บท
ตั้งค่า

Chapter 6 ฉันต้องชวดเงิน 20 ล้านแน่ๆ

หลายวันต่อมา… สถานการณ์จวนเจียนที่ลีอาห์กำลังจะเดินทางมา ลีอาห์เกลียดมาลีมาก เพราะรู้เรื่องรักสามเศร้าของพวกเขา ส่วนมาลีอยากให้ลูกสาวได้ลงเอยกับลีอาห์ ถึงตอนนั้นนางจะได้เป็นแม่ยายมหาเศรษฐี ร่ำรวยมหาศาล มีกินมีใช้ไม่มีวันหมด

นั่นเป็นเหตุผลของความกระวนกระวายใจทั้งหมด มาลีเดินวนไปวนมา ครุ่นคิด วางแผนการที่จะตะล่อมลูกสาวให้ยอม ใกล้ถึงกำหนดเวลาที่ลีอาห์จะเดินทางมาถึง แต่ก็ยังไม่สามารถกล่อมลูกสาวได้ ยอดเงิน 20 ล้านที่ยังวนเวียนอยู่ในหัวทำให้นางนั่งไม่ติด อย่างน้อยก็ขอให้ได้ 10 ล้านแรกก็ยังดี

คนที่อยู่ในความกระวนกระวายใจของมารดายังเอื่อยเฉื่อย ตอนนี้เธอยังเดินทอดน่องอยู่ตลาดนัด ยืนต่อคิวซื้อยำแซ่บร้านดังที่ตลาดนัดหน้าวัด ที่นี่…คงจะเป็นที่เดียวกระมังที่ทำให้เธอรู้สึกว่าพัทยาน่าอยู่ ตลาดหน้าวัดชัยศูนย์รวมอาหารอร่อยราคาไม่แพง

เวลาตะวันคล้อยเย็น แสงสีจากดวงไฟเริ่มคืบคลานเข้ามา นั่นเป็นสัญญาณของการเริ่มต้นวันใหม่แห่งเมืองโลกีย์แห่งนี้

“ไปโรงแรมกับฉัน เท่าไหร่” ฝรั่งผมทองเดินเข้ามาถาม มายาวีย์แหงนหน้ามองชัดๆ ใจอยากฟาดหมัดกระแทกปากหมอนี่สักเปรี้ยง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เธอโดนถามแบบนี้

“ฉันไม่ใช่ผู้หญิงขายบริการ”

“บอกราคาฉันมาได้เลย ฉันชอบเธอมาก” ฝรั่งผมทองยังตื้อต่อ มายาวีย์เดินหนี

“ไม่” มายาวีย์ก้าวเท้าเร็ว แต่หนุ่มคนนั้นก็ยังเดินตามตื๊อ

“ฉันเปย์เธอได้ไม่อั้นนะ เธออยากได้รถสักคันวันนี้ฉันก็ให้เธอได้”

เปรี้ยง!! มายาวีย์ซัดหมัดเปรี้ยงไปที่แก้มของอีกฝ่าย แม้เขาจะสูงกว่าเธอ แต่แรงหมัดที่เสยเข้าไปคางก็ทำให้อีกคนเลือดซิบ เขาแตะที่มุมปากและมองเธอด้วยความโกรธ

“อย่าดูถูกผู้หญิงไทย ไม่ใช่ว่าผู้หญิงทุกคนจะซื้อได้ด้วยเงิน”

“ฉันจะลากเธอเข้าคุก เธอทำร้ายร่างกายฉัน”

“พร้อม!” มายาวีย์ถลกแขนเสื้อเดินเข้า “ไหนๆ จะต้องจ่ายค่าปรับแล้ว ขอซ้อมตีนอีกหน่อยก็แล้วกัน กำลังคัน”

“นี่เธอ! จะทำอะไร”

“ฉันพร้อมจะไปโรงพัก แต่ก่อนไปขอเอาเลือดหัวแกออกก่อน ถ้าอยากได้ขึ้นชื่อว่าเป็นผู้ชายรังแกผู้หญิงก็เข้ามา ส่วนฉันไม่เคยกลัวอยู่แล้ว”

“มีอะไรกันครับ” ตำรวจจราจรที่ยืนอยู่บริเวณนั้นเห็นเหตุการณ์จึงเดินเข้ามาถาม

“ตำรวจมาแล้วก็แจ้งความเลยสิ อยากเข้าคุกเต็มที อยากรู้ว่าใครจะโดนข้อหาหนักกว่ากัน”

หนุ่มผมทองรีบกอดคอมายาวีย์กระซิบบอกให้เงียบก่อน “เงียบนะ เราต้องคุยกัน 2 คน”

“ผมทำให้แฟนงอนนิดหน่อยครับ เธอเลยซัดปากผมซะเลือดออกเลย”

“ค่อยๆ พูดค่อยๆ จากันนะหนู” เจ้าหน้าที่ตำรวจหันมามองที่มายาวีย์ เธอสะบัดตัวออก

“ไอ้หมอนี่มันมาขอซื้อหนู แต่หนูไม่ยอมมันต่างหากล่ะคะ เอาเป็นว่าหนูจะไม่เอาเรื่อง แต่ขอตัวก่อนค่ะ” พูดจบมายาวีย์ก็เดินออกไป

หนุ่มผมทองมองตาม ยกมือแตะขึ้นที่มุมปากตัวเอง รู้สึกชอบผู้หญิงคนนี้ ถือศักดิ์ศรีและไม่ยอมใคร เขาเดินตามเธอไปห่างๆ จนกระทั่งรู้จักบ้าน

มายาวีย์เดินกะฟัดกะเฟียดเดินกลับมาบ้านด้วยความโมโห

“สอบเสร็จแล้ว ให้คำตอบแม่ได้หรือยังลูก เปรี้ยวยอมช่วยแม่ใช่มั้ย” เสียงของมารดาทักขึ้น นั่นทำให้มายาวีย์แปลกใจเล็กน้อย ไม่บ่อยนักที่จะได้ยินน้ำเสียงหวานหยดแบบนี้ของมารดา เธอหันกลับไปตอบ

“ไม่ว่าแม่จะใช้น้ำเสียงแบบไหน หนูก็ไม่ไป”

"ยอมช่วยแม่สักครั้งนะเปรี้ยว” มาลีบอกประโยคเดิมซ้ำๆ ในรอบ 1 เดือนที่ผ่านมา แต่ทุกครั้งก็ได้รับการปฏิเสธ คิดว่านางถอดใจแล้วเสียอีก

มายาวีย์ถอนหายใจออกมาอย่างเหนื่อยหน่าย “หนูช่วยไม่ได้จริงๆ และตอนนี้หนูก็ได้งานแล้ว”

“ไม่ได้นะ แกต้องช่วยฉันก่อน หลังจากนั้นฉันจะยอมแกทุกอย่าง ไม่ว่าจะอยากทำอะไร อยากทำงานที่ไหน ฉันจะไม่บังคับอีกเลย”

มาลีรับปากกับไมเคิลเป็นมั่นเป็นเหมาะว่าจะพามายาวีย์ไปเจอลีอาห์ให้ได้ จนฝ่ายนั้นวางแผนสำเร็จ ลีอาห์ยอมมา แต่คนที่กำลังจะสร้างเรื่องยุ่งยากให้กับเรื่องนี้คือมายาวีย์ เธอยืนกรานกระต่ายขาเดียวตั้งแต่ต้น

“หนูบอกแม่กี่ครั้งแล้วว่าหนูไม่ไป และจะไม่ยอมขายศักดิ์ศรีตัวเองแลกเงินเด็ดขาด” หญิงสาวบอกอย่างมั่นใจ

“แม่ขอนะเปรี้ยว! ถือว่าเป็นการทดแทนบุญคุณที่ฉันเลี้ยงดูแกมา ส่งเสียให้เรียนจนจบปริญญาก็ได้” มาลียกบุญคุณขึ้นมาเป็นข้ออ้าง ไม่ว่าจะใช้วิธีใดก็แล้วแต่ นางจะไม่ยอมชวดเงิน 20 ล้านเป็นเด็ดขาด

“ถือว่าหนูขอนะแม่ คิดว่าเป็นของขวัญเรียนจบก็แล้วกัน” มายาวีย์ย้อนคำมารดาด้วยประโยคเดียวกัน พูดจบเธอก็เดินกลับขึ้นห้องโดยไม่สนใจมารดา

“เปรี้ยว!” มาลีร้องตาม แต่ก็ไม่มีเสียงตอบกลับจากลูกสาว

"อีเปรี้ยว!! แกจะเดินหนีฉันแบบนี้ไม่ได้นะ" มาลีตะโกนเสียงดังกว่าเดิม แต่ลูกสาวกลับทำเอาหูทวนลม เดินขึ้นบ้านต่อไปทันที

"เอาน่าพี่…ใจเย็นก่อน เดี๋ยวพรุ่งนี้หนูช่วยคุย" หนึ่งในพนักงานสาวที่สนิทสนมกับมายาวีย์บอกเจ้านายสาวอย่างปลอบใจ

"ใช่มาดาม เดี๋ยวพวกเราช่วยกันคุยให้" พนักงานสาวที่นั่งอยู่ในร้านเสริม

"คนอย่างเปรี้ยว ยิ่งบังคับก็ยิ่งต่อต้านนะ"

"เออ…" มาลีกระแทกเสียงตอบรับด้วยท่าทางหงุดหงิด ตอนนี้นางทำอะไรไม่ได้มากกว่ารอให้พวกนี้ช่วย

ผ่านมาอีกนับสัปดาห์ มายาวีย์ก็แทบจะกักตัวเองอยู่บนห้อง ไม่เปิดช่องให้ใครได้พูดคุย จะลงมาจากห้องก็เพียงแค่ซื้ออาหาร ในขณะที่เวลาก็คืบคลานเข้ามา เพิ่มความร้อนใจให้มาลีขึ้นไปอีก

“เราจะทำยังไงกับมันดี”

“เดี๋ยวฉันจัดการเอง เรื่องแค่นี้ไม่มีปัญหาหรอก” ทัตเทพบอกขึ้น เมื่อเห็นเมียคราวแม่ร้อนใจ เขาเองก็ร้อนใจไม่แพ้กัน หากว่ามาลีชวดเงินก้อนนั้น เขาก็ต้องลำบากไปด้วย ถ้ามาลีมีเงินในบัญชี 10 ล้าน เขาจะขอไปถล่มในบ่อนเท่าไหร่ก็ได้ ยิ่งจินตนาการถึงวันนั้น เขาก็ยิ่งต้องทำ

“จะทำยังไง เปรี้ยวมันหัวแข็งจะตาย ถ้ามันบอกว่าไม่ก็คือไม่นั่นล่ะ” มาลีบอกอย่างถอดใจ ทั้งขอร้องและบังคับก็แล้ว ลูกสาวก็ยังไม่ยอมช่วย คราวนี้นางคงจะชวดเงินจริงๆ

“ถ้าจับมันไปส่งที่เกาะกงได้ ทุกอย่างก็จบใช่ไหมล่ะ” ทัตเทพยิ้มอย่างมีแผน

“แล้วจะพามันไปได้ยังไง ในเมื่อมันอยู่แต่ในบ้าน”

“ถ้าที่รักอนุญาต รับรองว่าฉันพานังเปรี้ยวไปส่งถึงมือลูกชายคุณไมเคิลด้วยสภาพไม่บุบสลายแน่นอน”

“จะทำยังไง” มาลีหันกลับมาถามผัวเด็กอย่างมีความหวัง

“ก็วางยานอนหลับมันสิ จะไปยากอะไร ถ้ามันตื่นขึ้นมาแล้วนอนอยู่บนเตียงที่โรงแรมในเกาะกง มันจะไปทำอะไรได้” ทัตเทพยิ้มร้าย

“โง่! ทำอย่างนั้น คุณลีอาห์ก็รู้สิว่าเปรี้ยวถูกบังคับไป เขาไม่มีทางยอมแน่”

“ผู้ชายร้อยทั้งร้อย ลองได้เห็นผู้หญิงสวยนอนเปลือยอยู่บนเตียง มันไม่คิดอะไรมากหรอก” ทัตเทพบอก

“แต่เวลามันเหลือแค่อีกวันเดียวนะ ขนาดเปิดห้องออกมา มันยังไม่เปิดเลย แล้วจะเอายานอนหลับให้มันกินตอนไหน อีกอย่างเปรี้ยวไม่ใช่คนโง่”

“เชื่อมือฉันเถอะน่า เดี๋ยวคืนนี้ฉันจัดการเอง เธอเตรียมรับเงิน 10 ล้านเข้าบัญชีได้เลย” ทัตเทพบอกอย่างมั่นใจ

“ขอให้มันจริงเหอะ”

มาลีจำต้องยอมรับในแผนการของทัตเทพ เพราะนางไม่มีทางเลือกอื่น อย่างน้อยก็ขอให้ได้ลองทุกวิถีทางก่อนก็ยังดี

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel