ตอนที่ 8 อ้อมกอดที่หายไป
ตกบ่าย หลังจากลงทะเบียนเรียนที่มหาวิทยาลัยเสร็จ ปรายฟ้าก็ให้ลุงชมไปส่งที่บริษัทเพื่อนำเอกสารไปให้กับเตชิน
“สวัสดีค่ะเอาเอกสารมาให้คุณเตค่ะ”ปรายฟ้าแจ้งกับพนักงานประชาสัมพันธ์ของบริษัท
“นัดไว้หรือเปล่าคะ”พนักงานถามกลับ
“เปล่าค่ะ”
“ถ้าไม่ได้นัดไว้ ให้เข้าพบไม่ได้ค่ะ”
“แต่นี่เป็นเอกสารที่คุณเตต้องใช้วันนี้นะคะ หนูแค่เอาให้คุณเตแป๊บเดียวเอง”ปรายฟ้าตื้อแค่ไม่กี่นาทีเอาเอกสารให้เสร็จแล้วก็จะกลับ
“ไม่ได้จริงๆค่ะ ต้องทำตามกฎถ้าอยากเข้าพบก็ต้องทำเรื่องนัดไว้ล่วงหน้าค่ะ”พนักงานค้านไม่ยอมท่าเดียว ปรายฟ้าถอนหายใจจะโทรไปหาเตชินก็ไม่มีเบอร์เขา ไลน์ก็ไม่มีได้แต่ยืนทำหน้าเซ็งตรงหน้าเคาน์เตอร์คิดไม่ออกว่าจะเอายังไงดี
“มาทำอะไร”เตชินเอ่ยถามเมื่อเห็นปรายฟ้ายืนงงๆอยู่ เขาเดินมากับลูกค้ารายใหญ่ที่มาประชุมงาน เขาถามทั้งๆที่ก็รู้ว่าเธอต้องมาเพราะตั้งใจที่จะลืมเอกสารไว้เพื่อให้เธอนำมันมาให้
“คุณหญิงฝากเอกสารมาให้คุณเตค่ะ”ปรายฟ้ายิ้มหวานดีใจที่เจอเขา รอยยิ้มนั้นทำให้ชายหนุ่มใจละลายเผลอมองเธอแล้วยิ้มให้พอนึกขึ้นได้ก็ทำเป็นขรึมใส่เธอเหมือนเดิม
“อืม ไปรอที่ห้องก่อนคุยธุระเสร็จแล้วจะตามไป” ชายหนุ่มพยักหน้ากับพนักงานอนุญาตให้ปรายฟ้าเข้าไปในห้องทำงานของเขา แล้วหันไปคุยงานกับลูกค้าต่อ
“เป็นใครเหรอคะ ไม่ได้นัดไว้ยังให้เข้าไปนั่งรอในห้องทำงานอีก”พนักงานต้อนรับถามเลขาของเตชินด้วยความสงสัย
“นั่นคุณปรายฟ้า น้องสะใภ้คุณเต”เลขาตอบ
“จริงเหรอคะ ยังเรียนหนังสืออยู่เลยทำไมแต่งงานเร็วจัง”พนักงานสามคนหันไปซุบซิบกัน
“แหม จะอะไรอีกล่ะก็รวยไงจ๊ะ เงินซื้อได้ทุกอย่าง”
“จริงสินะ คุณนนท์ขี้โรคแต่ได้เมียสวยขนาดนี้ ไม่ใช่เพราะรวยแล้วจะอะไร ฮ่าๆๆ”พนักงานหัวเราะเม้าท์กันสนุกปาก
“คุณณี แจ้ง HR ให้หาพนักงานต้อนรับใหม่ด่วน แล้วเชิญคนเก่าให้ออกไปด้วย”เตชินเดินมาที่เคาน์เตอร์เอ่ยเสียงเข้มสีหน้าบึ้งตึง
“ห๊า คุณเตพวกเราทำอะไรผิดคะ”พนักงานทั้งสามหน้าเหลอหลา
“ที่พวกคุณนินทาคือสะใภ้ของเจ้าของบริษัท และเธอก็เป็นน้องสะใภ้ของผมพวกคุณยังกล้านินทาแล้วประสาอะไรกับแขกที่มาติดต่อบริษัท คุณเป็นพนักงานต้อนรับต้องให้เกียรติทุกคนที่เข้ามาที่นี่ไม่ใช่มานั่งนินทาแบบนี้ ผมถือว่าพวกคุณทำผิดขั้นร้ายแรงและยืนยันคำเดิมว่า ไล่ออก”ชายหนุ่มต่อว่าเสร็จก็เดินจากไป
“พี่ณีช่วยด้วยนะ พี่”พนักงานต้อนรับรีบขอความช่วยเหลือ ณีพยักหน้ารับอย่างไม่มั่นใจรีบวิ่งตามไปเพื่อขอร้องแทนพนักงาน
“คุณเตคะ ช่วยพิจารณาอีกสักครั้งเถอะค่ะ”
“ผมคิดดีแล้ว จัดการให้เรียบร้อยภายในวันนี้ พรุ่งนี้ผมต้องไม่เจอพวกเธออีก”ชายหนุ่มเสียงเข้มสีหน้าเคร่งขรึมจริงจัง
“แต่ว่า”ณีจะขอร้องอีกครั้ง
“อยากออกไปกับพวกเธอด้วยไหม”
“เปล่าค่ะ”ณีหลบตาเสียงอ่อน สงสารพวกพนักงานแต่ก็ช่วยอะไรไม่ได้ดันปากเสียไปว่าน้องสะใภ้เจ้านาย เกือบทำเธอซวยไปด้วยอีก
เตชินเดินหงุดหงิดมาเปิดประตูห้องทำงานเสียงประตูเปิดทำให้ปรายฟ้าที่มองวิวชมตึกสูงหันขวับมามองทันที
“ไหนล่ะเอกสาร”
“นี่ค่ะ”หญิงสาวเดินมายื่นซองเอกสารให้
“ถ้าต้องฝึกงานก็มาฝึกเป็นเลขาที่นี่นะ”ชายหนุ่มรับเอกสารแล้วเดินไปนั่งเอนกายอยู่ที่โซฟากว้าง
“ปรายเรียนสถาปัตย์ คงไม่เหมาะกับการเป็นเลขาหรอกค่ะ เสร็จธุระแล้วขอตัวกลับนะคะ สวัสดีค่ะ”ปรายฟ้ารีบพูดตัดบทไม่อยากอยู่กับเขา
“เดี๋ยวสิ มาตั้งไกลมานั่งคุยทานอาหารว่างด้วยกันก่อน”
“ไม่ดีกว่าค่ะ ปรายเป็นห่วงพี่นนท์”
“เป็นห่วงอะไรนักหนา มันไม่ตายวันนี้หรอก ปรายอย่าเดินหนีฉันนะ”ชายหนุ่มน้ำเสียงเข้มขึ้นโมโหที่เธอสนใจโตนนท์มากกว่าแล้วยังจะมาเดินหนีไม่สนใจที่เขาพูดอีก ร่างแกร่งรีบวิ่งไปขวางประตู ปรายฟ้าเลี่ยงแล้วเบี่ยงแขนออกเมื่อเขาเอื้อมมาจะจับเรียวแขนเธอเดินถอยหลังให้ห่างจากเขาที่ตอนนี้แววตาร้ายกำลังค่อยๆเดินเข้ามาใกล้เรื่อยๆ
“ปรายจะกลับบ้าน”ร่างบางเสียงสั่นกลัวชายหนุ่มที่ดูเกรงขามตรงหน้า เธอยังเดินถอยหลังไปเรื่อยๆจนชนเข้ากับโต๊ะทำงานร่างบางตกใจ ในนาทีนั้นร่างแกร่งก็วิ่งเข้ามารวบตัวเธอไว้แน่น
“ปล่อยนะพี่เต ปล่อย”หญิงสาวพยายามดิ้นให้หลุดออกจากอ้อมกอดแต่เขาก็ไม่ยอมกอดรัดแน่นขึ้นจนเธอเริ่มหมดแรง
“อย่าดื้อสิจะได้ปล่อย”เมื่อร่างบางยังดิ้นเขาจึงยื่นข้อเสนอ จนเธอนิ่งลงร่างแกร่งทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ทำงานที่อยู่ใกล้ๆส่วนร่างบางนั่งอยู่บนตักแกร่ง ใบหน้าหล่อซบลงที่หลังบอบบางวงแขนแกร่งกอดรัดกายสาวไว้แน่นหญิงสาวรู้สึกแปลกที่เขากอดเธอไว้แบบนี้พลางคิดไปถึงอดีตที่เคยไปนั่งเล่นดูหิ่งห้อยริมน้ำกับเขา สองร่างกอดกันอยู่ภายใต้ผ้าห่มผืนเดียวคลอเคลียอิงซบส่งยิ้มให้กันอย่างหวานซึ้ง เมื่อนึกถึงภาพเก่าๆที่มันไม่มีทางเป็นไปได้เธอปล่อยให้น้ำตาร่วงลงแก้มเนียนโดยไม่รู้สึกตัวหยดน้ำตาหยดลงแขนแกร่งที่โอบกอดเธอไว้ทำให้เขาสะดุ้ง
“เป็นอะไร”เตชินคลายแขนแกร่งออกเพื่อจะจับร่างบางให้หันมอง
“ไม่ได้เป็นอะไร”ปรายฟ้าได้จังหวะก็รีบลุกขึ้นหนีเขาพร้อมกับปาดน้ำตา เตชินเดินตามจับให้เธอหันหน้ามาหาก็เห็นว่าร้องไห้ตาแดงช้ำ
“ร้องไห้ทำไม พี่ถามว่าร้องไห้ทำไม”เขาเค้นถามด้วยความรู้สึกที่หลากหลาย
“ไม่ได้เป็นอะไรทั้งนั้น ปรายอยากกลับบ้านให้ปรายกลับสักทีนะคะ”
“ไม่ ถ้าไม่บอกพี่ว่าร้องไห้ทำไมพี่ก็ไม่ยอมให้กลับ บอกพี่สิคนดีว่าร้องไห้ทำไม”มือหน้าทาบลงที่ใบหน้าหวานอย่างอ่อนโยนเรียวนิ้วแกร่งปาดซับน้ำตาแววตาทั้งคู่จ้องกันหวานซึ้ง ใบหน้าคมโน้มเข้าใกล้ใบหน้าหวาน ริมฝีปากสัมผัสกันก่อนที่ปรายฟ้าจะผลักเขาอย่างแรงด้วยแววตาที่สับสนแล้วจะวิ่งหนี
“คิดถึงตอนที่เราดูหิ่งห้อยด้วยกันใช่ไหม”ชายหนุ่มตะโกนตามหลัง
“...”หญิงสาวชะงักเท้ายืนนิ่งใจสั่นที่เขารู้ว่าเธอคิดอะไร
“วันที่เราตกลงคบกัน วันที่เราได้เสียกัน”ชายหนุ่มพูดต่ออยากจะย้ำความสัมพันธ์
“หยุดพูดเรื่องเก่าสักที”ปรายฟ้าเสียงดังขัดขึ้นไม่อยากให้เขาพูดต่อ
“ปรายไม่เคยรักไอ้นนท์ ปรายรักพี่”
“รักหรือไม่รักมันไม่สำคัญ ที่สำคัญคือตอนนี้ปรายเป็นเมียพี่นนท์เป็นน้องสะใภ้ของพี่เต”หญิงสาวตวาดกลับเสียงดังน้ำตาคลอเมื่อต้องพูดถึงสถานะของตัวเอง
“ถ้ามันไม่แย่งไป ปรายก็ต้องเป็นของพี่”ชายหนุ่มตะโกนเสียงแข็งจ้องตาเขม็ง
“พี่นนท์ไม่ได้แย่งเขาก็แค่เก็บของเก่าที่พี่ทิ้งแล้วมาใช้ต่อ”หญิงสาวมองหน้าเขาแววตาปวดร้าวเสียงสั่นเครือเมื่อต้องพูดความรู้สึกของคนที่โดนเขาเขี่ยทิ้ง
“พี่ไม่ได้ทิ้ง พี่....”เขาไม่รู้จะพูดยังไงต่อ ที่เขาต้องไปจากเธอมันเป็นเพราะครอบครัวบีบคั้นไม่ใช่ว่าอยากจะทิ้ง แต่เขาก็มีส่วนผิดที่จากไปโดยไม่บอกเหตุผลอะไรกับเธอเลย ทำให้เธอเสียใจคิดว่าเขาไม่ได้รัก
“สวัสดีค่ะ พี่สามี”ปรายฟ้าไม่อยากฟังคำพูดของเขาและอยากไปให้พ้นจากสภาพที่น่าอึดอัดนี้ จึงยกมือไหว้แล้วรีบออกไปจากห้องทันทีน้ำตายังคงไหลรินหญิงสาวนั่งทรุดตัวร้องไห้โฮตรงบันไดหนีไฟอยากระบายความเสียใจให้หมดก่อนที่จะกลับไปหาสามี
“พี่ขอโทษ”ด้านเตชินยืนหน้าเครียด เสียงแผ่วเบาไม่ได้ทำให้คนที่เดินจากไปได้ยิน เขานั่งทบทวนถึงสิ่งที่ทำมือหนาลูบใบหน้าคมอย่างแรงเมื่อสี่ปีก่อนเขาทำอะไรลงไป เขาอยากจะปกป้องเธอแต่กลายเป็นว่าเขาคิดผิดไปถนัด เขาปล่อยเธอไว้แล้วทำให้เรื่องทุกอย่างมันแย่และสายเกินที่จะกลับมารักกันได้เหมือนเดิม
ณ คฤหาสน์หรู ไพศาล
โตนนท์รอภรรยากลับมาด้วยความกระวนกระวายใจ กังวลไปทุกเรื่องแต่ก็ไม่อยากโทรไปตามกลัวว่าปรายฟ้าจะไม่พอใจที่ตนไม่ไว้ใจเธอ จนเมื่อเสียงรถแล่นเข้ามาหน้าบ้านก็รีบชะเง้อมอง
“ปรายกลับมาช้าจัง รู้ไหมว่าพี่เป็นห่วง”โตนนท์เอ่ยถามทันทีที่เห็นปรายฟ้าลงมาจากรถ
“ขอโทษค่ะ รถติดมากเลยถึงช้า”
“ไปที่บริษัทมาเป็นยังไงบ้าง”
“ก็เอาเอกสารไปให้คุณเตแล้วก็กลับเลยค่ะ”หญิงสาวตอบปกติไม่แสดงอาการอะไร
“แค่นั้นเหรอ”ชายหนุ่มยังสงสัย
“ทำไมถามอย่างนั้นล่ะคะ มีอะไรหรือเปล่า”เธอถามกลับน้ำเสียงเรียบนิ่งรู้ว่าสามีหึงหวงเลยไม่อยากพูดอะไรมาก
“เปล่าๆ ทานข้าวมาหรือยังพี่ให้แม่บ้านจัดอาหารให้เลยดีไหม”โตนนท์ไม่กล้าถามต่อทั้งที่ยังคาใจแต่กลัวภรรยาจะโกรธ
“ดีค่ะ แต่เดี๋ยวปรายขอไปอาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนนะคะ”หญิงสาวส่งยิ้มหวานให้สามี โตนนท์พยักหน้ารับแล้วมองตามภรรยาอย่างหวาดระแวงคิดไปต่างๆ นานา ว่าพี่ชายจะมาแย่งภรรยาของเขาไป
ด้านปรายฟ้าอาบน้ำระหว่างที่สายน้ำไหลจากฝักบัว หญิงสาวหลับตาลงคิดถึงรอยจูบเมื่อคืนก่อนที่เร่าร้อนและอ้อมกอดอุ่นที่หายไปได้กลับเยือนเธออีกครั้ง สัมผัสอบอุ่นจากเขาที่เธอโหยหามานานหลายปีได้กลับมาแต่ก็ได้แค่นั้นเพราะเธอกับเขาไม่สมควรที่จะกอดกันแบบนั้นอีกแล้ว เธอต้องทำใจออกห่างจากเขาทั้งที่ใจอยากจะเข้าไปกอดแทบขาดใจ
