ตอนที่ 2 เรื่องพิเรนทร์ (2/2)
แต่หลังจากที่ได้สนิทกันแล้วนั้นอลิสก็เริ่มเปลี่ยนไป ยิ่งโตขึ้นอายุมากขึ้นเธอยิ่งรั่ว จากเด็กหญิงตัวน้อยๆ ที่ดูเหมือนจะมีแต่ความทุกข์แผ่ออกมารอบกาย กลายเป็นว่าเธอเริ่มสดใส ยิ้มง่าย และมักสร้างเสียงหัวเราะให้เขาเสมอ
อีกอย่างที่เด็ดที่สุดคือเธอแสบมาก มักจะชอบสรรหาเรื่องพิเรนทร์ๆ ทำอยู่ตลอดจนกรปวดหัวไม่จบไม่สิ้น จากที่อยากได้เพื่อนเงียบๆ ที่ดูไม่วุ่นวาย กลายเป็นว่าเขาได้ตัวป่วนมาแทนซะอย่างนั้น แต่ทำไงได้ ในเมื่อเผลอตกหลุมรักตัวตนของหญิงสาวไปแล้ว
ใช่...กรวีแอบรักเพื่อนสนิทคนนี้มาโดยตลอด เขาเองก็ไม่รู้ตัวว่ามันเกิดขึ้นตั้งแต่เมื่อไหร่ มารู้อีกทีก็ตอนที่ต้องแยกย้ายกันไปเติบโตในวัยมหาลัย
อลิสต้องการจะเรียนจิตวิทยาเพื่อเป็นนักบำบัด ในขณะที่เขานั้นอยากเป็นนักบิน แต่ด้วยความรู้สึกที่ไม่อยากแยกจาก ไม่อยากให้เพื่อนสนิทคนนี้ต้องห่างสายตา ต้องการมองเห็นรอยยิ้มของเธออยู่ตลอดเวลา เขาจึงตัดสินใจทิ้งความฝันของตนเองและเดินตามเส้นทางที่มีเธออยู่ด้วย คือการตามเธอไปเรียนจิตวิทยา และจบมาเป็นนักบำบัดที่ได้ทำงานที่เดียวกับเธอ
“แกกำลังจะทำอะไร?” กรยิงคำถามใส่ยัยตัวแสบด้วยความไม่ไว้ใจ
“เดี๋ยวมา” อลิสไม่ตอบคำถาม แต่เธอกลับเดินเข้าไปหากลุ่มผู้ช่วยพยาบาลแทน “อยากเห็นหน้าเขาไหมล่ะ เดี๋ยวเราไปถ่ายมาให้เอง”
สายตาหวานแสดงความกรุ้มกริ่มอย่างคนเจ้าแผนการ ประโยคเมื่อครู่ที่เธอพูดออกมาทำให้กลุ่มสาวๆ พากันตื่นเต้นและดูตกตะลึงเป็นอย่างมาก
“จริงเหรอคะ? อยากเห็นสิอยากเห็น” หนึ่งในสาวๆ ในกลุ่มตอบอย่างระริกระรี้
“ว่าแต่คุณอลิสจะไปถ่ายมายังไงเหรอคะ?” แต่ก็ยังมีคนสงสัยในสิ่งที่เธอเอ่ย
“ขอเวลาไม่เกินสามเดือน ถ้าไม่มีรูปมาให้ชมเรียกอีแทนคุณได้เลยค่ะ” รอยยิ้มแห่งความมั่นใจระบายขึ้นบนกลีบปากอิ่ม ซึ่งแต่งแต้มด้วยลิปกลอสสีชมพูฉ่ำหวาน
“แหม...คุณอลิสดูมั่นใจจังเลยนะคะ”
“ฉันมั่นใจในทุกเรื่องแหละค่ะ เดี๋ยวไว้รอชมกันนะคะ” พูดจบเธอก็เดินกลับมาที่โต๊ะซึ่งมีกรวีนั่งทำหน้าตึงรออยู่
“แกหาเรื่องพิเรนทร์อะไรทำอีกแล้วเนี่ย?” กรถามด้วยน้ำเสียงเหนื่อยใจ
เมื่อไหร่เขาจะหมดเคราะห์หมดกรรม ไม่ต้องมานั่งเครียดกับสิ่งที่ผู้หญิงคนนี้ทำกันนะ ทุกวันนี้ไมเกรนแทบจะกินกบาลเขาเสียให้ได้ แต่ทำไงได้ก็ในเมื่อมันรักเธอไปเสียแล้ว คงทำได้แค่ต้องปลง ปล่อยวาง และคอยแก้ปัญหาให้เธออยู่ข้างๆ แบบที่ผ่านมานั่นแหละ
“ฉันจะไปเป็นนักบำบัดให้หลานชายคุณนายหวัง” อลิสตอบอย่างฉะฉาน
“ห๊ะ? เพื่ออะไร? แกก็รู้ว่ามันไม่มีประโยชน์เสียเวลาเปล่าๆ หรือว่าแกต้องการเงิน?” กรวีตกใจไม่น้อยในคำตอบ
“เปล่า แกเห็นฉันขัดสนขนาดนั้นเลยหรือไงห๊ะ” แก้มเนียนอมชมพูป่องออกเล็กน้อย ปากจิ้มลิ้มคว่ำลงอย่างนอยด์เพื่อนสนิทที่เข้าใจเธอผิด
“อ้าว ถ้าไม่ใช่เรื่องเงินแล้วเพราะอะไร?”
“ฉันว่ามันท้าทายดี อยากลองน่ะ”
“เหตุผลอะไรของแกวะเนี่ย?” กรเริ่มรู้สึกหัวเสียกับความพิเรนทร์ของเพื่อนสาว
“ก็ฉันอยากเห็นหน้านายคุณชายอะไรนั่นน่ะ อีกอย่างสาวๆ ก็อยากเห็นเหมือนกัน ก็ถือว่าทำเพื่อพวกเธอละกันนะ”
“เฮ้อ...”
“ไม่เห็นเป็นอะไรเลย รักษาไม่ได้ก็ถือว่าไปเที่ยวเล่น ได้ทั้งเงินได้ทั้งพักผ่อน แถมยังไขข้อข้องใจให้สาวๆ ด้วย เนอะกรเนอะ อย่าห้ามฉันเลยนะเพื่อนรัก” ร่างบางเดินเข้าไปย่อตัวนั่งยองๆ ลงข้างๆ เก้าอี้ของเพื่อนสนิท ก่อนจะวางมือทั้งสองข้างลงบนลำแขนแกร่งของชายหนุ่ม พร้อมทำใบหน้าออดอ้อนอย่างเด็กน้อยร้องขอขนมหวาน
“ตามใจแกละกัน คิดว่าอยู่ได้โดยไม่มีฉันคอยแก้ปัญหาให้ก็ไป ตามสบายเลย” ไม่มีครั้งไหนที่กรวีจะไม่ตามใจอลิชา แม้ทุกครั้งเขาจะห้ามหรือมีความเห็นย้อนแย้ง แต่ก็ทุกครั้งอีกนั่นแหละที่เขาต้องแพ้ให้กับลูกอ้อนของหญิงสาว
ทำไงได้...ก็คนมันรัก
.
.
ซ้อมเรียก E รอเลยได้เม๊าะ?
