บท
ตั้งค่า

บทที่ 3 เจ้าบ่าวเหลียงอี้ฟาน

บทที่ 3

เจ้าบ่าวเหลียงอี้ฟาน

เจ้าบ่าวรูปงามบนหลังม้า

“เจ้าช่างงดงามเหลือเกินถิงถิง ข้าหวังว่าเจ้าจะมีความสุข เป็นที่รักของสามี มีบุตรชายบุตรสาวมากมายรายล้อม”

แม่สื่อวัยกลางคนมองจางถิงถิงด้วยสายตาชื่นชมอ่อนโยน ยิ่งนางว่านอนสอนง่ายไม่ดื้อรั้นก็ยิ่งทำให้แม่สื่อรู้สึกเอ็นดูเพราะทำให้งานของนางง่ายขึ้น

“นี่เป็นปิ่นทองคำที่เถ้าแก่เหลียงให้พ่อบ้านนำมามอบให้ เดี๋ยวข้าจะประดับลงบนเรือนผมให้เจ้านะถิงถิง”

“เจ้าค่ะท่านแม่สื่อ”

จางถิงถิงยังคงรับคำอย่างว่าง่าย มองปิ่นทองคำรูปดอกเหมยราคาแพงที่แม่สื่อกำลังบรรจงปักลงบนเรือนผมของนางอย่างระมัดระวัง

‘อย่างน้อยบิดาสามีก็น่าจะเมตตานางอยู่บ้าง จึงได้ให้พ่อบ้านนำเครื่องประดับมาให้นางเช่นนี้’

จางถิงถิงลอบถอนหายใจ ก่อนจะมองเงาที่สะท้อนผ่านกระจกด้วยความรู้สึกหลากหลาย หญิงงามในกระจกงดงามราวกับไม่ใช่ตัวนางเสียกระนั้น

จากนั้นแม่สื่อก็นำผ้าสีแดงมงคลคลุมลงบนใบหน้างดงามของเจ้าสาวอย่างแผ่วเบา จับไหล่บอบบางของเจ้าสาวให้ลุกขึ้นยืนเพื่อตรวจตราความเรียบร้อยอีกครา แล้วจูงนางออกจากเรือนเพื่อขึ้นเกี้ยวเจ้าสาวที่รอท่าอยู่ก่อนแล้ว

“โน่นแน่ะ เจ้าบ่าวมาแล้ว”

จางถิงถิงซึ่งอยู่บนเกี้ยวเจ้าสาวอดไม่ได้ที่จะแง้มผ้าคลุมหน้าเจ้าสาวออกเพียงน้อย สอดสายตาออกไปจากม่านหน้าต่างเกี้ยวเพื่อดูหน้าเจ้าบ่าว

เหลียงอี้ฟานแต่งกายด้วยชุดเจ้าบ่าวสีแดงมงคล เขาควบขี่ม้าสีขาวตัวใหญ่ด้วยท่าทางองอาจ ไหล่กว้างแม้บอบบางแต่ผึ่งผาย เรือนกายติดจะอ้อนแอ้นดั่งบัณฑิตในหอตำรา ใบหน้าของเขางดงามดั่งสตรี เรียวปากบางแย้มยิ้มน้อยๆ ดั่งบุรุษผู้มีอารมณ์สุนทรีย์

จางถิงถิงปิดม่านเกี้ยวเจ้าสาวลง เมื่อเห็นว่าเจ้าบ่าวดูสุภาพไม่ได้มีท่าทีกักขฬะหยาบคาย อีกทั้งยังเป็นชายรูปงามที่หาตัวจับได้ยาก นางก็ถึงกับถอนหายใจด้วยความโล่งอก

เสียงเครื่องดนตรีบรรเลงไปอย่างคึกคัก เจ้าบ่าวบนหลังม้างามสง่านำขบวนเกี้ยวเจ้าสาวเดินทางไปยังเรือนสกุลเหลียงด้วยตนเอง ชาวบ้านในเมืองเทียนไท่ต่างออกมายืนชมขบวนเกี้ยวเจ้าสาวด้วยความสนอกสนใจ

หญิงสาวกว่าหลายสิบคนถึงกับอกหักไปตามๆ กัน เพราะพวกนางหมายตานายน้อยเหลียงผู้มั่งคั่งและรูปงาม ไม่คิดเลยว่าจู่ๆ จะแต่งงานกับสตรีที่ไหนก็ไม่รู้ อีกทั้งยังจัดงานแต่งงานอย่างรวดเร็วราวกับสายฟ้าแลบอีกด้วย

‘ใครกันเป็นเจ้าสาวผู้โชคดีคนนั้น’

‘เขาเป็นรักแรกของข้า’

‘หมดกันข้าคิดจะให้ท่าเขาในงานเลี้ยงน้ำชาที่จะถึงนี้ ไม่คิดเลยว่าเขาจะชิงแต่งงานไปเสียก่อน’

ในขณะที่เหล่าบุรุษกลุ่มหนึ่งที่ยืนอยู่อีกฟากของถนน ต่างจับจ้องไปยังเจ้าบ่าวที่ขี่อาชาองอาจฉีกยิ้มกว้างอย่างมีความสุขที่กำลังจะได้เจ้าสาวมาเคียงข้าง จากนั้นจึงเริ่มพูดคุยนินทากันอย่างออกรส

‘ที่ผ่านมาข้านึกว่านายน้อยเหลียงไม่ชื่นชอบสตรีเสียอีก ที่ไหนได้แอบบ่มเพาะต้นรักกับสตรีต่างเมืองนี่เอง ร้ายกาจนัก ข้าชักอยากยลโฉมเจ้าสาวของนายน้อยเหลียงเสียแล้ว’

‘เช่นนั้นข่าวลือที่ว่านายน้อยเหลียงเป็นบุรุษแบ่งท้อตัดแขนเสื้อก็ไม่เป็นจริงนะสิ’

‘คงเป็นเช่นนั้นแหละ ยุคสมัยนี้ไม่มีบุรุษผู้ใดกล้ามีใจให้แก่บุรุษด้วยกันหรอก เพราะใครๆ ต่างก็รู้ว่าฮ่องเต้เกลียดชังบุรุษแบ่งท้อตัดแขนเสื้อยิ่งนัก หากทรงล่วงรู้มีหวังได้ถูกจับไปคุมขัง หรือร้ายที่สุดอาจถูกประหารชีวิตเลยก็เป็นได้’

‘นั่นสินะ...ไม่รู้ว่าเวลานี้คุณชายเห่อและบัณฑิตโจวจะเป็นตายร้ายดีอย่างไรบ้าง สองคนนั่นมีรักที่บริสุทธิ์ให้แก่กันมาตั้งแต่เยาว์วัย แอบลอบคบหากันแบบเงียบๆ แต่เมื่อความลับนี้ล่วงรู้ถึงหูศัตรูของตระกูล จึงกลายเป็นช่องโหว่ให้ศัตรูลอบโจมตี

ทั้งสองจึงโดนจับไปขังคุกหลวง นี่ก็ผ่านมาเกือบปีแล้วยังไม่มีวี่แววว่าจะถูกปล่อยตัว ข่าวว่าเป็นการขังลืมจนกว่าจะตายในคุก อนิจจาน่าสงสารเสียจริง’

‘เฮ้อ...ช่างน่ากลัวเกินไปแล้ว’

ชาวบ้านบริเวณนั้นชื่นชมขบวนเกี้ยวเจ้าสาวได้เพียงไม่นานก็หันมาพูดคุยหัวข้อที่กำลังเป็นที่ถกเถียงในวงกว้าง เพราะตั้งแต่ฮ่องเต้พระองค์นี้ทรงขึ้นเถลิงอำนาจแทนอดีตฮ่องเต้ ก็ทรงออกปราบปรามกลุ่มบุรุษตัดท้อแบ่งแขนเสื้ออย่างไม่ไว้หน้า สร้างความระส่ำระสายไปทั่วทุกหัวระแหง

นั่นเพราะเมื่อครั้งที่ฮ่องเต้ยังทรงเป็นเพียงองค์ชายหกที่อ่อนแอ ทรงถูกชินอ๋องผู้เป็นน้าชายกระทำย่ำยีจนฝังใจ เมื่อทรงมีอำนาจจึงตั้งใจจะกวาดล้างให้สิ้น ทำให้เหล่าบุรุษที่ไม่มีใจรักสตรีล้วนใช้ชีวิตอย่างลำบากถ้วนหน้า

‘เช่นนั้นนายน้อยเหลียงก็คงพ้นคำครหาแล้วสินะ’

‘เห็นจะเป็นเช่นนั้น เพราะ ‘หมิงจี๋’ หัวหน้าโรงเลี้ยงม้าที่ถูกกล่าวหาว่ามีสัมพันธ์กับนายน้อยเหลียงก็เพิ่งแต่งงานกับสาวใช้ในจวนไปนี่เอง’

‘คงเพราะทั้งสองสนิทสนมกันมาก จึงทำให้เกิดความเข้าใจผิด เมื่อต่างฝ่ายต่างแต่งงานมีภรรยา ข่าวลือเสียๆ หายๆ ก็คงหมดไป เมื่อถึงตอนนั้นทางการก็คงเลิกจับตาดูนายน้อยเหลียงไปเอง’

‘แต่หากมองอีกมุมหนึ่ง นี่อาจเป็นการแต่งงานบังหน้าก็ได้มิใช่หรือ เพราะเจ้าสาวเป็นใครมาจากไหนก็ไม่มีใครรู้ อาจถูกซื้อมาก็ย่อมได้’

‘เช่นนั้นคงมีหนทางพิสูจน์เพียงหนึ่งเดียว คือรอจนกว่าภรรยาของนายน้อยเหลียงจะตั้งครรภ์ ข้อครหานี้จึงจะถูกลบล้างไป’

‘นั่นสินะ...แต่งงานบังหน้าใครก็ทำได้ แต่การจะร่วมหลับนอนจนมีบุตรธิดานั้นใช่ว่าจะเป็นเรื่องง่ายเสียที่ไหนกัน’

เหล่าผู้คนยังคงพูดคุยนินทากันอย่างออกรส ซึ่งคนของตระกูลเหลียงแอบแฝงตัวยืนปะปนในฝูงชน จดจำข้อความเหล่านั้นเพื่อกลับไปรายงานเถ้าแก่เหลียงอย่างรวดเร็ว

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel