บทที่5
“หวานเป็นลม ขมเป็นยา ไม่เคยได้ยินรึไง!” เขาว่าเข้าให้ ก่อนที่จะตักผัก ที่อีกฝ่ายเพิ่งจะเขี่ยทิ้งขึ้นมาจ่อที่ริมฝีปากหวาน
”อ้าปาก!”
เพราะขัดคำสั่งของเขาไม่ได้ ซึ่งจริงๆ แล้วคือไม่มีสิทธิ์ที่จะขัด สุดท้ายเธอเลยต้องอ้าปากกินผักที่ว่าอย่างจำใจ แน่นอนว่ารสชาติของมันนั้นทั้งขมและไม่อร่อยอย่างรุนแรง แต่ครั้นจะคายทิ้งก็ไม่กล้า เพราะถูกจ้องมองด้วยสายตาเอาเรื่องจากอีกคนอยู่
“กินอีก กินให้หมด!” ยิ่งเห็นหน้าเธอ เขาก็ยิ่งอยากแกล้ง!
“คุณดล…”
“ไม่ได้ต้องเรียก ฉันไม่สงสารหรอก!”
เมธาได้แต่นั่งมองภาพของเพื่อนรักที่กำลังตักข้าวป้อนลูกหนี้ตัวน้อยของมันท่ามกลางความรู้สึกเพลินตาอย่างบอกไม่ถูก ไหนจะท่าทีที่ดูสบายอารมณ์ยามเมื่อได้แกล้งอีกคนเล่นนั่นอีก ไม่บ่อยเลยที่เขาจะได้เห็นเพื่อนแสดงท่าที่ผ่อนคลายแบบนี้ออกมาและก็ไม่บ่อยเลยที่จะมีใครสักคนที่ทำให้เขายิ้มออกมาได้
ไม่แน่บางทีเด็กคนนี้…
อาจจะเป็นคนที่ฟ้าส่งมาให้เพื่อนรักของเขาก็เป็นได้ ซึ่งหากเป็นอย่างนั้นจริงๆ เขาก็พร้อมที่จะยินดีกับเพื่อนรัก หากในที่สุดแล้วมันจะได้เจอคนที่เกิดมาเพื่อเป็นของมันอย่างแท้จริง ไม่ใช่คนที่เข้ามาเพื่อหวังผลประโยชน์ อย่างผู้หญิงร้ายกาจคนนั้น
อีกด้านหนึ่ง
เป็นเวลาหลายชั่วโมงที่ชมพูนุชหอบหิ้วเอาความเจ็บใจกลับมาจนถึงเรือนหอของตนเองกับสามี ที่สร้างแยกออกมาจากบ้านใหญ่ ที่มีใครบางคนอาศัยอยู่ ใครบางคนที่เธอเกลียดแสนเกลียด เพราะนังแก่นั่นคือต้นเหตุของเรื่องยุ่งยากทั้งหมดในชีวิตเธอ ไหนจะเรื่องที่มันส่งผู้หญิงคนนั้นไปให้อดีตคนรักเธอนั่นอีก!
เธอรู้ว่าทั้งหมดที่ว่ามานี้เพราะมันต้องการกีดกันเธอให้ออกจากชีวิตของหลานชายคนเล็กของตัวเอง แต่ถึงจะรู้ไปก็เท่านั้น เพราะไม่ว่ายังไง เธอก็ไม่คิดที่จะเลิกล้มความตั้งใจอยู่ดี
“คุณไปทำอะไรที่ไร่ของไอ้ดลมัน” เป็นคำถามนี้ของสามีที่ทำให้คนที่ตั้งใจจะเดินเข้าไปอาบน้ำนั้น เกิดอาการชะงักไปชั่วครู่
เพราะไม่คิดว่าเขาจะรู้เรื่องนี้! และก็คงไม่พ้นค้นสนิทของเขาที่น่าจะเป็นคนรายงานความเคลื่อนไหวของเธอให้เขาได้รู้!
ไอ้สารเลวนั่นตามติดชีวิตเธอราวกับเงา นับตั้งแต่วันที่มันจับได้ว่าเธอแอบไปอาละวาดอดีตคนรักที่ไร่ ตอนที่เขาตั้งใจจะลองคบหากับลูกสาวของผู้ว่า แต่ก็เป็นเธอเองที่จัดการจนผู้หญิงคนนั้นไม่กล้าที่จะเข้าหาณดลอีกเลย เพราะกลัวความลับในอดีตที่เธอจ้างให้นักสืบไปแอบสืบมาอย่างลับๆ ของตัวเองถูกเปิดโปง
“ชมไปเที่ยวกับเพื่อนๆ ที่เขาใหญ่ ขากลับบังเอิญผ่านไร่ของดลเขาก็เลยแวะไปเยี่ยมในฐานะเพื่อนเก่า มันก็เท่านั้นเอง ไม่ได้เหรอคะ…” ตอบไปแล้วก็อดที่จะใจสั่นไม่ได้ อาจเป็นเพราะว่าเธอรู้ดีทีเดียวว่าสามีของตนเองนั้นไม่ชอบใจทุกครั้งที่เธอกลับไปที่นั่น สถานที่ที่มีใครอีกคนใช้ชีวิตอยู่ ความเรียบง่ายที่เขาชื่นชอบคือสิ่งเดียวที่ทำให้เธอไม่สบอารมณ์ทุกครั้งที่คิดถึงมัน
“ผมไม่ชอบที่คุณยังติดต่อกับมันอยู่!” น้ำเสียงของคนพูดนั้นเด่นชัด ว่าไม่ค่อยพอใจกับสิ่งที่เพิ่งรับรู้มาจากคนสนิทที่คอยรายงานความเคลื่อนไหวของคนตรงหน้า ให้เขาได้รับรู้เป็นระยะๆ
เดิมทีชาญชัยก็ไม่ได้คิดจะลดตัวลงไปแข่งขันอะไรกับน้องชายนอกคอกของตัวเองอยู่แล้ว หากไม่มีเรื่องของภรรยาคนสวยของเขาเข้ามาเกี่ยวข้อง เพราะเขารู้ว่ามันไม่มีวันชนะคนอย่างเขาได้ ต่อให้พยายามให้ตายสักแค่ไหน มันก็เป็นแค่ตัวสำรองที่อยู่ใต้ฝ่าเท้าของเขา ที่เป็นสายเลือดตรงของตระกูลอยู่ดี!
ส่วนเรื่องของภรรยาเองก็เช่นกัน ที่เขาแทบไม่ต้องลงทุนอะไรเลย แค่อีกฝ่ายรู้ว่าเขาเป็นใครและให้อะไรเธอได้บ้าง ชมพูนุชก็ไม่ลังเลเลยสักนิดที่จะเลือกเขา แทนที่จะเป็นมันที่มีแค่ไร่กระจอกผืนเดียว ที่ย่าให้เป็นของขวัญวันเกิดครบรอบสิบแปด!
ในส่วนของพ่อยิ่งแล้วใหญ่ สำหรับท่านแล้ว ไอ้ดลแทบไม่เตยมีความสำคัญ อันที่จริงท่านไม่เคยมองว่ามันเป็นลูกด้วยซ้ำ เพราะอย่างนั้นเขาถึงมั่นใจ ว่าเขามีดีกว่ามันในทุกทาง จะมีแต่ภรรยาเท่านั้น ที่ยังคงแอบไปหามันบ่อยๆ ซึ่งเรื่องนี้เขายอมไม่ได้
“โถชาญคะ นี่คุณคงไม่คิดว่าชมจะเลิกกับผู้ชายที่เพียบพร้อมอย่างคุณ แล้วกลับไปหาคนอย่างดลหรอกนะคะ ที่รักคะ คุณก็รู้ว่าชมรักคุณมากแค่ไหน ส่วนดลตอนนี้เราเป็นเพื่อนกันจริงๆ ค่ะ” เพื่อนที่แสนดีที่สุดเท่าที่ในชีวิตของเธอเคยมี คนที่แม้จะไม่ได้ครอบครองเป็นเจ้าของ แต่เธอก็ไม่อยากยกเขาให้กับใครหน้าไหนทั้งนั้น เธอรู้ว่าตัวเองเห็นแก่ตัวที่คิดจะเก็บเขาเอาไว้ไม่ให้เริ่มต้นใหม่กับผู้หญิงคนไหน แต่ทั้งหมดที่ว่ามานี้มันเป็นเพราะว่าเธอทำใจไม่ได้จริงๆ ที่เขาจะมีคนอื่นเข้ามาเคียงข้าง ในที่ที่ครั้งหนึ่ง มันเคยเป็นของเธอมาก่อน ให้ตายก็ทำใจไม่ได้จริงๆ
