Chapter 9 ผู้หญิงรักสบาย
ลีอาห์ปราดสายตามอง ตามประสาคนชอบมองผู้หญิงสวย แม้จะใช้เวลาเพียงไม่กี่วินาที แต่เขาก็เก็บรายละเอียดได้อย่างครบถ้วน แม้จะแต่งตัวเรียบร้อยรัดกุม แต่ทรวงอกที่รัดแน่นกลับเน้นสัดสวนจนเห็นได้ชัด เป้าสายตาอยู่ที่ก้อนเนื้อสองก้อนที่บีบอัดล้นขอบเสื้อออกมา เลื่อนสายตาตามลงมาที่สะโพกผายกลมกลึงได้รูปรับกับขอบกางเกงยีนส์แนบลำตัว เผยให้เห็นเรือนร่างระหงสมส่วน แม้แว่นกันแดดสีชาที่คาดทับปกปิดดวงตาคู่สวยเอาไว้ เหนือสิ่งอื่นใดแสงแดดไม่สามารถทำลายความงดงามของผิวเนียนละเอียดสีน้ำผึ้งนวลผ่องของเธอได้แม้แต่น้อย
‘ผู้หญิงคนนี้สวยสมบูรณ์แบบมาก ไม่น่ารักสบาย ใช้เรือนร่างแลกเงินเลย’ ชายหนุ่มคิดในใจ บอกได้เต็มปากว่าผู้หญิงตรงหน้าสวยไม่มีที่ติ ทั้งรูปร่างหน้าตาและผิวพรรณ
‘ไอ้บ้านี่จะมองหยาบคายไปไหน’ มายาวีย์คิดในใจ แม้เธอจะไม่เห็นดวงตาของเขา แต่ก็รู้ว่าเขาเสียมารยาทมองเธออย่างโลมเลีย ในชีวิตสัมผัสกับสายตาแบบนี้อยู่บ่อยๆ และก็เกลียดที่สุดเช่นกัน
มายาวีย์เดินไปนั่งตรงข้ามกับเขา และผินหน้าออกไปมองทะเล คนขับปลดสมอและบิดกุญแจสตาร์ทเครื่องยนต์ เสียงเครื่องยนต์ดังกระหึ่ม จากนั้นเรือก็เคลื่อนออกจากท่าเทียบ
“เกาะแน่นๆ นะครับ เครื่องมันแรง” คนขับบอกอย่างคึกคะนอง
เมื่อเสียงเครื่องยนต์กระหึ่มดังสลับกับเสียงปะทะของน้ำทะเลกับตัวเรือ คนขับเร่งเครื่องทำให้เกิดกระแทกกระทั้น น้ำกระเซ็นมาสัมผัสคนที่นั่งอยู่บนเรือ คนขับหันมายิ้มให้คนที่นั่งอยู่ตรงข้ามกับหญิงสาว ในขณะที่เขาก็ยกนิ้วโป้งส่งสัญญาณให้คนขับเร่งเครื่องขึ้นไปอีก
ในขณะที่อีกคนนั่งหน้าซีดขึ้นเรื่อยๆ หัวใจของหญิงสาวเต้นแรงเพราะความกลัว ในขณะที่ท้องไส้ก็เริ่มปั่นป่วนขยักขย่อนเต็มที่
ลีอาห์เหลือบหางตาหันมามองหญิงสาวเล็กน้อย เขาจับสังเกตความกลัวของเธอได้จากมือเล็กที่กำราวเอาไว้แน่น
“อัดเต็มที่เลยไอ้น้อง” เขาตะโกนบอกอย่างนึกสนุก อยากรู้ว่าคนที่นั่งเงียบตัวสั่นอยู่ตรงนั้นจะพูดว่าอะไรบ้าง
‘อั้นไว้นะเปรี้ยว! อย่าเพิ่งปล่อยออกมาตอนนี้นะ’ หญิงสาวบอกกับตัวเองในใจ ในขณะที่อีกคนกำลังคึกคะนองกับสปีดที่คนขับเรือเร่งแรง
มายาวีย์ไม่ได้กลัวความแรงและความเร็ว แต่เธอกำลังเมาเรือต่างหาก ตอนนี้มวลความกดอากาศในช่องท้องก็เพิ่มความรุนแรงมากขึ้น อาการเมาคลื่นที่เป็นมาตั้งแต่เด็กไม่จางหายลงไปสักที
หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เงยหน้ามองทะเลที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ผืนน้ำสีมรกตที่ยังราบเรียบ แต่ก็ไม่สามารถต้านความปั่นป่วนในช่องท้องได้ มือเล็กเกาะราวสแตนเลสของเรือไว้แน่น เผื่อถึงนาทีฉุกเฉินที่ต้องยื่นหน้าออกไปอาเจียน
ในขณะที่ชายหนุ่มสองคนกำลังสนุกกับความแรงของเครื่องยนต์ ตอนนี้พวกเขาไม่ได้สนใจคนที่นั่งหน้าซีดอยู่บนเรืออีกต่อไป
“แรงพอมั้ยพี่” คนขับเรือตะโกนถามแข่งกับเสียงเครื่องยนต์ พร้อมกับเร่งเครื่องขึ้นเรื่อยๆ
“เต็มที่เลยไอ้น้อง!”
ความแรงของเรือทำให้มายาวีย์ไม่กล้าชะโงกหน้าออกไปข้างนอก แต่ความปั่นป่วนในช่องท้องก็ไม่สามารถอัดอั้นเอาไว้ได้เช่นกัน เธอพยายามข่มกลั้น มวลความกดอากาศสูงที่ดันทุรังในช่องท้องของเธอลง บอกกับก็แรงดันที่อยู่ในช่องท้องของตัวเองในใจ
'อดทนไว้นะ อย่าเพิ่งออกมาลูก กินมายังไม่ถึงชั่วโมงเลย หมดตั้งหลายบาท เสียดาย' หญิงสาวสูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ บอกกับตัวเอง ใช้ความพยายามอย่างหนักในการกลืนก้อนลมลงท้อง แต่แรงกระเพื่อมท้องเรือที่กระทบกับคลื่นลมในทะเล ก็ทำให้มันขยักขย่อนออกมารอบแล้วรอบเล่า จวนเจียนที่มันจะระเบิดปะทุออกมาทุกวินาที
มายาวีย์ยกมือขึ้นปิดปากตัวเอง ก้อนขมเหนียวจ่ออยู่ที่ริมฝีปาก “อุ๊บ!!!”
'ไม่ไหวแล้วโว้ย อยากออกมามากก็เชิญเลย'
“โอ๊ก...อ่า...” มวลน้ำทั้งหมดที่อยู่ในช่องท้องพุ่งตรงดิ่งไปข้างหน้า แบบไม่สามารถควบคุมทิศทาง แต่เพราะแรงลมและความเร็วของเรือทำให้มันสาดกลับใส่หน้าคนที่นั่งอยู่ตรงข้ามทันที
แน่นอนว่าไส้กรอกอีสานที่เพิ่งกินเข้าไปเมื่อ 1 ชั่วโมงที่ผ่านมา ถูกเทกระจาดพุ่งออกไปข้างหน้า แต่ลมเจ้ากรรมกลับพัดสาด มวลความชื้นแฉะเหม็นเขียวเหนียวเหนอะราดทับบนตัวชายหนุ่มตั้งแต่ใบหน้าจรดปลายเท้า เว้นช่องว่างแค่เพียงดวงตาที่มีแว่นสวมคาดทับอยู่
“อะไรของเธอเนี่ย บ้าเอ้ย! กินอะไรเข้าไป เหม็นชะมัด” ชายหนุ่มสบถแรง เขากัดฟันกรอด กลิ่นของไส้กรอกอีสานที่ตลบอบอวลยู่บนตัว ทำให้เขายิ่งโมโห
หนุ่มคนขับเรือเบาเครื่องยนต์ก่อนที่จะดับเครื่องจอดกลางทะเล ในจังหวะที่เรือชะลอความเร็วลงมายาวีย์ก็โหนตัวออกไปนอกเรืออาเจียนหน้าดำหน้าแดง
“โอ้ก...อ่า...อ้วกกก”
"โอ้ย! เหม็นหมดแล้วเนี่ย!" ชายหนุ่มขยับตัวออกจากตำแหน่งเป้าหมายอันตราย ปัดมือเขี่ยเศษซากอารยธรรมไส้กรอกอีสานออกจากตัว
“ล้างหน้าล้างตัวก่อนครับ” คนขับเรือยื่นขวดน้ำให้ชายหนุ่ม ส่งสำเนียงภาษาอังกฤษบ้านๆ ให้เขาพอที่จะสื่อสารกันเข้าใจและรู้เรื่อง
กลิ่นของไส้กรอกอีสานอบอวล ทำให้ขมคอ ชวนอาเจียนตามอย่างยิ่ง แม้ว่าคนที่อาเจียนอยู่พอ กลิ่นของมันทำให้เธอยังขมคออยากอาเจียนออกมาอีก
ชายหนุ่มกัดฟันกรอด มองหน้าคนต้นเรื่องเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ มายาวีย์เห็นสภาพของเขาก็ได้แต่กลั้นขำเอาไว้ ทั้งรู้สึกผิดและสมน้ำหน้าในคราวเดียวกัน
“ยัยบ้าเอ้ย! เมาเรือทำไมไม่บอกก่อนฮึ! ตัวฉันเลอะหมดเลยเห็นมั้ย” เขาโวยวายเป็นภาษาอังกฤษ ติดสำเนียงสเปน เพราะเธอเรียนวิชาโทเป็นภาษาสเปนทำให้สามารถสื่อสารได้ดี อีกทั้งอาจารย์ที่สอนก็เป็นคนสเปนโดยตรง ทำให้เธอสามารถจับสำเนียงได้
“ฉันอ้วกไปข้างหน้า ไม่ได้อ้วกใส่คุณสักหน่อย ลมมันตีกลับมาเอง ต้องโทษลมกับคนขับเรือมากกว่า” มายาวีย์ตอบกลับเป็นภาษาสเปน โบ้ยความผิดไปให้คนขับเรือหน้าตาย
ภาษาของเธอ ทำให้ชายหนุ่มแปลกใจไม่น้อย โดยปกติคนไทยจะสามารถพูดภาษาอังกฤษได้น้อยมาก ไม่ต้องพูดถึงภาษาอื่น แต่ผู้หญิงตรงหน้าสามารถสื่อสารภาษาสเปนได้ชื่อชัดแจ๋ว
“ไม่คิดจะขอโทษสักคำหรือไง มีคนเคยสอนมารยาทหรือเปล่า” ชายหนุ่มตำหนิเธอ
