Chapter 5 เพื่อนรักหักเหลี่ยมโหด
มัสยาเป็นเพื่อนรักของมาลี ทั้งคู่ผ่านทุกข์ผ่านร้อนมาด้วยกันตั้งแต่สมัยยังสาว มัสยาเป็นคนเรียบร้อยและจิตใจดี มัสยามาอยู่พัทยาไม่กี่ปีก็โชคดีได้เจอสามีมหาเศรษฐีนักธุรกิจชาวสเปน หลังจากนั้นก็แต่งงานและเลื่อนชั้นเป็นมาดามหมื่นล้านเสพสุขบนกองเงินกองทองของสามี เลี้ยงลูกชาย 3 คนอยู่บ้าน
พอต้องเลี้ยงลูกชายที่เกิดมาในวัยใกล้เคียงกัน จึงทำให้นางละเลยต่อการปรนนิบัติสามี เพราะคิดไปเองว่าเขาอาจจะเข้าใจว่าเลี้ยงลูกนั้นมันเหนื่อย แต่ผู้ชายเจ้าชู้อย่างไมเคิลไม่เคยคิดอย่างนั้น
ไมเคิลไม่ได้เรียกร้องจากภรรยาก็จริง แต่เขาก็มีบ้านเล็กบ้านน้อย มัสยาจำทนต้องยอมปิดตาข้างหนึ่งบ้างเพื่อที่จะรั้งครอบครัวเอาไว้ โดยไม่รู้ว่าถูกมาลีเพื่อนรักสวมเขาเป็นชู้ลับสามี มาลีตีท้ายครัว สูบเงินมาได้หลายล้าน แต่ก็ปรนเปรอสามีคราวลูกเกือบหมด
มายาวีย์รู้ความหมายของคำว่า ‘ดูแล’ เป็นอย่างดี มันครอบคลุมตั้งแต่พากิน พาเที่ยว และดูแลเรื่องบนเตียง หรือที่ใครๆ เรียกอย่างสวยหรูว่า Holiday girlfriend หรือคู่นอนนั่นแหละ
มายาวีย์จงใจอ้อยอิ่งอยู่ในครัว มาลีจึงเดินตามเข้าไป นางร้อนใจไม่อยากให้ค้างคา เพราะเป็นคนเสนอกับไมเคิล
“แกสอบเสร็จอาทิตย์หน้าใช่มั้ย”
“แม่อย่ามาตีรวนเออออนะ หนูไม่ไปเด็ดขาด”
“แกต้องไป”
“แต่หนูไม่ไป...ลูกน้องสาวๆ ของแม่ก็มีออกเยอะแยะ พวกนั้นอยากไปดูแลใจจะขาด ทำไมแม่จะต้องยัดเยียดอาชีพนี้ให้หนูด้วย แม่เป็นแม่ประเภทไหนกัน อยากให้ลูกขายตัวเหมือนตัวเอง”
“อีเปรี้ยว!” มาลีตวาดลั่นอย่างขาดสติ
พนักงานสาวของที่นี่ รู้ดีว่าการออกไปดูแลลูกค้าเป็นทริปแบบนี้จะได้เงินเป็นกอบเป็นกำ แถมยังได้กินได้เที่ยวหรูหรากับลูกค้าอีก แทนที่จะต้องทนเหนื่อยนวดชั่วโมงละไม่กี่ร้อย
เมื่อนึกถึงผลตอบแทนที่ตกลงไว้กับไมเคิล มาลีก็รีบดึงสติกลับ รู้ว่าเวลานี้ควรจะใช้ไม้อ่อนกับลูกสาวแทนบังคับ นางจึงพยายามทำใจให้เย็นลง
“ถ้าทำได้ฉันคงไม่ต้องเสียเวลามานั่งขอร้องแกหรอก ลีอาห์ไม่ชอบผู้หญิงก๋ากั่น เขาชอบผู้หญิงไทยเรียบร้อย และที่สำคัญเขาไม่ชอบผู้หญิงฟรีเซ็กส์ ขืนส่งเด็กในร้านไปเขาก็รู้ว่าฉันย้อมแมวสิ”
“อยากได้ผู้หญิงเวอร์จิ้นว่างั้น แต่เสียใจด้วย หนูจะเก็บความเวอร์จิ้นไว้ให้คนที่หนูรัก”
“แกต้องทำ” มาลีบังคับลูกสาวเสียงแข็ง
“หนูไม่ทำ” มายาวีย์ตอบกลับด้วยน้ำเสียงไม่ต่างกัน
“แต่ลุงไมเคิลมีบุญคุณกับเรานะ ตอนปรับปรุงร้านครั้งก่อนลุงไมเคิลให้เงินมาตั้งหลายล้าน หลายเดือนก่อนโควิดมา โดนล็อคดาวทั้งเมืองก็ได้เงินของลุงไมเคิลที่ช่วยพยุงร้าน ตอนนี้เงินเก็บฉันหมดแล้ว ถือว่าช่วยดูแลคนมีพระคุณนะ แกก็รู้ว่าที่ร้านแย่มากนักท่องเที่ยวต่างชาติก็ยังเข้ามาไม่ได้มาก แค่ลูกค้าคนไทย จะไปมีเงินพอเลี้ยงปากเลี้ยงท้อง คนในร้านได้ยังไง” มาลียกข้ออ้าง นางรู้ว่ามายาวีย์เป็นคนขี้สงสาร หากว่าสถานการณ์ย่ำแย่ เธอก็ต้องช่วยอยู่วันยังค่ำ
“ถ้าคิดว่าลุงไมเคิลมีบุญคุณนักหนา แม่ก็ไปเองแล้วกัน หนูไม่ไป” มายาวีย์บอก จะเดินกลับขึ้นไปชั้นบน
“นังเปรี้ยว!” มาลีตวาดซ้ำอีกรอบ
“พูดกับหนูให้มันเพราะๆ หน่อยแม่ เดี๋ยวคราบมาดามเมีย(เช่า)ฝรั่ง ราศีมันจะลดลงเพราะคำพูดของแม่นะ”
แม่ของเธออาจจะคิดว่าตัวเองคือมาดามฝรั่ง นางคิดมาตลอดว่าตัวเองสวยมาก จึงมีสามีพร้อมกันหลายๆ คนได้ แต่ในความรู้สึกของมายาวีย์ มาลีก็คือเมียเช่าฝรั่งดีๆ นี่เอง ไม่มีผู้ชายคนไหนอยากตบแต่งออกหน้าออกตาสักคน และเธอก็ขยะแขยงตำแหน่งที่มารดาของเธอภูมิใจเป็นที่สุด
“ถ้าแม่คิดว่าอาชีพที่แม่ทำอยู่มันดีนักหนา แม่ก็ทำไปคนเดียวเถอะ แต่ก็ระวังโรคหน่อยก็แล้วกัน เดี๋ยวจะจบไม่สวยเอา เอดส์มันไม่ตายง่ายๆ แต่ชีวิตเหมือนตายทั้งเป็นนะ” พูดจบก็เดินขึ้นบันไดไป คนเป็นแม่ตะโกนตามหลังด้วยความโมโห
“นั่นปากมึงเหรอ มึงแช่งกูหรือไง” มาลีท้าวสะเอวชี้ตามหลัง
“อะไรกันที่รัก นังเปรี้ยวมันทำอะไรให้โมโหอีก” สามีเด็กของมาลีเปิดประตูเข้ามาพอดี ทัตเทพกอดมาลีอย่างออดอ้อน นั่นเป็นภาพที่เดาได้ไม่ยากว่าเงินน่าจะหมด
“ก็มารีน่าจะให้นังเปรี้ยวไปช่วยดูแลลูกชายของคุณไมเคิล แต่นังเปรี้ยวไม่ยอมไปสิ มันน่าโมโหมั้ยล่ะ คุณไมเคิลเป็นผู้มีพระคุณของเราแท้ๆ”
ทัตเทพรู้จักไมเคิลเป็นอย่างดี เขาเป็นบ่อเงินบ่อทองที่มารีน่าจะสูบมาให้เขาได้มาก มีกินมีใช้ไม่มีวันหมด เขาจึงต้องรีบช่วย แม้ว่าจะเสียดายลูกเลี้ยงมากก็ตาม แต่ก็ยังมีเวลาที่เขาจะหาทางได้ลูกเลี้ยงก่อนไปเจอลูกค้าแน่นอน
ทัตเทพวิ่งขึ้นไปกลางบันได แหงนคอขึ้นไปข้างบน “แกจะไม่คิดสำนึกบุญคุณแม่แกหรือไง คุณไมเคิลมีบุญคุณกับที่ร้านมาก ถ้าไม่ได้เขาจะมีร้านสวยงามแบบนี้มั้ย”
มายาวีย์ตะโกนลงมาจากกลางอีกชั้น โชคดีที่ไม่มีแขก “คิดว่าเราควรจะคุยแค่คนในครอบครัว รอสัตว์เลื้อยคลานเลื้อยออกไปก่อนแล้วค่อยคุยกันนะแม่”
“มึงคิดว่ากูเป็นเหี้ยเหรอ หลายทีแล้วนะที่มึงหลอกด่ากูแบบนี้ นังเปรี้ยว!” เสียงของคนถูกพาดพิงคำรามลั่นขึ้นมา พร้อมกับถลาตัวเข้าหาเหมือนกำลังจะมีเรื่อง
“ยอมรับเองหรือเปล่า ฉันยังไม่ได้พูดออกมาสักคำว่า ‘เหี้ย’ เลยนะ แม้จะคิดแบบนั้นก็ตาม” มายาวีย์บอกเสียงเยาะกลั้วขำในลำคอ
“อีเปรี้ยว!” ทัตเทพชี้หน้ามายาวีย์จะเอาเรื่อง แต่เจอสายตาปรามมาลี เขาจึงยอมสงบสติอารมณ์ เดินกลับมาทิ้งตัวลงนั่งบนโซฟาด้วยอาการหงุดหงิดไม่พอใจ
“หนูขอตัวนะแม่”
“เรายังคุยกันไม่จบ”
“แต่หนูคุยจบแล้ว” พูดจบมายาวีย์ก็เดินขึ้นบันไดไปต่อ
“ให้มันได้อย่างนี้สิ ฉันจะชวดเงิน 20 ล้านมั้ยเนี่ย” มาลีบอกตามหลัง กุมขมับ ทิ้งตัวลงนั่งบนเก้าอี้ด้วยความโมโห นั่นทำให้ทัตเทพตาลุกวาว รีบขยับเข้ามาใกล้มาลี ถามอย่างตื่นเต้น
“20 ล้านเลยเหรอที่รัก”
“ก็ใช่น่ะสิ ทำยังไงมันถึงจะยอมก็ไม่รู้ เทพก็อย่าหาเรื่องเปรี้ยวให้มากเลยช่วงนี้ เอาใจมันเยอะๆ หน่อย”
“ถ้าฉันช่วยให้มันยอมไป ที่รักแบ่งค่าขนมให้เค้าเท่าไหร่”
“ถ้ามันยอมจริงๆ ฉันจะซื้อรถคันใหม่ให้เลยที่รัก ไปเลือกยี่ห้อไว้ได้เลย”
“พูดจริงนะ” ทัตเทพถามย้ำ
“จริงสิ ถ้าเปรี้ยวยอมไปกับลีอาห์เมื่อไหร่ เงิน 10 ล้านจะถูกโอนเข้ามาในบัญชีฉันทันที แต่ถ้าเปรี้ยวท้อง ฉันจะได้เพิ่มอีก 10 ล้าน” มายาวีย์ย่องเดินกลับลงมา ได้ยินคำสนทนาของมารดากับสามีหนุ่มของนางเต็มสองหู เธอมีค่าไม่ต่างจากสิ่งของชิ้นหนึ่งเลย
น้ำตาของมายาวีย์ก็พังทลายลง คำพูดที่ออกจากปากมารดาเหมือนฟ้าฟาดลงมากลางหัวใจ ตอนนี้สมองของเธออื้ออึง ขาแทบทรงตัวเอาไว้ไม่อยู่
“แม่ประเภทไหนกันที่ยัดเยียดให้ลูกขายตัว แม่ประเภทไหนกันขายลูกกิน”
