที่ยังคงนอนอุตุอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนหนาอย่างสบายใจ

“ท่านพี่อี้เทาขอรับ ท่านพี่อี้เทา...” เสียงเรียกชื่อจางอี้เทาตรงหน้าประตูบ้านดังติดต่อกันหลายครั้ง ส่งผลให้จางอี้หมิงลืมตาตื่นขึ้นมาด้วยความงัวเงีย เขาใช้หลังมือขยี้ตาอยู่สักพักจึงตื่นเต็มตา แต่ก็ยังไม่ได้ลุกขึ้น

“ใครมาส่งเสียงดังอยู่หน้าบ้าน” นางหูเอ่ยปากถามออกไป

“นั่นสิเจ้าคะ ข้าก็อยากรู้เช่นกัน”

หลี่อ้ายเองก็สงสัยไม่แพ้กัน ปกติแล้วบ้านสกุลจางของพวกนางมีคนแวะเวียนมาหาบ่อย ๆ เสียเมื่อไหร่ น่าแปลกใจนัก

“เดี๋ยวข้าออกไปดูเอง” จางอี้เทาเอ่ยบอกมารดาและภรรยา เขาเดินออกไปดูที่หน้าประตูบ้าน

“ผู้ใดกันที่มาเยือนแต่เช้าเช่นนี้ อ้าว อาคุนนั่นเอง มีอันใดหรือ ถึงได้มาเสียตั้งแต่พระอาทิตย์ยังไม่ขึ้นดีเช่นนี้”

“อรุณสวัสดิ์ขอรับพี่อี้เทา ข้าต้องขออภัยที่มารบกวนตั้งแต่เช้า” อาคุนเอ่ยตอบด้วยความเกรงใจชายหนุ่มตรงหน้า

“เป็นเถ้าแก่หวังเร่งให้ข้ามาแจ้งข่าวแก่พี่อี้เทาขอรับ ข้าจึงได้มาแต่เช้า”

“มีข่าวอันใดจากเถ้าแก่หวังเช่นนั้นหรืออาคุน”

“เถ้าแก่หวังให้ข้ามาแจ้งแก่พี่อี้เทาว่าน้ำตาลผักรอบที่แล้วนั้นขายหมดแล้ว สินค้าไม่พอที่จะจำหน่าย เถ้าแก่หวังจึงให้ข้านำไหเปล่ามาส่งให้พี่อี้เท่าอีกห้าร้อยไหขอรับ เถ้าแก่หวังฝากมาถามว่า จะส่งสินค้าภายในสองวันได้หรือไม่”

“โอ้...เป็นเช่นนั้นหรอกหรือ ช่างเป็นข่าวดียิ่ง” อี้เทายิ้มกว้างก่อนจะตอบไปว่า “ถ้าอีกจำนวนห้าร้อยไหเช่นครั้งที่แล้ว ข้าคงไม่สามารถส่งได้ภายในสองวัน หากเป็นสามวันเช่นครั้งก่อนก็ไม่เป็นปัญหาอันใด”

“ได้ขอรับ ข้าจะนำข่าวไปแจ้งให้เถ้าแก่หวังตามนี้ เช่นนั้นพี่อี้เทาจะให้ข้าขนไหเปล่าเข้าไปไว้ในบ้านได้เลยหรือไม่ขอรับ”

“รบกวนอาคุณแล้ว”

หลังจากแจ้งข่าวเสร็จแล้ว สองบุรุษจึงช่วยกันขนไหเปล่าทั้งหมดเข้าไปเก็บไว้ในบ้าน อาคุนไม่ลืมมอบเงินสามตำลึงที่เถ้าแก่หวังให้มาเป็นค่ามัดจำ เมื่อเสร็จแล้ว คนขับรถม้าหนุ่มจึงได้ขอตัวกลับไป

“อาเทา เถ้าแก่หวังให้คนนำไหเปล่ามาให้ใหม่อีกเช่นนี้ คงมิได้หมายความว่าสินค้าอันเก่าขายหมดเกลี้ยงแล้วเช่นนั้นหรือ”

“เป็นเช่นนั้นจริงขอรับท่านแม่ เถ้าแก่หวังขอเวลาสองวัน แต่ข้าปฏิเสธไป ขอเป็นสามวันเหมือนเช่นเดิม ท่านแม่ขอรับ นี่เป็นเงินค่ามัดจำน้ำตาลผักรอบนี้ จำนวน 3 ตำลึงขอรับ” จางอี้เทาตอบกลับและมอบเงินให้มารดาของตนเก็บไว้

“โอ้ ช่างดีจริง ๆ ไม่นึกเลยว่าน้ำตาลผักจะขายดีเช่นนี้” นางหูอุทานออกมาด้วยความดีใจพร้อมกับยื่นมือออกไปรับเงินจากบุตรชาย เพราะนั่นหมายถึงว่าบ้านสกุลจางจะมีรายได้เพิ่มขึ้นมาอีกไม่น้อย อาจจะเพียงพอสำหรับซื้อเสบียงเก็บไว้กินในฤดูหนาวที่จะมาถึงในเร็ววันนี้

“ท่านพี่ ช่างเป็นข่าวดีเสียจริง หมิงเอ๋อร์หายป่วย เถ้าแก่หวังมีใบสั่งซื้อมาอีก ข้าดีใจยิ่งนักเจ้าค่ะ” หลี่อ้ายน้ำตาซึม นางไม่คิดว่าจะมีเงินมาจุนเจือครอบครัวอีกแล้วหลังจากถูกปล้น แต่ในตอนนี้ครอบครัวสามารถหารายได้ได้แล้ว

“ท่านแม่ขอรับ” จางอี้หมิงที่นอนฟังจนจับใจความได้ทั้งหมดร้องเรียกมารดา เขาทำทีแสร้งว่าเพิ่งตื่นนอนขึ้นมา

“หมิงเอ๋อร์ รู้สึกเป็นเช่นใดบ้าง ยังปวดหัวอยู่หรือไม่” หลี่อ้ายผละจากวงสนทนาเข้าไปดูบุตรชายซึ่งตอนนี้ลุกขึ้นมานั่งอยู่กลางฟูกนอน