Chapter 2 แม่หลงผู้ชาย
มาลีมีลูกสาวอยู่คนหนึ่งชื่อเปรี้ยว หรือ มายาวีย์ เมื่อ 20 กว่าปีก่อน มาลีพลาดท้องกับฝรั่งสักคนที่เธอเคยควง และไม่รู้ว่าใครเป็นพ่อของมายาวีย์กันแน่ นับตั้งแต่วันนั้นมาเด็กหญิงเปรี้ยวก็ถูกยัดเยียดฉายาว่านังลูกกะหรี่จนคุ้นหู
"วันนี้ฉะกันแต่เช้าเลยนะยายปู เถียงกันนานอย่างนี้คงจะได้หลายครก" มายาวีย์เปิดม่านหน้าต่างมองลงไปข้างล่าง พ่นลมหายใจพรืด ส่ายหน้าเบื่อๆ เธอชินกับเสียงอึกทึกครึกโครมข้างล่าง จะเรียกได้ว่า เธออยู่ในสถานการณ์แบบนี้ตั้งแต่จำความได้ก็ไม่ผิด แม้ห้องนอนของเธอจะอยู่ชั้น 4 แต่ก็ยังได้ยินเสียงนั้นชัดเจน
มายาวีย์หันกลับไปสนใจกิจกรรมของตัวเองที่ทำอยู่ ยืนเท้าสะเอวหมุนตัวอยู่หน้ากระจก หลังจากออกกำลังกายเรียกเหงื่อที่เธอทำเป็นกิจวัตรทุกวัน หญิงสาวไม่มีโอกาสรู้เลยว่าเจ้างูเหลือมกำลังคืบคลานเข้ามา
ดวงตาสีดำเข้มคู่หนึ่งวาวโรจน์ขึ้น เมื่อเห็นเรียวขาขาวผ่อง อกอวบอิ่มดันยกทรงที่ซ่อนอยู่ในเสื้อกล้ามเน้นรูปทรงองเอว สะโพกผายรับกับเอวคอด ราวกับปั้นแต่งทุกส่วนสัดให้ลงตัวเย้ายวนใจบุรุษเพศ เพราะไม่ว่าจะมองตรงส่วนไหนก็เรียกแรงปรารถนาในกายของเพศตรงข้ามได้ไม่ต่างกัน เว้นเสียแต่ว่าผู้ชายคนนั้นกามตายด้าน ภาพนั้นทำให้เขาไม่รอช้าที่จะก้าวเข้าหา
ลำแขนแกร่งของทัตเทพโอบรวบเอวจากด้านหลัง พร้อมกับซุกหน้าลงบนซอกคอหอมกรุ่นอย่างหื่นกระหาย มืออีกข้างเลื่อนตะปบหน้าอกตั้งใจบีบเค้นทรวงอิ่ม แต่ทว่าเจ้าตัวกลับยกมือขึ้นปิดป้องไว้ได้ทันก่อนที่มือของไอ้หื่นจะจาบจ้วงโดนเนื้ออกหยุ่น
“ปล่อยนะ...ไอ้บ้ากาม!” เสียงหวีดร้องดังแหลมปรี๊ด เจ้าของเสียงเหวี่ยงตัวหนีพร้อมซัดหมัดหนักอย่างแรง ตรงจังหวะปลายจมูกอีกฝ่ายพอดิบพอดี
“ไอ้แมงดา! ไอ้หน้าตัวเมีย!”
เลือดกำเดาแดงฉานไหลอาบลงมาที่คาง ทัตเทพยกมือเช็ดลวกๆ เงยหน้ามองคนทำอย่างคาดโทษ คนตัวเล็กจ้องกลับด้วยแววตาไม่ลดราวาศอกเช่นกัน
ทัตเทพชี้หน้า “มันจะมากไปแล้วนะ นังเปรี้ยว! คราวนี้มึงทำกูเลือดตกเลยเหรอ”
“มันน้อยไปสิ! ไอ้แมงดา สำหรับคนบ้ากามอย่างมึง เสียดายที่ซัดไม่ตรงเป้า ตั้งใจจะเลาะฟันออกทั้งปากด้วยซ้ำ” มายาวีย์ยืนเท้าสะเอวด่าอย่างด้วยความโมโห คนที่นี่รู้หมดว่าชั้น 4 เป็นพื้นที่ส่วนตัวของเธอ นอกจากคนเสียมารยาทเท่านั้นที่จะขึ้นมาก้าวก่าย
“กูเป็นพ่อมึงนะ”
หญิงสาวแทบหลุดขำกับคำที่ ‘ไอ้หน้าตัวเมีย’ คนนั้นบอกออกมา เชิดหน้ามองผู้ชายร่วมบ้านอย่างไม่เกรงกลัว
“เหมือนมึงจะนอนเยอะ เลยฝันมากเกินไปหรือเปล่า กูไม่เคยยอมรับว่ามึงเป็นพ่อ และไม่คิดว่าจะยอมรับทั้งชาตินี้และชาติหน้า”
“แล้วถ้าเปลี่ยนมาเป็นผัวล่ะ...” ทัตเทพเดินย่างสามขุมเข้ามาหา
“ก็ลองดูสิ...แล้วก็เลือกก่อนจะเดินเข้ามาด้วยว่า มึงจะจะรับแบบแพ็คเกจนอนหยอดน้ำข้าวต้ม หรือแค่แขนหักขาหักดี” หญิงสาวจ้องหน้าทัตเทพนิ่งไม่วางตา ตั้งการ์ดมองอย่างระแวดระวัง
“ปากดีอย่างนี้กูยิ่งมีอารมณ์ กูจะทำให้มึงครางผัวคะ...ผัวขา ทั้งคืน”
“ไปตายแล้วเกิดใหม่ก่อนเถอะ เหลือบไรอย่างมึง ทำได้มากสุดก็แค่ฝังตัวใต้ขอบประตู หน้าต่าง หรือชายกระโปรงแอบมองเท่านั้นแหละ” ทัตเทพโมโห ปรี่เข้าหาง้างมือขึ้นขู่
“วอนปากแตกซะแล้วนะมึง”
แต่คนโดนขู่กับลอยหน้าลอยตา เชิดหน้าตอบกลับอย่างถือดี
“มึงก็ลองเข้ามาสิ กูก็อยากรู้เหมือนกันว่าปากใครจะแตกก่อน”
“เอะอะอะไรกัน เสียงดังลั่นไปถึงข้างล่างเลย ลูกค้าแตกตื่นหมดแล้ว โควิดมาลูกค้ายิ่งน้อยๆ อยู่” เสียงแหลมของมาลีตะโกนดังแทรกขึ้นมา เจ้าตัวกำลังเดินขึ้นบันไดมาถึง
“เมียจ๋า นังเปรี้ยวมันต่อยฉันเลือดกำเดาไหลเลย” ทัตเทพรีบฟ้องเมีย รีบเข้าไปกอดคนมาใหม่อ้อน
“เจ็บมากด้วยที่รัก”
“ลิ้นสองแฉกโชว์ไม่อายฟ้าดินเลยนะมึง” หญิงสาวกัดฟันบอกงึมงำ เบะปากมองอย่างขยะแขยง
มาลีตกใจที่เห็นเห็นคราบเลือดที่มุมปากและเจอลูกอ้อนสามีเด็ก นางก็โมโหลูกสาว เท้าสะเอวชี้หน้าด่าทันที โดยไม่ถามลูกสาวสักคำ
“มันจะมากไปแล้วนะนังเปรี้ยว กูขอมึงไม่รู้กี่รอบแล้วว่าอย่ามาใช้กำลังกับคนที่นี่”
มายาวีย์ไม่แปลกใจที่มารดาจะตัดสินแบบนี้ เพราะแต่ไหนแต่ไรมานางก็เห็นผู้ชายดีกว่าลูกเสมอ แต่หญิงสาวก็เลือกที่จะปกป้องตัวเอง แม้จะรู้ว่าคำพูดของเธอมีน้ำหนักเพียงน้อยนิดก็ตาม
“แต่ผัวเด็กแม่มันมันแต๊ะอั๋งหนู หนูก็แค่ป้องกันตัว”
“เปรี้ยวมันโกหกนะจ๊ะที่รัก” คนโดนกล่าวถึงรีบหันมาแก้ตัวกับภรรยาด้วยน้ำเสียงออดอ้อน
มายาวีย์แอบเบะปากมองบน เธอแทบจะอ้วกกับคำพูดพวกนั้น “จะอ้วก!”
“ที่รัก...เค้ารักเปรี้ยวเหมือนลูก เค้าจะทำแบบนั้นกับมันทำไม เค้าเห็นลูกแต่งตัวไม่สุภาพ ก็แค่ตักเตือนว่ามันดูไม่งาม คนอื่นจะคิดไม่ดี ไม่คิดว่าเปรี้ยวจะโกรธจนชกมาเต็มแรงอย่างนี้จ๊ะที่รัก”
พอผัวเด็กเป่าหูฟ้อง มาลีหันมาเอาเรื่องกับลูกสาว “ก็มึงแต่งตัวอ่อยแบบนี้ไง หรือมึงอยากจะอ่อยผัวกู”
‘โอ้โห แม่นะแม่ ความรักมันบังตา เห็นกงจักรเป็นดอกบัว เห็นขี้หมาเป็นเนื้อนิลจริงๆ’
“แม่พูดยังกับว่า…หนังหน้ามันน่าอ่อยอย่างนั้นแหละ หนูก็เลือกนะแม่” มายาวีย์ตอบกลับมารดา เธอไม่ได้รู้สึกแปลกใจกับการตัดสินของนาง เพราะทุกครั้งที่มีเรื่องกัน แม่จะเข้าข้างสามีเด็กของนาง และคิดว่าทุกเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพราะเธออ่อยเขา ไม่คิดสักนิดว่าหนังหน้าสัตว์เลื้อยคลานแบบนั้น เธอจะอ่อยให้เสียเวลาทำไม
“แกนี่เถียงคำไม่ตกฟากจริงๆ นังเปรี้ยว”
“แต่ชั้นนี้เป็นพื้นที่ของหนู หนูจะแต่งยังไงมันก็เรื่องของหนู ต้องโทษที่สัตว์เลี้ยงของแม่มากกว่ามั้ยที่คลานเลื้อยมาถึงชั้น 4 แม่ปล่อยให้หลุดออกมาจากกรงได้ไง”
“นังเปรี้ยว!” ทัตเทพโกรธ ปรี่เข้ามาจะตบ
มายาวีย์ตั้งกาดรับอีกรอบ “ถ้าอยากเป็นกระสอบทรายก็เข้ามา ช่วงนี้ไม่ได้ไปค่ายมวยซะด้วย กำลังคันตีนพอดี” หญิงสาวบอกด้วยน้ำเสียงจริงจังพร้อมกับสะบัดเท้า จ้องหน้าอีกฝ่ายอย่างไม่ลดราวาศอก แม้มารดาจะเข้าข้างผัวเด็ก แต่เธอก็โชคดีที่มีวิชาป้องกันตัวและเอาตัวรอดได้
“อย่าไปยุ่งกับมันเลย แล้วก็แล้วกันไป” มาลีก็รีบดึงตัวสามีเอาไว้ เพราะมายาวีย์เรียนมวยไทยตั้งแต่อายุ 14 ตอนนี้ฝีมือเรื่องหมัดมวยของมายาวีย์ก็ไม่ใช่ธรรมดา สามารถล้มผู้ชายตัวโตๆ ได้สบาย
มาลีหันมาชี้หน้าบอกลูกสาวอย่างคาดโทษ “ครั้งนี้ให้มันจบไปก็แล้วกัน ถือว่าฉันขอ คราวหน้าแกก็ก็อย่าแต่งตัวแบบนี้ในบ้านอีก”
สุดท้ายมาลีก็เลือกที่จะเข้าข้างผัวเด็กตามเคย แต่มายาวีย์ก็ไม่ลดราวาศอก เถียงกลับ
“คนออกกำลังกายจะให้ใส่ขนมิ้งหรือไงแม่ ต้องบอกสัตว์เลี้ยงของแม่มากกว่า อย่าให้คลานเพ่นพ่าน ครั้งต่อไปถ้ามันเหยียบขึ้นมาอีก หนูจะถีบมันกลับลงไปเหมือนหมาเลย” หญิงสาวบอกด้วยความโกรธ
