Chapter 8 กลิ่นของอิสรภาพ
คลองใหญ่ ดินแดนสุดภาคตะวันออกของประเทศไทย มายาวีย์เดินทางมาถึงที่นี่ภายในวันเดียว หลังจากตอบตกลงและเซ็นสัญญาร่วมงานกับบริษัทใหญ่ เธอไม่เคยคิดเลยสักครั้งว่าเส้นทางชีวิตจะเบี่ยงเบนมาไกลขนาดนี้ เธอเลือกที่จะเดินทางมาก่อนกำหนด เพราะเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เพราะคงทนความอึดอัดแบบนั้นต่อไม่ไหว
มายาวีย์ส่งอีเมลกลับไปที่บริษัท แจ้งว่าเธอพร้อมทำงาน ฝ่ายนั้นก็ตอบกลับมาภายในเวลาไม่นาน บริษัทยินดีที่เธอจะเริ่มงานเร็วกว่ากำหนด แม้ว่ากระทันหัน แต่บริษัทที่เพิ่งเซ็นสัญญาร่วมงานก็อำนวยความสะดวกเป็นอย่างดี นับว่าเป็นความประทับใจแรกที่เกิดขึ้น
‘คงจะต้องการคนด่วนอย่างที่บอกจริงๆ’ หญิงสาวคิดในใจ
หลังผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง หญิงสาวยืนหันรีหันขวาง กวาดสายตามองหาเรือที่บอกว่าจะมาจอดรอรับ ตลอดชีวิตที่ผ่านมาไม่เคยรู้สึกดีกับธุรกิจมืดทุกรูปแบบ แต่ชะตาชีวิตก็ผกผันให้เธอต้องทำงานในสถานที่ที่ตัวเองตั้งป้อมเอาไว้ตั้งแต่ต้น แต่มันก็เป็นทางเลือกเดียวที่มี เป็นทางเลือกที่ดีกว่าอยู่ในขุมนรกนั้น เธอต้องเดินทางไปที่เกาะส่วนตัวของนายจ้าง ซึ่งอยู่ใกล้เกาะกง ในเขตชายแดนกัมพูชา เพราะอยากหางานทำให้ได้เร็วที่สุด จึงตัดสินใจรับงานนี้อย่างไม่ลังเล ยิ่งเห็นค่าจ้างสูงลิ่ว มั่นใจว่าตัวเองทำได้ทุกอย่าง ไม่ว่าจะขึ้นเขา ลงห้วย หรือดำน้ำในทะเลก็ตาม
มายาวีย์หย่อนก้นลงนั่งบนแท่นปูน เมื่อเห็นป้ายของบริษัทปักไว้ตรงขอบปูน บริเวณนี้เป็นท่าเรือเอกชนที่มีเรือสปีดโบ๊ทบริการ เชื่อมต่อการขนส่งทางเรือเกือบทุกเกาะในภูมิภาคนี้ รวมทั้งเกาะช้าง และชายฝั่งพัทยาด้วย
“น่าจะเป็นตรงนี้ล่ะนะ”
มายาวีย์แหงนหน้ามองท้องฟ้า พอต้องออกมาอยู่คนเดียวในโลกกว้างความรู้สึกเวิ้งว้างก็แทรกเข้ามาในความรู้สึก แต่อย่างน้อยวันนี้ก็จะเป็นการเริ่มต้นชีวิตในแบบที่ตัวเองเลือก
‘ชีวิตของฉันคงหนีไม่พ้นวังวนธุรกิจสีเทาสินะ ที่ผ่านมามันยังเทาและหม่นหมองไม่พอหรือไง’
มายาวีย์สูดลมหายใจเข้าปอด ระเบิดเสียงออกมา “อ่า...กลิ่นของอิสรภาพมันช่างหอมสดชื่นจริงๆ นังเปรี้ยวเอ้ย!”
“คุณจะไปคาสิโนไหมครับ” เสียงตะโกนถาม ทำให้มายาวีย์เงยหน้าขึ้นมอง เรือลำนั้นจอดห่างไกลพอสมควร จะให้ตะโกนแข่งเสียงลมทะเลอีกฝ่ายก็คงไม่ได้ยิน
คนถามยืนอยู่บนเรือสปีดโบ๊ท จากการสำรวจด้วยสายตา เขาน่าจะอายุไม่เกินวัยกลางคน สีผิวบ่งบอกได้ว่าเขาตากแดดมาเกือบครึ่งชีวิตของเขา มีผู้โดยสารอีกหนึ่งคนที่นั่งหันหลังให้เธอ
เรือออกจากท่าไปแล้ว แต่คนขับก็มองเห็นมายาวีย์ก่อน มองแป๊บเดียวเขาก็รู้ว่าเธอน่าจะเดินทางมาทำงานในคาสิโนเหมือนอย่างสาวสวยรายอื่น ที่เขาบริการรับส่งทุกวัน
มายาวีย์ขยับแว่นกันแดดเล็กน้อย เดินเข้าไปหาอย่างเร่งรีบ ด้วยสภาวะแดดของเมือง คงไม่ดีแน่หากยังยืนให้ผิวอาบแดดอยู่แบบนี้
“ใช่ค่ะ ฉันกำลังรอเรือจาก ดีเอสมิราเคิลคอมเพล็กซ์” มายาวีย์ตะโกนตอบกลับแข่งกับเสียงคลื่นปะทะแผ่นซีเมนต์ใหญ่ สายตาก็มองสำรวจไปด้วย พอมองเห็นโลโก้ของบริษัทหญิงสาวก็ใจชื้นขึ้นมา
“ถ้าอย่างนั้นก็เชิญเลยครับ เรือกำลังออกพอดี โชคดีที่ผมเห็นคุณก่อน ไม่อย่างนั้นคุณคงต้องรอเรือรอบหน้าอีก 2 ชั่วโมง” คนขับเรือเบนหัวเรือกลับ จากนั้นเขาก็รีบกุลีกุจอดึงเชือก เพื่อให้เรือขยับเข้ามาที่ฝั่งอีกครั้ง กระโดดขึ้นฝั่งมารับกระเป๋าในมือเธอ กระโดดกลับไปที่เรืออย่างคล่องแคล่ว ทุกการกระทำของเขาใช้เวลาไม่ถึง 5 นาที
คลื่นใต้ผิวน้ำสาดกระทบกับพนังกั้น ทำให้เรือโคลงเคลงโอนเอน ขาของหญิงสาวเริ่มสั่น เธอกลัวจนไม่กล้าก้าวขา เพราะเป็นคนกลัวคลื่นและกลัวน้ำมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
“เอ้า! ลงมาสิ หรือว่าไม่ไปแล้ว” น้ำเสียงห้วนเร่งขึ้น พานทำให้คนตัวเล็กไม่พอใจคนงานของมิราเคิลคอมเพล็กซ์ เขาพูดส่งมือมารับ
มือนั้นไม่ใช่มือของคนขับเรือ แต่เป็นคนที่นั่งอยู่ในเรือก่อนหน้า ซึ่งหญิงสาวก็ไม่รู้ว่าเขาเป็นผู้โดยสารอีกคน
มายาวีย์ตั้งสติอยู่นานก่อนจะตัดสินใจกระโดดข้ามไปในเรือ โดยไม่ได้ส่งมือให้คนที่ยื่นมาช่วยเหลือ แต่พอก้าวลงไปในเรือเธอก็ได้รู้ว่าคนที่ยื่นมือมารับไม่ได้เป็นพนักงานของคาสิโน หรือคนขับเรือแต่อย่างใด เขาคงจะเป็นแขกที่กำลังจะเดินทางไปพักที่นั่น
มายาวีย์ก็เห็นหน้าของผู้ชายคนนั้นอย่างชัดเจน แม้ดวงตาของเขาจะถูกคาดทับด้วย แว่นตาสีดำ แต่หญิงสาวก็สัมผัสความบึ้งตึงบนใบหน้าบอกบุญไม่รับของเขาออก เธอเดาอยู่ในใจว่าเขาคงจะหงุดหงิดเพราะความล่าช้าอย่างเธอ จึงเอ่ยคำขอโทษออกไป
“ขอโทษที่ทำให้ช้านะคะ”
ลีอาห์มาที่เมืองไทยด้วยความหงุดหงิด หงุดหงิดทั้งคำสั่งของพ่อและความไม่เอาไหนของน้องชายทั้งสองคน เขายังติดอกติดใจสาวญี่ปุ่นไม่หาย แต่เพราะคำสั่งและรับปากบิดาเอาไว้ว่าจะมา เขาต้องลดระยะเวลาพักร้อนของตัวเองที่ญี่ปุ่นจาก 1 เดือนเป็น 2 สัปดาห์ เดินทางมาดูแลธุรกิจแทนบิดาที่นี่ แต่เขาก็เลือกที่จะเดินทางมาก่อนกำหนด
ลีอาห์เป็นหนึ่งในทายาทของ DS group ลูกชายของไมเคิล ทั้งสามหนุ่มเกี่ยงกันที่จะเข้ามาสานต่อธุรกิจของครอบครัว น้องชายคนรองชื่อฟาร์โก้ที่ที่เรียนจบแพทย์และเดินทางท่องเที่ยวทำงานเกี่ยวกับจิตอาสาโดยไม่สนใจธุรกิจสีเทาของบิดา ในขณะที่น้องชายคนสุดท้องก็เป็นเพลย์บอยจอมเจ้าชู้ รายนั้นก็เอาแต่เที่ยวสนุกปาร์ตี้ไปวันๆ ไม่สนใจงาน ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าตอนนี้เขาอยู่ประเทศไหน
นั่นทำให้ลีอาห์ต้องเดินทางมาที่คาสิโนแห่งนี้ตามคำสั่งของบิดา แต่ก็เป็นการเดินทางมาทำงานที่เงียบและเรียบง่ายที่สุด ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขาคือใคร
ลีอาห์เพิ่งจะรู้ว่าบิดาของเขาประมูลธุรกิจท่าเรือท่องเที่ยวเมืองใหม่เมืองกัมปอตได้ เขาเห็นเอกสารและสิ่งที่ต้องจัดการและประชุม เมื่อเดินทางมาถึงญี่ปุ่นแล้ว เหมือนพ่อของเขาจะจงใจให้เขารับผิดชอบงานนี้ ผลักให้รับหน้าที่ใหม่อย่างตั้งตัวไม่ทัน นั่นทำให้ต้องเปลี่ยนแผนกระทันหัน ทั้งหมดทั้งมวลเป็นเหตุผลที่ทำให้ใบหน้าของเขาบึ้งตึงบอกบุญไม่รับในเวลานี้
ชายหนุ่มละสายตาจากเครื่องยนต์ มองตามเสียงใสหวานที่ขึ้นเรือมาใหม่ ผู้หญิงรูปร่างสูงโปร่งในชุดเสื้อยืดสีขาวรัดรูป กับกางเกงยีนส์แฟชั่นขาดๆ เธอสวมรองเท้าผ้าใบสีขาวกับหมวกแก๊ปสีเดียวกัน ดวงตาถูกปิดทับด้วยแว่นสีชากรอบใหญ่ตามสไตล์แฟชั่นนิยม
‘คงจะไปทำงานที่คาสิโนสิท่า ผู้หญิงสวยสมัยนี้ชอบทำแต่งานสบายๆ’ ชายหนุ่มคิดในใจ
