บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 1 องค์รัชทายาท

ตอนที่ 1 องค์รัชทายาท

แสงแห่งรุ่งอรุณสีแดงอมส้มสาดส่องลงมาบนพื้นทรายสีทอง เพื่อให้ความอบอุ่นกับทุกสรรพสิ่งที่อาศัยอยู่บนพื้นทรายแห่งนี้

ทะเลทรายดาบิย่า เป็นทะเลทรายอีกแห่งหนึ่ง ซึ่งถูกกล่าวขานว่าอวบอวลไปด้วยมนต์ขลังแห่งตะวันออกกลาง เพราะเมื่อใดที่มีแสงแดดสาดส่องกระทบลงมา เม็ดทรายเล็กๆ สีเหลืองก็จะเป็นประกายระยิบระยับดุจอัญมณีบนพื้นทราย และที่สำคัญที่สุดก็คือที่นี่เป็นที่ตั้งของพระราชวังอัลวา บิน ซายาส ซึ่งเป็นที่ประทับขององค์กษัตริย์มัสตาฟา อัลวา บิน ซายาสกับองค์ราชินีมาร์เดียน่าแห่ง สหพันธรัฐดาบิย่า

สหพันธรัฐดาบิย่า เป็นประเทศเปิดที่มีการพัฒนาอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง เพราะประเทศนี้มีพื้นที่ทางทิศตะวันออกติดกับทะเลทราย ซึ่งเป็นแหล่งน้ำมันดิบที่สมบูรณ์ที่สุดในโลก ส่วนทางทิศตะวันตกจะติดกับทะเลเมริเดียน จึงมีนักลงทุนสนใจมาร่วมลงทุนธุรกิจที่นี่เป็นจำนวนมาก เนื่องจากมีท่าเรือขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียงและทันสมัยติดอันดับ 1 ใน 10 ของโลกอีกด้วย แต่ทั้งหมดนี้ก็เป็นเพราะพระปรีชาญาณขององค์กษัตริย์มัสตาฟาที่มองเห็นอนาคตที่เจริญรุ่งเรืองของลูกหลานและเหล่าประชาชนของพระองค์ จึงได้คิดปูรากฐานของประเทศให้มีความมั่นคงและเจริญก้าวหน้า

ร่างสูงในชุดสูทสากลสีดำโพกผ้าสีขาวที่ศีรษะและคาดทับด้วยเชือกผ้าสีดำเดินมาหยุดยืนที่หน้าประตูสีทองซึ่งแกะด้วยลวดลายอาหรับอย่างวิจิตรบรรจง ก่อนจะยกมือขึ้นเคาะและร้องเรียกผู้ที่อยู่ด้านในห้อง

ก๊อก! ก๊อก!

“ฝ่าบาทพะยะค่ะ ทรงตื่นบรรทมหรือยังพะยะค่ะ?”

แต่สิ่งที่ได้ตอบกลับมาก็คือความเงียบ คิ้วหนาของคนตัวสูงผิวคล้ำจึงขมวดเข้าหากัน ก่อนจะเอ่ยเรียกอีกครั้ง

“เจ้าชายพะยะค่ะ ตื่นบรร...” ครั้งนี้เขายังพูดไม่ทันจบประโยคประตูห้องก็ถูกเปิดออกเสียก่อน พร้อมกับวรกายสูงเกิน 180 เซนติเมตรของเจ้าของห้อง ยืนจังก้าสีพระพักตร์บึ้งตึง จ้องเขม็งมายังคนที่มารบกวนพระองค์อย่างไม่พอพระทัย

“มีอะไรแต่เช้าซาบาธ” คำถามนั้นดูจะหงุดหงิดและรำคาญใจเป็นอย่างมาก

“องค์มัสตาฟารับสั่งหาพะยะค่ะ” องครักษ์หนุ่มทูลรายงาน ก่อนจะมองเลยไปที่ร่างบางอรชรในชุดผ้าฝ้ายยาวสีขาวบางเบา ที่กำลังเดินนวดนาดตามหลังเจ้านายหนุ่มมา ก่อนจะสอดแขนเรียวโอบรอบเอวเจ้าชายหนุ่มเอาไว้แล้วไล้นิ้วไปที่หน้าอกเปลือยที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเนื้อแน่นขนัดสมชายชาตรีนั่นโดยไม่อายต่อสายตาของคนอื่น

ซาบาชมองภาพตรงหน้าด้วยสีหน้าเรียบเฉย เพราะมันชินตาของเขาเสียแล้ว ทุกเช้าเขาก็มักจะพบเห็นแบบนี้ประจำ แต่จะมีการเปลี่ยนหมุนเวียนหญิงสาวที่เข้ามารับใช้กันไปตามแต่ละวัน เจ้านายหนุ่มของเขานับว่าเป็นหนุ่มรูปงามที่สมบูรณ์แบบที่สุด ที่สาวๆ ทั้งในประเทศและต่างประเทศต่างหมายตา ขอแค่เพียงได้เป็นคู่นอนแค่เพียงข้ามคืนพวกเธอก็ยินยอม

“ฝ่าบาทจะออกไปไหนอีกเหรอเพคะ ไหนว่าวันนี้ทั้งวันจะอยู่กับหม่อมฉันตลอดไงเพคะ” รอนีย์บอกด้วยน้ำเสียงที่ออดอ้อน ก่อนจะเตะริมฝีปากลงบนแผ่นหลังเปลือยอย่างยั่วเย้า

“หยุดก่อนรอนีย์!” เจ้าชายหนุ่มจับมือเรียวเอาไว้ พร้อมกับหันมาส่งสายตาดุๆให้ ทำให้สนมสาวถึงกับหน้างอง้ำและมองไปที่ซาบาชอย่างไม่พอใจ ก่อนจะถอยห่างออกมาจากร่างสูงนิดหนึ่ง

“ท่านพ่อมีเรื่องอะไรกับข้า เจ้ารู้หรือเปล่า” ชารีฟหันกลับมาถามองครักษ์คู่ใจของตนอีกครั้ง

“น่าจะเกี่ยวกับเรื่องที่ฝ่าบาทโดนลอบทำร้ายที่ชายแดนเมื่อวันก่อนพะยะค่ะ” ซาบาชคาดการณ์ตามที่ตนเองคิด

“คงมีใครไปทูลให้ทราบ” เจ้าชายหนุ่มกระตุกยิ้มพลางนึกไปถึงพวกข้าราชการเก่าแก่ที่รู้อะไรนิดอะไรหน่อยก็เอาไปพูดกันจนเป็นเรื่องใหญ่โต

เมื่อวันก่อนเขาและซาบาชพร้อมกับองครักษ์คนอื่นอีก 4 คน ได้ออกไปตรวจตราและเยี่ยมเยียนราษฎรที่ชายแดนอย่างลับๆ แล้วในระหว่างทางขากลับก็มีชายสุดดำกลุ่มหนึ่งดักลอบทำร้ายเขา แต่ผลสุดท้ายพวกมันก็ต้องตายกันหมด โดยที่ฝ่ายเขานั่นได้รับบาดเจ็บแค่นิดหน่อยเท่านั้น

ภายในห้องโถงกว้างซึ่งเป็นที่ใช้สำหรับว่าราชการงานเมือง องค์กษัตริย์มัสตาฟาทรงประทับอยู่บนเก้าอี้นวมสีทองตรงหัวโต๊ะตัวยาว ที่ทำจากไม้เนื้อดีที่แกะสลักอย่างประณีต โดยมีเจ้าชายราเชลประทับอยู่บนเก้าอี้ตัวที่สองทางด้านซ้ายมือ และเจ้าชายเซคิโอประทับอยู่ทางด้านขวามือ พร้อมด้วยเหล่าข้าราชบริพารระดับสูง นั่งอยู่ทั้งสองฝั่งด้านข้างของโต๊ะ สีหน้าของทุกคนนั้นดูเคร่งเครียดและมีแวววิตกกังวล โดยเฉพาะองค์ประมุขที่มีพระพักตร์บึ้งตึงและแววเนตรที่ถมึงทึง ถึงแม้ว่าพระชันษาจะย่างเข้า 65 ปีแล้ว แต่ก็ยังไม่ทิ้งซึ่งความสง่างาม น่าเกรงขาม แววตาสีน้ำตาลเข้มยังคงแสดงถึงพลังอำนาจที่ยิ่งใหญ่

“เจ้าชายชารีฟเสด็จแล้ว” เสียงมหาดเล็กที่อยู่หน้าประตูกล่าวขึ้น พร้อมๆ กับที่ร่างสูงของเจ้าชายชารีฟเสด็จเข้ามาในห้องประชุม แล้วเสด็จไปประทับลงบนเก้าอี้ตัวแรกทางด้านซ้ายมือของพระบิดา สายพระเนตรเคร่งขรึมกวาดมองเหล่าข้าราชบริพารทั้งหลาย ก่อนจะหันมาทางพระบิดาอีกครั้ง

“ทำไมลูกไม่ทราบว่าวันนี้มีการประชุม”

“เป็นการประชุมเร่งด่วนน่ะท่านพี่ พวกเราก็เพิ่งทราบเมื่อครู่นี้เอง” เจ้าชายเซคิโอตอบแทนพระบิดาพร้อมกับคลี่ยิ้มให้พระเชษฐาของพระองค์

“ที่พ่อต้องนัดประชุมด่วนก็เพราะเรื่องของเจ้า เจ้าทำอะไรลงไปเคยคิดถึงผลเสียที่จะตามมาหรือไม่ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น ถ้าไอ้พวกที่ดักลอบทำร้ายเจ้ามันทำได้สำเร็จ เจ้าอย่าลืมสิว่าเจ้าคือองค์รัชทายาทแห่งดาบิย่าผู้ที่จะครองแผ่นดินนี้ต่อจากพ่อ” พระสุรเสียงนั้นแสดงถึงความไม่พอพระทัย เช่นเดียวกับสายพระเนตรขึงขังที่ทอดมองมายังโอรสองค์โต

“ลูกทราบดีพะยะค่ะ แต่หน้าที่ขององค์รัชทายาทก็คือการดูแลทุกข์สุขของประชาชนด้วยไม่ใช่เหรอพะยะค่ะ จะให้ลูกเก็บตัวเงียบเพราะกลัวอันตรายที่จะมาถึงตัวนั้นลูกคงทำไม่ได้” เจ้าชายชารีฟจ้องตอบพระบิดาเขม็ง เขาไม่ใช่ผู้ชายขี้คลาดที่จะต้องทำแบบนั้น

“แต่การที่พระองค์เสด็จไปกับองครักษ์เพียงแค่ไม่กี่คนมันอันตรายมากนะพระเจ้าค่ะ” เสียงรัฐมนตรีกลาโหมเอ่ยขึ้น

“แต่ท่านก็ยังเห็นข้ามานั่งอยู่ตรงนี้ โดยที่ไม่มีอะไรบุบสลายไม่ใช่เหรอ” เจ้าชายหนุ่มหันมากระตุกยิ้มให้ข้าราชการชั้นสูงนิดหนึ่ง

“จะว่าไปเหล่าองครักษ์ของท่านพี่ชารีฟแต่ละคนก็เก่งกาจกันทั้งนั้น ข้าได้ข่าวมาว่าทางพวกมันมีกันเป็นสิบคน แต่ก็สู้พวกท่านพี่ไม่ได้” เจ้าชายเซคิโอยิ้มอย่างชื่นชม ซึ่งผู้เป็นพี่ชายคนโตก็ยิ้มตอบรับน้อยๆ ด้วยเพราะเขาอยู่ในตำแหน่งองค์รัชทายาท จึงต้องมีคนที่มีฝีมือกล้าแข็งอยู่เคียงข้าง ดังนั้นเหล่าองครักษ์ของเขานั่นก็ต้องผ่านการคัดเลือกและการฝึกฝนอย่างหนักจากเขาทุกคน และถ้าเอ่ยถึงเหล่าทหารองครักษ์ของเจ้าชายชารีฟแล้วล่ะก็ รับรองได้ว่าไม่มีใครที่คิดอยากจะมีเรื่องด้วย เพราะทุกคนต่างก็มีความชำนาญทั้งทางด้านหมัดมวยและด้านอาวุธต่างๆ อย่างดีเยี่ยม

“แต่ก็อย่าวางใจไปนักนะชารีฟ เราอยู่ในที่แจ้งส่วนพวกมันอยู่ในที่ลับ เรายังเสียเปรียบมันอยู่มาก แล้วพวกมันใช่พวกของอะดีบาหรือเปล่า” เจ้าชายราเชลหันมาเอ่ยถามพี่ชายที่อายุห่างกันเพียง 1 ปีด้วยสีหน้าเคร่งขรึม

“ข้าคาดว่าน่าจะใช่ เพราะข้าเองก็ได้รับรายงานมาว่าตอนนี้พวกมันกำลังมีการเคลื่อนไหว แต่ที่น่าสนใจก็คือ พวกมันมีการติดต่อซื้ออาวุธจากชาวต่างชาติด้วย ฟังแบบนี้แล้วก็คงรู้สินะว่าไม่ใช่ข้าคนเดียวแล้วที่จะไม่ปลอดภัย” เจ้าชายรัชทายาทรับสั่งเสียงเครียด พร้อมกับหันไปมองหน้าน้องชายทั้งสองคน

อะดีบา คือชื่อของผู้นำก่อการร้ายที่คิดแบ่งแยกดินแดนทางตอนเหนือออกจากดาบิย่า การปะทะกันระหว่างทางรัฐบาลกับผู้ก่อการร้ายมีขึ้นหลายครั้ง จุดมุ่งหมายของพวกมันก็คือการปลิดชีพขององค์ประมุขแห่งสหพันธรัฐดาบิย่าและเหล่าเชื้อพระวงษ์ทุกพระองค์

“ไม่ว่าจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น องค์รัชทายาทคือคนที่สำคัญที่สุด และจะต้องอยู่ต่อไป ดังนั้นเจ้าควรจะระวังตัวให้มากกว่าคนอื่น อย่าทำอะไรที่มันเสี่ยงต่อชีวิตแบบนี้อีก” องค์มัสตาฟารับสั่งเสียงเข้ม และมองหน้าบุตรชายอย่างเอาจริงเอาจัง ก่อนจะรับสั่งต่อ

“เราต้องรีบจัดการเรื่องของพวกกบฎอะดีบาให้เร็วที่สุด ไม่งั้นมันต้องมีผลในแง่ลบกับความมั่นคงและเศรษฐกิจของประเทศเราแน่”

”ลูกทราบพะยะค่ะและลูกก็กำลังเตรียมการอยู่ ลูกเองก็ได้รับข่าวสารบางอย่างที่เป็นประโยชน์ต่อเรามาเมื่อวานนี้ด้วย มันจะเป็นตัวสำคัญที่ทำให้เราขุดรากถอนโคนพวกมันได้พะยะค่ะ” ชารีฟกราบทูลพระบิดา

“ดี แต่พ่อขอเน้นว่าเจ้าจะต้องระวังตัวให้มากที่สุดแล้วอย่าคิดทำอะไรที่ไร้สติเด็ดขาด ขอให้เจ้าสำนึกอยู่เสมอว่าเจ้าคือองค์รัชทายาทแห่งสหพันธรัฐดาบิย่า”

“พะยะค่ะ” เจ้าชายชารีฟค้อมศีรษะรับคำดำรัสของพระบิดา แววเนตรทอดตรงไปเบื้องหน้าอย่างแน่วแน่ เขาได้รับมอบหมายให้ดูแลทางด้านการบ้านการเมืองเรื่องนี้จึงต้องเป็นเขาเท่านั้นที่จะจัดการ

กรุงเทพฯ ประเทศไทย

ก๊อก! ก๊อก!

“เข้ามา”

สิ้นเสียงอนุญาตร่างเพรียวบางได้สัดส่วนของหญิงสาว 2 คน ก็ก้าวเข้ามาในห้องทำงานสุดหรูของท่านประธานหนุ่มลูกครึ่งแห่งบริษัทฟอร์แมนเก็ตติ้งจำกัด ซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ที่ทำธุรกิจเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และอุปกรณ์ต่างๆสำหรับบุรุษ

“ผู้จัดการบอกว่าท่านประธานต้องการพบพวกเราหรือคะ” รติรสเอ่ยถามเสียงหวาน พร้อมกับคลี่ยิ้มส่งให้กับเจ้านายหนุ่มนิดหนึ่ง

“ใช่...เชิญนั่งก่อนสิ” โทมัสคลี่ยิ้มให้ลูกน้องสาวทั้งสองพร้อมกับผายมือเชื้อเชิญ และเมื่อทั้งคู่นั่งลงเรียบร้อยแล้วเขาจึงพูดต่อ

“ผมมีข่าวดีที่จะแจ้งให้พวกคุณทราบ คือว่าตอนนี้ผมได้ขยายตลาดไปยังต่างประเทศ และคุณ 2 คน ก็คือพนักงานที่ผมและกรรมการบริษัทคัดเลือกแล้วว่าเหมาะสม ที่จะให้ไปประจำอยู่ที่สาขาต่างประเทศเป็นเวลา 1 ปี เพราะคุณ 2 คนทำยอดขายทะลุเป้าทุกเดือน ทั้งยังเป็นพนักงานขายดีเด่นของทางบริษัทของเราอีกด้วย แล้วถ้าพวกคุณทำยอดขายได้ทะลุเป้าที่ผมตั้งเอาไว้ ผมก็จะมีรางวัลให้” เขาคลี่ยิ้มกว้างตบท้าย

“รางวัลอะไรหรือค่ะท่านประธาน?” นรีกานต์ถามขึ้นทันทีด้วยความอยากรู้และตื่นเต้น เพราะคำว่ารางวัลนี่แหละที่มันดึงดูดใจพนักงานสาว

“บ้าน รถยนต์ และตำแหน่งผู้จัดการสาขา ของพวกนี้จะเป็นของพวกคุณทันที ถ้าพวกคุณทำได้” ประธานหนุ่มกล่าว พร้อมกับอมยิ้มเมื่อเห็นหญิงสาวทั้งสองหันไปทำตาโตใส่กัน

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel