ตอนที่ 9 ล่อลวง
ท้องฟ้าสดใสยามเช้า อากาศเย็นสบายภายในสวนหน้าบ้านที่ถูกตกแต่งสวยงาม คู่สามีภรรยาออกมานั่งเล่นที่สวน โตนนท์วาดรูปดอกไม้ โดยมีปรายฟ้านั่งปอกผลไม้อยู่ไม่ห่าง
“ทานแอปเปิ้ลหน่อยนะคะ”หญิงสาวป้อนผลไม้ให้สามี
“อร่อยดีนะ”เขายิ้มหวานให้ภรรยา สักพักเสียงโทรศัพท์ของปรายฟ้าก็ดังขึ้นชื่อสมรแม่เลี้ยงของเธอ หญิงสาวดูหน้าจอโทรศัพท์เครียดๆไม่ยอมกดรับสายจนโตนนท์สงสัย
“ใครโทรมา”
“ป้าสมรคะ”หญิงสาวตอบสีหน้าซีด
“ไม่ต้องรับ ตัดสายทิ้งไป”โตนนท์ออกคำสั่งเพราะไม่ชอบที่สมรมาคอยตามราวีภรรยาให้เธอไม่สบายใจอยู่เรื่อย
“ค่ะ”ปรายฟ้ากดตัดสายทิ้งแล้วปิดเครื่องหนีทันที หญิงสาวหน้าตาทุกข์ใจอย่างเห็นได้ชัด
“คงไม่มีอะไรหรอก เขาคงจะโทรมาแค่ขอเงิน”โตนนท์ปลอบเมื่อเห็นภรรยาสีหน้าไม่ค่อยดี ปรายฟ้าพยักหน้ารับเรื่องที่จะทำให้สมรโทรมาหาเธอก็แค่เรื่องเงินจริงๆ
“คุณปรายคะ คุณปราย”สาวใช้เรียกเสียงดังวิ่งมาหน้าตาตื่นมาที่สนามหญ้า
“จ๊ะแจ๋ม มีอะไร”ปรายฟ้ากับโตนนท์มองคนรับใช้อย่างสงสัย
“คุณหญิงให้มาบอกว่า ทางบ้านโทรมาว่าปู่คุณปรายอาการหนักมากแล้วก็อยากเจอคุณปรายค่ะ”
“ปู่”หญิงสาวเสียงหลงหน้าซีดตัวสั่น ใจเสียหันไปมองหน้าโตนนท์แล้วรีบเข้าบ้านเพื่อไปแต่งตัวทันที
“ชมพาคุณปรายไปส่งที่บ้านสวนแล้วรอรับกลับมาด้วย อย่าปล่อยให้คาดสายตาเด็ดขาดฉันไม่ไว้ใจคนบ้านนั้น”เปรมจิตสั่งคนขับรถให้เตรียมพาปรายฟ้าไปที่บ้านสวน
“ครับคุณหญิง”คนขับรถตอบรับ
“มีอะไรครับแม่”เตชินเอ่ยถามเมื่อเห็นแม่สั่งคนขับรถสีหน้าเครียด
“ที่บ้านปรายโทรมาหาแต่เช้าว่าปู่อาการหนัก อยากเจอปรายอาจจะเป็นครั้งสุดท้าย”
“อ๋อ ผมเห็นคุยกับลุงชมหน้าเครียดคิดว่ามีเรื่องอะไรซะอีก”ชายหนุ่มอมยิ้มแค่สะใภ้จะกลับบ้านทำเหมือนเป็นเรื่องใหญ่โต
“เครียดสิ แม่ไม่อยากให้ปรายไปที่นั่นแม่อยากให้มีคนตามไปด้วยอีกสักคนด้วยจะได้ช่วยกันดูแล”
“ต้องดูแลกันขนาดนั้นเลย กลัวลูกสะใภ้จะหนีเหรอแม่”เตชินยังแซวเล่นที่แม่ห่วงลูกสะใภ้ออกนอกหน้าเกินไป
“ไม่ได้กลัวหนี แต่กลัวหายเพราะโดนจับไปขายต่างหาก” เปรมจิตบ่นต่อหน้าเครียดกังวล
“จับไปขายนี่คนหรือหมูเนี้ย”
“ทำเป็นเล่นไป สมรเคยเอาปรายไปขายให้เสี่ยมาแล้วนะแต่ตอนนั้นปรายหนีมาที่บ้านพี่อุ่น นนท์เห็นแล้วสงสารก็เลยช่วยไว้ทางเราให้เงินไปก็เล่นการพนันจนหมด แล้วก็มาหลอกเอาปรายไปขายตัวอีกทำแบบนี้มาหลายครั้งจนนนท์ทนไม่ได้เขารักและเป็นห่วงปรายมากเลยแต่งงานให้สินสอดก้อนใหญ่แล้วพาย้ายมาอยู่ที่นี่”เปรมจิตเล่าหน้าเครียดสงสารสะใภ้ เตชินเมื่อได้ฟังก็นิ่งเงียบครุ่นคิดถึงคำที่ปรายฟ้าเคยบอกกับเขา
*ที่แต่งงานเพื่อประชดพี่เหรอ*
*ไม่ใช่ปรายแต่งเพราะพี่นนท์เป็นคนดีและรักปราย พี่นนท์ช่วยเหลือทุกอย่างในขณะที่พี่ไปมีความสุขกับคนอื่น*ชายหนุ่มตกอยู่ในภวังค์แล้วคิดตามที่เธอเคยบอกไว้
“อ้าว แต่งตัวไวจริงเป็นห่วงปู่สินะ”เปรมจิตทักเมื่อเห็นปรายฟ้าเดินมา
“ค่ะคุณหญิง”
“งั้นก็รีบไปเถอะ ระวังตัวด้วย”เปรมจิตกำชับให้เธอระวังตัว
“ระวังตัวด้วยนะ ผิดสังเกตอะไรก็โทรหาพี่ได้ตลอด”โตนนท์มองด้วยความเป็นห่วงเขาไม่อยากให้เธอต้องไปเหยียบที่บ้านนั้นอีกกลัวจะโดนหลอกไปขาย
“ค่ะพี่นนท์”ปรายฟ้ารับคำ ยกมือไหว้ทุกคนแล้วรีบขึ้นรถไปเตชินมองตาจนสุดตาสักพักก่อนจะขอตัวขับรถไปทำงาน เมื่อขับรถออกมาจากบ้านเขาก็ไม่ได้ขับไปที่บริษัทแต่ไปอีกทางตั้งใจจะไปบ้านสวนด้วยใจที่ร้อนรนเป็นห่วงปรายฟ้า
“ยกเลิกนัดทั้งหมดด้วย วันนี้ผมไม่เข้า”เสียงเข้มโทรสั่งกับเลขาแล้วมุ่งหน้าไปบ้านสวนด้วยความเร็วสูง ไม่ถึงชั่วโมงเขาก็มาถึงบ้านสวนของป้าอุ่น บ้านที่ตอนเด็กๆ จนถึงวัยรุ่นเขาจะมาทุกครั้งที่ปิดภาคเรียนอยู่เป็นเดือนๆ จนกว่าจะเปิดภาคเรียนใหม่ ช่วงที่มาอยู่บ้านสวนเพื่อนเล่นสนิทที่สุดของเขาก็คือปรายฟ้า เพื่อนที่อายุต่างกันเกือบหกปีแต่ความซนลุยไหนลุยกันจึงทำให้สนิทเที่ยวเล่นสนุกด้วยกันตั้งแต่เช้ายันเย็น บ้านไม้ทรงไทยริมน้ำที่เขาคุ้นเคยยังคงร่มรื่น น่าอยู่เหมือนเดิม มีเพียงอย่างเดียวที่ไม่เหมือนเดิมคือเพื่อนสนิทของเขา ตอนนี้เธอไม่ใช่เด็กน้อยที่จะได้อยู่ใกล้กันอีกแล้วเพราะเธอกลายเป็นคนมีเจ้าของที่เขาไม่อาจจะเอาเธอมาครอบครองได้ดั่งใจต้องการ
“จำทางมาบ้านนี้ถูกด้วยเหรอเต”ป้าอุ่นหยอกเมื่อเห็นชายหนุ่มยืนชมบรรยากาศอยู่หน้าบ้าน
“สวัสดีครับ ป้าอุ่นก็พูดไปผมจะจำบ้านที่อบอุ่นของผมไม่ได้ๆยังไงล่ะครับ”
“คุณเตโตขึ้นหล่อมากเลยนะคะ เมื่อก่อนว่าหล่อแล้วตอนนี้หล่อขึ้นกว่าเดิมอีก น่าอิจฉาแฟนคุณเตจังที่มีแฟนทั้งหล่อทั้งรวยแบบนี้”มาลัยเขินบิดตัวไปมาเด็กสาววัยสิบเก้า ชื่นชมเตชินมากตั้งแต่ตอนที่เธอยังเป็นเด็กเล็กจนเป็นสาวสวยเธอก็ยังฝันที่จะได้พบเจอกับเขาอีกสักครั้งหลังจากที่หายหน้าไปเกือบสี่ปี มาลัยเฝ้าคิดถึงชายในฝันอยู่ตลอดเวลา
“พูดเยอะจริงมาลัย หาน้ำมาให้คุณเตดื่มแก้กระหายหน่อยไป”ป้าอุ่นเอ็ดทำหน้าดุ ด้านเตชินอมยิ้มขำมาลัยที่ทำท่าทางเหนียมอายจนเดินชนกระถางต้นไม้
“ดูสิอายุแค่นี้แก่แดดจริงๆ”ป้าอุ่นบ่นมาลัยตามหลังไปอีก เตชินยิ้มน้อยๆแล้วเดินไปนั่งที่ศาลาริมน้ำซึมซับบรรยากาศเดิมที่แสนจะมีความสุข ป้าอุ่นก็ตามมานั่งคุยถามสาระทุกสุขดิบไปเรื่อยจนเวลาผ่านไปครึ่งค่อนวัน ชายหนุ่มคอยไลน์ถามความคืบหน้าจากลุงชมว่าที่บ้านของปรายมีอะไรผิดปกติหรือไม่เป็นระยะๆ
ณ บ้านเปี๊ยกพ่อของปรายฟ้า หญิงสาวเข้าไปดูอาการปู่ที่อาการย่ำแย่ มือเหี่ยวของชายชราลูบใบหน้าหวานอย่างเบามือ
“ปู่จ๋า”ร่างบางน้ำตาคลอเสียงสั่นเมื่อปู่มองมา
“ปู่คิดว่าจะไม่ได้เห็นเอ็งอีกแล้ว ปรายเอ๊ยเป็นยังไงบ้างลูก”
“สบายดีจ้ะ ปรายขอโทษที่ไม่ได้ดูแลปู่เลย”เสียงหวานสั่นเครือน้ำตาคลอ
“ไม่ใช่ความผิดของเอ็ง แคร่ก ๆ”ชายชราพูดแล้วก็ไอหอบเหนื่อยตลอดเวลา
“ปู่ไหวไหมไปโรงพยาบาลกันนะ”ปรายฟ้าร้อนรนอยากจะพาไปโรงพยาบาล
“ไม่ไปข้าไม่ชอบหมอ เอ็งรีบกลับเถอะแค่ได้เห็นว่าเอ็งยังสบายดีปู่ก็เบาใจ”ชายชราบ่ายเบี่ยงไม่ยอมไปโรงพยาบาล
“ปรายอยากอยู่ดูแลปู่ก่อน”
“อย่าเลย รีบกลับไปเถอะ”ปู่เอ่ยปากไล่เพราะเป็นห่วง
“คุณหญิงส่งคนมาอยู่เป็นเพื่อนไม่น่าจะมีอะไร ให้ปรายได้ดูแลป้อนข้าวให้ปู่สักนิดก็ยังดีแล้วค่อยกลับ”ปรายฟ้าหันไปมองลุงชมที่นั่งรออยู่หน้าประตูห้องอย่างน้อยก็มีคนอยู่ด้วยทำให้พออุ่นใจบ้าง เธอจึงอยากดูแลปู่สักหน่อยก่อนกลับ ผ่านไปหลายชั่วโมงปรายฟ้าดูแลป้อนข้าวป้อนน้ำเสร็จก็พูดคุยเป็นเพื่อนปู่จนท่านหลับไป เธอเก็บของภายในห้องที่รกและเต็มไปด้วยฝุ่นหนาทำเพลินจนลืมดูเวลา
ด้านเตชินที่นั่งคุยจนเคลิ้มหลับตรงศาลาริมน้ำที่ประจำของเขา เมื่อรู้สึกตัวก็บ่ายแก่ๆ แล้ว เขามองซ้ายขวาก่อนจะลุกขึ้นเพื่อไปล้างหน้าล้างตา ยังไม่ทันจะก้าวขาขึ้นบันไดเขาก็เห็นรถเบนซ์วิ่งตัดผ่านถนนของบ้านป้าอุ่นสายตาคมมองตามไปจนสุดตา ก่อนที่จะขึ้นมาบนบ้านทรงไทยแล้วเจอกับมาลัย
“คนแถวนี้รวยขึ้นเยอะเลยนะ เขาขายที่ได้เหรอ”ชายหนุ่มถามลอยๆ แปลกใจเพราะคนแถวนี้มักอยู่กันแบบสมถะไม่ค่อยมีคนที่รวยอู้ฟู่
“คนแถวนี้ไม่มีคนรวยหรอกค่ะ”มาลัยทำหน้างง แล้วตอบตามจริง
“แต่เมื่อกี้เห็นรถเบนซ์ขับเข้าไปในสวนฝั่งโน่นนะ”
“อ๋อ คงจะเป็นรถพวกเสี่ยๆหรือไม่ก็เสี่ยเกษมแกชอบมาบ้านโน้นบ่อยๆ”
“เสี่ยเกษม”เตชินเน้นย้ำ ใบหน้าหล่อเข้มเคร่งขรึมคิ้วหนาขมวดเข้าหากัน
“ใช่ค่ะ เจ้าของอู่ซ่อมรถรวยมากๆ ชอบขับรถผ่านมาทางนี้ไปบ้านตาเปี๊ยกค่ะ”เด็กสาวพูดเจื้อยแจ้ว
“เขามีธุระอะไรกันถึงต้องมาบ่อยๆ”
“ค้าขายค่ะ แต่ขายเนื้อหนังมังสานะคะ”มาลัยลอยหน้าลอยตาพูดแล้วก็อมยิ้มกลั้นขำ
“มาลัยพูดมากจริง”ป้าอุ่นเดินมาจากด้านหลังพอได้ยินที่มาลัยพูดเลยดุใส่
“ก็จริงนี่ค่ะ ใครๆเขาก็รู้ว่าบ้านนั้นเขาขายอะไร”เด็กสาวยังจะพูดต่อทำท่างอน ส่วนเตชินเมื่อได้ฟังก็เริ่มตงิดใจก่อนที่จะวิ่งลงไปที่รถรีบขับเข้าไปสวนบ้านของตาเปี๊ยกด้วยความเป็นห่วงปรายฟ้า
ณ บ้านเปี๊ยก ปรายฟ้าทำความสะอาดเสร็จก็เห็นลุงชมนั่งหลับพิงประตูอยู่จึงเข้าไปเรียก
“ลุงชมตื่นได้แล้ว ปรายจะกลับแล้ว ลุงชม”หญิงสาวเรียกซ้ำเมื่อเขย่าตัวและเรียกแต่ลุงชมก็ยังนั่งอยู่ท่าเดิม
“ลุงชม ตื่นเถอะค่ะลุง”เธอเขย่าตัวแรงขึ้นจนร่างลุงชมเอนไปทางซ้ายมือหน้าคว่ำติดพื้นก็ไม่ทำให้รู้สึกตัว ปรายฟ้าหน้าเสียเริ่มใจไม่ดีระแวงว่าจะเกิดอะไรขึ้น หญิงสาวตัวสั่นเทาแล้วก็ต้องสะดุ้งสุดตัวเมื่อมีมือหนามาปิดปากและโอบรัดเธอจากด้านหลัง
“ช่วยด้วย ปล่อย ช่วยด้วย“เสียงอู้อี้พยายามจะร้องขอความช่วยเหลือ ร่างบางดิ้นกระเสือกกระสนหนีเอาตัวรอดแต่ก็ไม่อาจพ้นวงแขนแกร่งได้ เธอโดนฉุดกระชากดึงแรงๆเพื่อให้เดินไปตามทางจนมาถึงที่ห้องสมรก็โดนผลักลงพื้นอย่างแรงจนก้นกระแทก
“เสี่ย”สายตาหวานเบิกกว้าง หวาดกลัวมองหาทางหนีในห้องก็ถูกปิดหมด
