ตอนที่ 7 ทำให้ด้วยสิ
วันนั้นทั้งวันปรายฟ้ากับแพรพรรณต้องดูแลโตนนท์อย่างใกล้ชิดจนตกดึก ส่วนแพรพรรณดูแลเรื่องอุปกรณ์แพทย์ให้ตามปกติ
“ปรายพี่อยากดื่มนมอุ่นๆสักแก้ว”โตนนท์เอ่ยกับหญิงสาวเพราะวันนี้เขากินอาหารได้น้อยมากจนรู้สึกหิว
“ค่ะพี่นนท์”ปรายฟ้าลุกขึ้นรีบลงไปยังห้องครัว
เมื่อมาถึงห้องครัวก็จัดการอุ่นนมแล้วหยิบขนมปังเผื่อไปด้วย ระหว่างที่อุ่นนมอยู่ก็รู้สึกว่าเหมือนมีคนมองเธออยู่จึงหันไปดู
“พี่..คุณเต”หญิงสาวเผลอจะเรียกเขาเหมือนเคย
“นนท์เป็นยังไงบ้าง”สีหน้าเขาอ่อนเพลียแววตาเศร้าหมอง
“วันนี้ไข้ขึ้น แต่ไม่เป็นอะไรมากถ้าเป็นห่วงทำไมไม่ขึ้นไปหาพี่นนท์ล่ะคะ”
“ถ้าขึ้นไปอาการคงหนักกว่าเดิมแน่ แล้วมาทำอะไรดึกดื่นหิวเหรอ”เตชินเดินเข้ามาใกล้ ปรายฟ้านึกได้จึงหันกลับไปดูนมที่อุ่นไว้
“อุ่นนมให้พี่นนท์ค่ะ”
“ทำให้พี่ด้วยสิ”ระหว่างที่หญิงสาวมองดูนมในหม้อเตชินก็มากระซิบที่ข้างหู
“พี่เต”หญิงสาวสะดุ้งขนลุกเมื่อมีลมแผ่วผ่านใบหู
“ทำให้พี่เหมือนที่ทำให้นนท์”เขาพูดต่อแล้วค่อยๆโอบกอดร่างบางไว้
“เดี๋ยวทำให้ ไม่ต้องเข้ามาใกล้ก็ได้”เธอเบี่ยงตัวหนีทั้งที่หวั่นไหวอยากให้เขากอดไว้นานๆ
“ก็อยากรู้ว่าทำยังไง นนท์ถึงติดใจ”
“หยุดนะพี่...อุ๊บ”หญิงสาวจะหันไปดุเมื่อเขารุกล้ำมาเกินไปแต่ก็โดนริมฝีปากหนาประกบจูบอย่างดูดดื่ม ร่างบางพยายามเบือนหน้าหนีขัดขืนแต่ก็ถูกแขนแกร่งรวบเอวบางเอามากอดไว้แน่น ยิ่งดิ้นเขายิ่งกอดแน่นขึ้น จูบแรงขึ้นไม่หยุด จนเธออ่อนแรงคล้อยตามตวัดลิ้นหยอกล้อกับชายหนุ่ม รสจูบที่หวานหอมผสมเสียงลมหายใจกระตุ้นให้เกิดความต้องการ ความเป็นชายแข็งขึ้นจนช่วงล่าที่แนบชิดอยู่รู้สึกได้เมื่อเขาพยายามนำความเป็นชายมาถูไถตรงเนินสวาท แต่แล้วสติก็กลับมาเธอผลักเขาออกอย่างแรงจนหลุดจากพันธนาการ
“ร้ายเหมือนกันนี่จูบเก่งขึ้นเยอะ อย่างอื่นจะเก่งขึ้นเหมือนจูบไหมนะ”เตชินยิ้มสายตาหื่นกระหาย มือหนาลูบที่ริมฝีปากอย่างเจ้าเล่ห์
“อย่าทำแบบนี้อีก ปรายเป็นน้องสะใภ้พี่นะ”ปรายฟ้าจ้องมองเขาน้ำตาคลอเสียงสั่นรู้สึกผิดและอายกับสิ่งที่ตัวเองทำ
“ไม่ยุ่งไม่ได้แล้วล่ะ ตอนนี้อยากเห็นลีลาความร่านใจจะขาดอยู่แล้ว”พูดจบร่างแกร่งก็กอดรัดจูบพรมซอกไซร้ซอกคอเรียวระหงจนร่างบางสะท้านอ่อนระทวย
“หยุดนะ หยุด ๆ พี่เต”
“พี่รู้ว่าปรายก็ต้องการ นนท์มันให้ความสุขไม่ถึงใจหรอกต้องพี่สิ พี่จะทำให้ปรายมีความสุข”ร่างแกร่งบดเบียดตัวเข้าแนบชิดมากขึ้นระดมจูบไม่ยั้ง
“ไม่นะพี่เต ปล่อยๆ”หญิงสาวขัดขืนหนักเมื่อเขาไม่ยอมหยุดไซร้ซอกคอเบียดความเป็นชายถูกับเนินสวาท อารมณ์เริ่มกระเจิดกระเจิง ชายหนุ่มทำให้เธอเสียวกระสันเพราะที่ผ่านมาเธอเป็นฝ่ายทำให้สามีมาโดยตลอดไม่เคยได้ลิ้มลองการโดนผู้ชายเล้าโลมอย่างนี้มานานแล้ว
“อือ.....” เสียงหวานครางในลำคอแต่สำนึกก็ยังทำให้เธอขัดขืน ชายหนุ่มได้ยินเสียงครางก็ยิ่งเพิ่มความกระสันอยากจะสอดใส่ให้หายเสียว
“เสียวล่ะสิ อยากให้พี่เอาด้วยไหม”เสียงเข้มแหบพร่าด้วยความต้องการ
“ไม่ ปล่อยนะ”หญิงสาวออกปากไล่แต่ใจก็ยังไม่อยากให้หยุดการกระทำจาบจ้วงนี้
“อย่าฝืนเลย อยากก็บอกมาดีๆจะได้สนองให้”ใบหน้าคมซุกไซร้มาถึงอกอิ่มลิ้นสากลากเลียเนินอกหื่นๆ ร่างบางสะท้านตัวอ่อนปวกเปียกแอ่นอกให้เขาดูดเลียได้ตามใจ
“คุณปรายคะ คุณปราย”เสียงแพรพรรณดังเข้ามา ปรายฟ้าได้ยินเสียงเรียกก็รีบผลักเตชินออกเขาก็ยอมแต่ไม่วายที่จะยิ้มร้ายให้เธอ
“คะ คุณแพร”หญิงสาวขานตอบหันไปจ้องเขาด้วยความโมโหตั้งสติรีบเทนมใส่แก้วแล้วเดินออกไปจากครัว
“คุณนนท์จะนอนแล้วค่ะ เห็นหายไปนานเลยหาให้แพรมาดู”
“หานมไม่เจอก็เลยนานหน่อยค่ะ”ปรายฟ้าหลบตาท่าทางมีพิรุธแล้วรีบเดินเลี่ยงขึ้นห้อง แพรพรรณเห็นท่าทางปรายฟ้าผิดสังเกตกำลังจะเดินตามขึ้นไป เกิดเอะใจหันหลังไปมองก็เห็นเตชินยืนกอดอกมองอยู่ที่หน้าห้องครัว
“คุณเต มาหาของกินเหรอคะ”แพรพรรณยิ้มหวานดีใจที่ได้เจอเตชินเพราะชอบชายหนุ่มตั้งแต่แรกเห็น
“ผมหิวนม แต่นมหมด”
“อืม อยากทานอย่างอื่นไหมคะเดี๋ยวแพรทำให้”
“ผมไม่อยากกินอย่างอื่นด้วยสิ ถ้าพอจะมีนมอย่างอื่นให้กินแทนน่าจะดี”สายตาเจ้าชู้ของชายหนุ่มมองไปที่เนินอกอวบของแพรพรรณเพราะอารมณ์ยังค้างจากปรายฟ้า แพรพรรณรู้ว่าเขาหมายถึงอะไรก็ยืนบิดยิ้มเขินทำตัวไม่ถูก
“คงไม่มีแล้วค่ะ”
“แหม เสียดายนะครับกำลังอยากเลย”เตชินเน้นเสียงแกล้งพูดที่ข้างหู
“ถ้ามีนมแบบนี้ พอจะทานได้ไหมคะ”แพรพรรณส่งสายตาเย้ายวน มือบางค่อยๆปลดกระดุมชุดนอนออกเผยให้เห็นหน้าอกอวบอิ่ม หญิงสาวเหนียมอายไม่กล้าสบตาเตชินที่มองอย่างหื่นกระหาย
“ของชอบอยากดูดให้หมดเต้าเลยคุณจะยอมไหม””สายตาคมเป็นประกายมือหนาจับกุมหน้าอกอวบที่ล้นมือขยำไปมากลืนน้ำลายลงคอ แพรพรรณครางในลำคอเสียงสะท้าน
“ยอมสิคะ กินทั้งตัวก็ยอม”เสียงหวานแหบพร่า เตชินยิ้มมุมปากแล้วเดินนำไปที่ห้องแพรวพรรณดีใจที่ชายในฝันสนใจเธอรีบเดินตามไปห้องเขาติดๆ เมื่อเข้าห้องนอนกิจกามก็เริ่มขึ้นอย่างร้อนแรง แพรพรรณทุ่มสุดตัวทุกลีลาท่วงท่าอยากให้ชายหนุ่มติดใจความเร่าร้อนของเธอ ด้านชายหนุ่มก็จัดหนักอารมณ์ค้างจากน้องสะใภ้เลยสาดใส่ท่อนเอ็นกระแทกกระทั้นรุนแรงจนร่างอวบใต้ร่างสะท้านไหว บทรักบรรเลงเรื่อยไปจนจบส่งทั้งคู่ถึงฝั่งฝัน
“ออกไปสิ”เสียงเข้มไล่แพรพรรณที่นอนอยู่บนเตียงกว้าง
“ไล่แพรเหรอคะเมื่อกี้เรายังมีความสุขด้วยกันอยู่เลยนะ เรามาต่อกันอีกสักรอบไหมคะ”เธอเข้าไปหาอกแกร่งมือบางลูบไล้อย่างเสน่หาส่งสายตาเย้ายวน
“ไม่ เอาไว้เบื่อๆไม่มีที่ลงค่อยมาเอากันใหม่ อ่อ แล้วก่อนจะเอากันก็บอกไปแล้วไงว่าจะไม่ผูกมัด น้ำแตกแล้วแยกย้าย”เขาเน้นย้ำเรื่องที่ตกลงไว้ก่อนทำกิจกาม
“แพรก็ไม่ได้ผูกมัดคุณนะคะ”หญิงสาวทำเสียงเล็กๆออดอ้อน
“ถ้าไม่ผูกมัดก็ออกไปได้แล้วผมจะนอน”ชายหนุ่มเสียงแข็งสีหน้าเบื่อหน่ายแล้วล้มตัวลงนอน
“ก็ได้ค่ะ แต่ถ้าเมื่อไหร่อยากก็เรียกหาได้นะคะยินดีบริการเสมอ”แพรวพรรณทำหน้างอนๆก่อนจะหันมาบอกกับเตชินแล้วจูบที่แก้มหล่อของชายหนุ่ม
เมื่อเปิดประตูออกจากห้องเตชินก็พบกับปรายฟ้าที่เปิดประตูออกมาจากห้องจะเอาแก้วไปเก็บ แพรพรรณหน้าเหวอทำตัวไม่ถูกรีบวิ่งเข้าห้องนอนของตัวเอง ปรายฟ้ายืนอึ้งมองไปที่ห้องของเตชินใจสั่นไหวที่เขามีสัมพันธ์กับคนในบ้านและก็อดน้อยใจไม่ได้ที่ตัวเองไม่สามารถเป็นของเขาได้อีกแล้ว เธอต้องทุกข์ใจกับเรื่องนี้อีกนานแค่ไหนถึงจะลืมว่าเคยรักและต้องการผู้ชายคนนี้ คงต้องอดทนอีกนิดหากเขาแต่งงานไปอยู่ที่เรือนหอแล้วเธอก็จะไม่ค่อยเจอหน้าเขาหัวใจจะได้ไม่ต้องสั่นไหวอย่างนี้อีก
เช้าวันรุ่งขึ้น
เตชินเปิดประตูห้องนอนก็เห็นแพรพรรณยืนยิ้มหวานบิดตัวเขินไปมา ชายหนุ่มทำหน้าเบื่อๆแล้วเดินเลี่ยงจะลงบันไดไม่สนใจแพรพรรณหน้าเหวอวิ่งตามไปจนถึงห้องอาหารที่ทุกคนนั่งกันพร้อมหน้า เธอหยุดชะงักปรับสีหน้าแล้วเดินไปนั่งข้างๆกับเตชิน
“นึกยังไงวันนี้ถึงได้มาทานข้าวเช้าด้วยกัน”เปรมจิตสงสัยเพราะปกติแพรพรรณจะไม่ลงมานั่งกินข้าวด้วย
“วันนี้อยากเปลี่ยนบรรยากาศค่ะ”แพรพรรณรีบตอบแล้วหันไปยิ้มให้เตชิน
“คุณพ่อไปไหนครับผมไม่เจอเลย”เตชินเอ่ยถามเพราะเขาเห็นพ่อแค่วันแรกที่เข้ามาในบ้านเท่านั้น
“ไปดูธุรกิจที่ต่างประเทศ”เปรมจิตตอบห้วนๆ แล้วตักโจ๊กทานต่อไป
“ธุรกิจอะไรครับ ไม่เห็นจะมีโปรเจคอะไร”
“คงเพิ่งเริ่มทำแผนยังไม่ได้แจ้งคณะกรรมการให้รู้อย่างเป็นทางการ”เปรมจิตหลบสายตาเตชินที่มองมาด้วยแววตาสงสัย
“แล้วไปที่ประเทศไหน”เตชินยังซักถามต่อ อยากรู้เรื่องธุรกิจใหม่คร่าวๆเพราะเขาเป็นผู้บริหารก็ต้องรู้เกี่ยวกับโปรเจคใหม่ๆที่กำลังจะเกิดขึ้น
“พ่อเขาบอกว่าจะไปดูหลายประเทศนะ ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าลงทุนที่ไหน เราก็ไม่ต้องถามอะไรมากได้ไหมแม่ก็ไม่ค่อยรู้”เปรมจิตตัดบทน้ำเสียงรำคาญที่ลูกชายซักถามไม่เลิก เตชินพยักหน้าแล้วทานอาหารต่อ
ระหว่างที่ทานอาหารเช้าแพรพรรณก็เอาขาเรียวมาถูกับขาแกร่งของเตชิน ชายหนุ่มปรายตามองหญิงสาวที่ทำเป็นกินโจ๊กนิ่งๆ มือหนาจึงจับไปที่ขาอ่อนของหญิงสาวลูบไล้ไปเกือบถึงเนินสวาทแพรพรรณอ้าขาออกเพื่อให้เขาสะดวกในขณะที่กินโจ๊กเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้นสักพัก เตชินก็ลุกขึ้นกะทันหันทำให้อารมณ์ของแพรพรรณสะดุดลงมองเขาอึ้งๆอย่างขัดใจ
“วันนี้มีประชุม ผมไปทำงานก่อนนะครับ”เตชินมองแพรวพรรณยิ้มเยาะให้แล้วเดินออกไปทันที
“ปรายวันนี้ต้องไปลงทะเบียนเรียนใช่ไหม”เปรมจิตเอ่ยถามปรายฟ้า เตชินได้ยินถึงกับหยุดฟังก่อนจะเดินต่อด้วยสีหน้าครุ่นคิด
“ค่ะคุณหญิง”
“ถ้าอย่างนั้นวันนี้แพรต้องดูแลนนท์ทั้งวันนะ”เปรมจิตสั่งแพรพรรณที่ทำหน้าเซ็งหันไปรับคำแบบเบื่อๆ ที่โดนเตชินแกล้งให้อยากแล้วจากไป
ช่วงสายปรายฟ้าใส่ชุดมหาวิทยาลัยเพื่อไปลงทะเบียนเรียนปีการศึกษาที่สอง ถึงตอนนี้เธอจะอายุยี่สิบเอ็ดปีแล้วแต่ก็เพิ่งได้เรียนปีสอง เพราะไม่ได้เรียนมาหลายปี เพิ่งมามีโอกาสได้เรียนต่อตอนที่มาดูแลโตนนท์เปรมจิตอยากส่งเสียให้ปรายฟ้ามีความรู้ติดตัวเผื่อวันไหนที่โตนนท์จากไปปรายฟ้าจะได้เอาตัวรอดได้
“แล้วจะรีบกลับมานะคะ”ปรายฟ้าเอ่ยเสียงสดใส
“จ้ะพี่จะรอนะ”โตนนท์ยิ้มหวานส่งภรรยาขึ้นรถไปกับคนขับรถของที่บ้าน
“เดี๋ยวก่อน”เปรมจิตรีบเดินมาหาในมือถือซองเอกสารอยู่
“คะคุณหญิง”
“ช่วยเอาเอกสารไปให้เตด้วย เขาต้องใช้ประชุมตอนบ่าย”
“ให้ลุงชมเอาไปให้ก็ได้นี่แม่”โตนนท์ขัดขึ้นเขาหวงไม่อยากให้ปรายฟ้าต้องไปเจอกับเตชิน
“เอกสารสำคัญแม่ไม่อยากไว้ใจใคร”เปรมจิตยื่นซองเอกสารให้ เธออึกอักไม่ค่อยกล้ารับไว้ยิ่งเห็นสายตาที่สามีมองมาแบบขุ่นเคืองทำให้เธอต้องกลืนน้ำลายลงคออย่างลำบาก
“ฝากด้วยนะ มันสำคัญมากจริงๆ ถ้าวันนี้ฉันไม่มีธุระก็คงจะเอาไปเอง”เปรมจิตเน้นย้ำหันไปสบตาโตนนท์ที่ไม่พอใจ หลังจากที่ปรายฟ้านั่งรถออกไปแล้ว เปรมจิตจึงตบที่บ่ากว้างของลูกชาย
“ไม่มีอะไรหรอกลูกไม่ต้องกังวล”
“ผมไม่ไว้ใจ กลัวว่าเตจะมาแย่งปราย”โตนนท์หงุดหงิดใจพะวง
“พี่เขาไม่ทำอย่างนั้นแน่ เขามีผู้หญิงมากมายมาให้เลือกไม่จำเป็นที่จะต้องมาแย่งเมียของน้องหรอก”เปรมจิตปลอบลูกชาย
“ใช่สิ เตเลือกได้เสมอ แต่ผม...”โตนนท์นิ่งเงียบน้ำตาคลอเมื่อนึกถึงว่าตัวเองต้องป่วยมาตั้งแต่เด็กเขาไม่เคยได้ใช้ชีวิตเหมือนคนอื่นไม่มีสิทธิ์เลือก ไม่มีสิทธิ์คิดอะไรได้เลยเขาแอบอิจฉาพี่ชายที่ได้ใช้ชีวิตในแบบที่อยากเป็นมาตลอด ส่วนตัวเขาได้แต่อยู่บ้านกับโรงพยาบาลเท่านั้น เปรมจิตมองลูกที่ทำหน้าเศร้าแล้วปวดใจเธอทั้งรักและประคบประหงมโตนนท์มาตลอดไม่เคยให้สิ่งใดมาทำร้ายได้สิ่งที่แม่ทำนั่นแม่คิดว่าดีที่สุดแล้ว แต่สำหรับโตนนท์มันยังไม่ดีพอเขาโทษแม่ที่ทำให้เขาไม่แข็งแรง ทำไมพี่ชายถึงแข็งแรงแต่เขากลับมีโรคประจำตัวมาตั้งแต่เกิด ตอนท้องแม่ทำอะไรดูแลเขายังไงทำไมเขาถึงต้องขี้โรค แววตาของชายหนุ่มแข็งกร้าวพาลโกรธและโทษแม่ที่ทำให้เขาเป็นแบบนี้ ชายหนุ่มดึงไหล่กลับจากมือแม่แล้วบังคับรถเข็นหนีไปทางอื่น เปรมจิตมองตามลูกรักอย่างเห็นใจ....
