บท
ตั้งค่า

ตอนที่ 3 ทิ้งให้รอ

น้องของเขากำลังจะตายพ่อกับแม่จึงอยากให้มีความสุข ถ้าเขากำลังจะตายบ้างจะมีใครสนใจเขาบ้างไหมตั้งแต่น้องเกิดมาเขาก็เหมือนจะหมดความสำคัญกับทุกคนในบ้านจากที่เคยห่วงใยสนใจแค่เขากลับกลายเป็นทิ้งขว้างไม่ใส่ใจ พอมีผู้หญิงที่รักก็โดนกีดกัน แล้วก็โยนความรับผิดชอบทุกอย่างในฐานะลูกชายคนโตมาให้เขารับผิดชอบโดยที่ไม่มีใครถามสักคำว่าต้องการหรือไม่ เขาแค่อยากเป็นคนธรรมดาที่ไม่ต้องแบกรับอะไรมากมายขนาดนี้ ชายหนุ่มเดินไปเรื่อยอย่างอ่อนแรงแววตาเหม่อลอยใช้ความคิดอย่างหนัก

“ถ้าข้าวต้มเสร็จแล้วเอาขึ้นไปที่ห้องเลยนะจ๊ะ”เสียงหวานดังแว่วมาจากในห้องครัว เตชินหยุดชะงักแล้วหันไปมองก็เห็นหญิงสาวร่างบางสวมชุดไทยแสนสวยเดินออกมา ทันใดนั้นแววตาของเขาก็เปลี่ยนจากเหม่อลอยกลายเป็นร้ายกาจแล้วเดินตรงไปหาหญิงสาวตรงหน้า ปรายฟ้าเห็นเขาก็ยืนอึ้งจะถอยหลังหนีแต่เขาก็มาถึงตัวเธอเสียก่อน มือหนาคว้าข้อมือบางแล้วดึงให้เดินตามไปยังห้องดูภาพยนตร์ที่มิดชิด

“ปล่อยค่ะ”ปรายฟ้าพยายามรั้งตัวไม่เข้าไป แต่ก็สู้กำลังของเขาไม่ได้

“ทำเป็นสะบิดสะบิ้งซะด้วย โตขึ้นเป็นสาวแล้วก็เลยมีมารยาหญิงเยอะขึ้นด้วยสินะ ถึงได้หลอกให้นนท์มันมาแต่งงานด้วยได้”

“พี่นนท์แค่อยากจะช่วย”หญิงสาวพยายามอธิบาย ดวงตาหลุบหลบสายตาคมที่จ้องมองมาด้วยความโกรธใบหน้าที่ขึงขังทำให้เธอกลัว

“ช่วยอะไร ช่วยให้หายร่านใช่ไหม”ชายหนุ่มตะคอกใส่โกรธจัด

“พี่เต”

“พูดตรงใจหรือไงจะบอกไว้เลยนะว่านนท์มันไม่มีน้ำยาหรอก จะเดินยังไม่มีแรงเลยคิดว่ามันจะสนองให้เธอได้เหรอ อืม แต่ถ้าเผื่อว่าวันไหนอยากมากจนทนไม่ไหว ฉันก็พอจะช่วยได้นะ”ชายหนุ่มพูดว่าร้ายยังไม่พอ ยังส่งสายตาโลมเลียเจ้าเล่ห์ วงแขนแกร่งโอบกระชับให้ร่างบางตกอยู่ในอ้อมกอดของเขา

“หยุด อย่ามาทำรุ่มร่ามปรายเป็นน้องสะใภ้ของพี่แล้วนะ”ปรายฟ้าขัดขืนดุเสียงดังไม่พอใจที่เขาทำกับเธอใบหน้าคมอยู่ใกล้กับใบหน้าหวานเกือบจะชิดกัน

“แล้วไง เธอก็เป็นของฉันเหมือนกัน”

“หยุดพูดเรื่องไร้สาระได้แล้ว”หญิงสาวหน้าเสียไม่อยากได้ให้เขาพูดเรื่องอดีตไปมากกว่านี้

“ก็บอกมาสิว่าทำไมถึงแต่งงานกับมัน ใครกันที่สัญญาว่าจะรักพี่คนเดียว”เตชินคาดคั้นไม่เลิกเขาอยากจะรู้จริงๆว่าทำไมเธอถึงทิ้งเขาแล้วไปเลือกน้องชายที่เจ็บออดๆแอดๆแบบนั้น ทั้งที่เธอเป็นคนสัญญาว่าจะรักเขาคนเดียวแล้วนี่มันเกิดอะไรขึ้นใจเธอถึงเปลี่ยนแปลงไปอย่างง่ายดาย

“คำสัญญามันมีความหมายอะไร พี่ทิ้งให้ปรายรอยึดติดปรายไว้ด้วยคำสัญญา แต่ตัวเองกลับหนีหายไปเรียนต่างประเทศแล้วยังมีคนรักที่จะแต่งงานกัน ใครกันแน่ที่ทำผิดต่อกันก่อน แล้วถ้าปรายผิดสัญญาบ้างพี่ไม่มีสิทธิ์มาว่า”หญิงสาวน้ำตาคลอที่เบ้าตาหน้าแดงพยายามกลั้นไม่ให้น้ำตาไหลออกมา เธอเสียใจที่เขาทิ้งไปมีคนอื่นก่อนแล้วยังจะมาทวงสัญญากับเธออีกเขามันเห็นแก่ตัว

“ที่แต่งงานเพื่อประชดพี่เหรอ”ชายหนุ่มนิ่งอึ้งเอ่ยถามแผ่วเบา

“ไม่ใช่ ที่แต่งงานเพราะพี่นนท์เป็นคนดีและรักปราย พี่นนท์ช่วยเหลือทุกอย่างในขณะที่พี่ไปมีความสุขกับคนอื่น”

“มันไม่ใช่ความรักหรอกเธอไม่มีทางรักคนขี้โรคอย่างนนท์ เธอรักเงินของมันต่างหากเพราะชีวิตเธอมันต้องดิ้นรนมาตั้งแต่เด็กอยากมีชีวิตสุขสบายเลยต้องใช้ร่างกายมาแลก เธอจ้องจะจับฉันแต่ดีว่าแม่ฉันกีดกันก็เลยไปจับนนท์ต่อ แต่คราวนี้เธอทำสำเร็จแม่ใจอ่อนยอมให้เป็นสะใภ้ ก็เลยได้เป็นหนูตกถังข้าวสารรวยสมใจ ฮึ เธอนี่เก่งนะที่เคยหลอกให้ฉันคิดว่าเธอเป็นหญิงสาวแสนดีได้”เตชินพูดวิเคราะห์เรื่องราวทั้งหมดจากความคิดของเขาด้วยอยากปลอบใจตัวเองว่าผู้หญิงคนนี้หวังแค่ผลประโยชน์จากเขาและครอบครัวเธอไม่ใช่คนดีอย่างที่เขาเคยคิด

“ดีจังนะคะ ที่พี่รู้ทันถ้าอย่างนั้นก็เลิกยุ่งกับปรายเถอะจะได้ต่างคนต่างอยู่สักที”สายตาหวานขึงขัง มือบางดันเขาออกไปให้ไกลตัวหันหลังเดินจะหนีออกจากห้อง

“มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอกสาวน้อย นี่ครอบครัวฉันอย่าคิดว่าจะมาเอาผลประโยชน์แล้วก็จากไปได้เธอยังต้องเจออะไรอีกเยอะ ให้สมกับฐานะน้องสะใภ้ของฉัน”ริมฝีปากหนายิ้มมุมปากร้ายกาจ

“...”หญิงสาวกำมัดแน่นระงับความโกรธไม่หันหน้าไปมองเขา

“อ่อ แล้วต่อไปนี้อย่าเรียกฉันว่าพี่อีกให้เรียกฉันว่าคุณ เพราะฉันไม่ใช่พี่ของเธอ”ชายหนุ่มเดินย่างเข้ามาข้างหลังหญิงสาวเมื่อพูดจบเขาก็เดินเบี่ยงนำเธอออกไปไม่หันกลับมามอง หญิงสาวข่มอารมณ์ยืนนิ่งแววตาสั่นไหวเสียใจที่ต้องกลายมาเป็นอริกับผู้ชายที่เธอรักมาตลอดตั้งแต่ตอนเด็ก พลางให้นึกไปถึงเรื่องอดีตตอนเธออายุแค่ 12 ขวบและเตชินในวัยรุ่นอายุ 17 ปี

อดีตที่ปรายฟ้ากับเตชินได้พบกัน

“อีปราย ไปเก็บสายบัวมาสิ”เสียงของสมรดังลั่นบ้าน เรียกลูกเลี้ยงเด็กหญิงปรายฟ้าให้ไปเก็บสายบัวมาทำแกง

“แป๊บนึงนะจ๊ะ ปู่กินข้าวใกล้จะหมดแล้ว”เด็กหญิงตะโกนบอก พร้อมกับรีบตักข้าวป้อนให้ปู่กินรนๆ สมรได้ยินก็ฉุนจัดที่เด็กน้อยกล้าต่อรอง จึงเดินปรี่มาเปิดประตูห้องแล้วฟาดไปที่หลังเด็กหญิงอย่างแรงจนข้าวกระเด็น แล้วกระชากแขนเหวี่ยงเด็กหญิงไปจนถึงมุมห้อง

“แต่กูจะทำตอนนี้ รีบไปเลยเร็วๆ”สมรตะโกนใส่สีหน้าดุร้ายเพราะหงุดหงิดที่ต้องเสียเวลาการเล่นไพ่เพื่อมาทำอาหารให้คนในบ้านแทนที่ปรายฟ้าจะรีบไปเก็บสายบัวดันมาอิดออดป้อนข้าวปู่อยู่ได้

“ไปแล้วจ้ะๆ อย่าทำหนูๆเลยนะ”เด็กน้อยยกมือไหว้ท่วมหัวด้วยความหวาดกลัว ปู่มองอย่างสงสารแต่ช่วยอะไรหลานไม่ได้เลยเพราะเป็นอัมพาตนอนติดเตียง

“ทีหลังกูสั่งอะไรก็ต้องรีบทำ อย่าให้ของกูขึ้น”สมรจ้องมองอย่างไม่มีความเวทนาเลยสักนิดเงื้อมมือจะเข้าไปตีอีกครั้ง เด็กน้อยกลัวตัวสั่นราวกับลูกนกรีบวิ่งก่อนที่จะโดนตี แล้วไปที่ท่าน้ำขึ้นเรือพายออกไปอย่างรวดเร็ว

ตลอดทางที่เด็กหญิงปรายฟ้าพายไปจะเป็นบ้านสวนอุดมสมบูรณ์ด้วยต้นไม้พืชผัก มีลำคลองยาวไหลผ่านแทบทุกครัวเรือนที่อยู่ริมน้ำ เด็กหญิงแทบไม่ได้ดูธรรมชาติอันสวยงามนี้ตั้งหน้าตั้งตาพายเรือไปเก็บสายบัวอย่างรีบๆ กลัวว่าถ้าไปช้าจะโดนทำร้ายอีกมือน้อยปาดน้ำตาเศร้าใจในชะตากรรมของตัวเอง ตั้งแต่พ่อพาแม่เลี้ยงเข้ามาในบ้านเธอต้องโดนแม่เลี้ยงทำร้ายมาตลอด 3 ปีจนเกิดความหวาดกลัว ความสดใสร่าเริงที่เด็กควรจะมีกลายเป็นแววตาที่เศร้าหมองเก็บตัวไม่เล่นไม่สุงสิงกับใครได้แต่เก็บความทุกข์เอาไว้ รอเวลาที่ตัวเองโตพอจะไม่ต้องพึ่งใครจะหนีไปให้พ้นจากนรกแห่งนี้เสียที

เด็กน้อยคิดไปต่างๆ นานา ในขณะเก็บสายบัวเมื่อได้สายบัวตามที่ต้องการแล้วจึงพายเรือกลับทันที

ตุ้ม!!

น้ำคลองกระจายเป็นวงกว้างสักพักก็มีหัวคนโผล่ขึ้นเหนือน้ำ เด็กหญิงจ้องมองใบหน้าของชายหนุ่มที่ไม่คุ้นตาเพราะปกติคนแถวนี้จะรู้จักกันหมดแต่ผู้ชายคนนี้เป็นใครกันนะถึงมากระโดดเล่นน้ำคลองอยู่ตรงนี้ และก็มีคนนั่งเล่นอยู่บนศาลาอีกสี่คน

“น้องมีอะไรกินบ้าง”ชายหนุ่มร้องเรียกถามแล้วว่ายเข้ามาใกล้เรือของเธอ

“หนูไม่ได้ขายของจ้ะ”เด็กหญิงมองระแวงเมื่อเขาเข้ามาเกาะที่เรือ

“ขอโทษที นึกว่าเรือขายของกิน”เตชินยิ้มหวาน เด็กสาวนิ่งอึ้งเขินอายในความหล่อของชายหนุ่มตรงหน้า

“อ้าว เจ้าปรายไปไหนมาล่ะนั่น”เสียงป้าอุ่นดังมาจากทางศาลา

“มาเก็บสายบัวจ้ะป้า”

“พายเข้ามานี่สิ ป้าจะให้ขนม”ป้าอุ่นกวักมือเรียกให้มาหา ปรายฟ้าพยักหน้ารับป้าอุ่น แล้วก็หลบตาไม่กล้ามองรอยยิ้มที่มีเสน่ห์ของชายหนุ่มที่ช่วยดึงเรือเข้าไปจอดที่ศาลาเด็กน้อยค่อยๆเดินขึ้นท่าไปหาป้าอุ่น

“ขอบคุณค่ะ”ปรายฟ้ารับขนมจากป้าอุ่นแต่ละอย่างดูดีและแปลกตาทั้งนั้น

“นี่ญาติๆ ป้ามาจากกรุงเทพ ฯ คุณเปรม พี่เต แล้วก็พี่นนท์ ”ป้าอุ่นแนะนำน้องสาวและหลานๆให้ปรายฟ้า เด็กน้อยยกมือไหว้ไม่ค่อยถนัดเพราะห่วงขนมที่กำอยู่ในมือจะร่วง ทุกคนรับไหว้แล้วมองเด็กน้อย

“สวัสดีค่ะ หนูขอกลับก่อนนะจ๊ะเดี๋ยวแม่รอ”

“เออ ๆ พายเรือกลับดี ๆนะ”ป้าอุ่นพยักหน้ารับ เด็กน้อยยกมือไหว้อีกครั้งแล้วรีบขึ้นเรือพายออกไป

“ลูกบ้านไหนคะพี่ ดูหน้าตาเศร้าไม่สดใสเลย”เปรมจิตเอ่ยถามกับอุ่น

“บ้านตาเปี๊ยกน่ะ เด็กมันน่าสงสารนะเมื่อก่อนก็ร่าเริงดีแต่พอมีแม่เลี้ยงก็เป็นอย่างที่เห็น”เมื่อพูดจบทุกคนก็หันมองไปเด็กหญิงที่กำลังพายเรือกลับบ้านด้วยความสงสาร

เช้าวันรุ่งขึ้นเตชินไปออกกำลังกายสูดอากาศบริสุทธิ์ของบ้านสวน วิ่งมาเรื่อยตามทางจนเห็นกลุ่มเด็กที่ยืนล้อมรถขายไอศกรีมอยู่ สายตาคมเห็นเด็กหญิงที่คุ้นหน้ายืนมองดูเด็กคนอื่นอยู่ห่างๆ

“น้องปรายใช่ไหม”เตชินเอ่ยถามยิ้มๆ

“จ้ะ”

“ไม่ไปซื้อไอติมกับเพื่อนล่ะ”

“ไม่หรอกจ้ะ หนูไม่ชอบกินไอติมหนูไปก่อนนะจ๊ะ”ปรายฟ้ามองรถไอติมเศร้าๆ แล้วรีบหันหลังจะเดินไป

“เดี๋ยวสิ ไม่ชอบกินแล้วมาแอบยืนมองทำไมมานี่สิ เดี๋ยวพี่ซื้อให้”เตชินดึงรั้งแขนเด็กสาวไว้ เขารู้ว่าเธออยากกินแต่ไม่กล้าบอก

“ไม่เป็นไรจ้ะ”

“ผู้ใหญ่ให้ของก็ต้องรับไว้นะอย่าปฏิเสธ”เตชินพาปรายฟ้ามาเลือกไอติม เด็กน้อยยกมือไหว้เมื่อเขาส่งไอติมให้แล้ววิ่งไปนั่งเก้าอี้ข้างๆแกะกินอย่างเอร็ดอร่อยสีหน้ามีความสุข

“ไหนบอกว่าไม่ชอบกินไง เป็นเด็กโกหกไม่ดีนะ”

“หนูชอบกินไอติม แต่ไม่มีเงินขอโทษที่โกหกนะจ๊ะ”เด็กสาวหน้าซีดเสียงอ่อน

“ไม่เป็นไร แต่ทีหลังอย่าโกหกอีกนะรู้ไหม”เตชินขยี้ผมเด็กหญิงด้วยความเอ็นดู ปรายฟ้าแหงนมองหน้าเตชินด้วยความสุขใจพี่ชายคนนี้ใจดีกับเธอจัง

หลังจากวันนั้นทั้งสองคนก็เล่นและคุยกันมากขึ้น ปรายฟ้าเป็นเหมือนไกด์พาเตชินเที่ยวบ้านสวนกันทุกวัน ตอนแรกแม่เลี้ยงของปรายฟ้าก็ดุด่าเรื่องที่ไม่ช่วยงานบ้าน แต่ป้าอุ่นให้เงินถือว่าเป็นค่าจ้างให้ปรายฟ้าพาเตชินไปเที่ยวสมรจึงสงบปากสงบคำเพราะมีทุนไปเล่นไพ่ ด้านเตชินมาที่บ้านสวนทุกปีทุกครั้งที่มาก็จะคลุกอยู่กับปรายฟ้าไปเที่ยวเล่นด้วยกันตลอด

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel