ตอนที่ 11 นัดมาให้...
เพียงแวบหนึ่งของอารมณ์ที่พลุ่งพล่านปรายฟ้าได้สติสิ่งที่ทำอยู่มันคือเรื่องที่ผิดเมื่อมีสติมือบางก็ดันร่างแกร่งออกให้ไกลชายหนุ่มที่กำลังหื่นกระหายไม่ยอมลดละโถมเข้าหาอย่างต้องการ
“พอเถอะค่ะ เราสองคนกำลังจะทำผิดกับพี่นนท์”
“พี่มาก่อน ไอ้นนท์ต่างหากที่ทำผิด”ชายหนุ่มฉุนจัดแววตาแข็งกร้าวเมื่อถูกขัดใจ
“ปรายอยากกลับบ้าน”หญิงสาวไม่อยากพูดต่อ เลยตัดบทไปดื้อๆ
“ไม่กลับจนกว่าจะคุยกันให้รู้เรื่องก่อน”เขายังอารมณ์ค้างและอยากสานต่อบทรักจนจบ
“ถ้าพี่ไม่พากลับ ปรายจะกลับเอง”ใบหน้าหวานบึ้งตึงมือบางเอื้อมไปเปิดประตูรถ
“จะกลับยังไง เดินออกไปให้ไอ้เสี่ยมันมาฉุดหรือไง อ๋อหรือว่าที่จริงมันไม่ได้มาขืนใจแต่เธอนัดให้มันมาเอา”สายตาคมจ้องมองขึงขังพูดด้วยความโมโห
“พี่เต”ปรายฟ้ามองเขาน้ำตาคลอไม่คิดว่าเขาจะคิดแบบนี้กับเธอ
“พูดไม่ออกที่ฉันรู้ทันใช่ไหม นัดมันไว้แต่ทำเป็นเล่นตัวเพื่ออัปค่าตัว ฉันเอะใจแล้วเชียวว่าทำไมถึงยอมให้ฉันจูบ ฮึคงอารมณ์ค้างสินะ เธอนี่มันร่านจริงๆ”ใจหนึ่งเขาเป็นห่วงเธอแต่อีกใจก็ยังคงโกรธที่เธอทิ้งเขาไปแต่งงานกับคนอื่นความสับสนเกิดขึ้นเขาไม่รู้ว่าความรู้สึกตอนนี้คืออะไรได้แต่พูดทำร้ายจิตใจเธอที่ปฏิเสธเขา เพราะที่จริงเขาน้อยใจที่เธอนึกถึงโตนนท์มากกว่า
“พี่จะพูดยังไงก็ช่าง ปรายห้ามความคิดพี่ไม่ได้อยู่แล้วแต่ตอนนี้ปรายอยากกลับบ้านไปหาพี่นนท์”
“ไปหามันก็ระบายความร่านของเธอไม่ได้หรอก สู้ให้ฉันช่วยจะดีกว่า”เตชินยิ้มร้ายแววตาเจ้าเล่ห์แล้วโถมตัวเข้ามากอดซุกไซร้ร่างบางที่หอมหวาน
“พี่เตหยุดนะ ปล่อย”ปรายฟ้าพยายามดิ้นหนีทั้งทุบทั้งตีร่างแกร่งก็ยังกอดรัดฟัดเหวี่ยงระดมจูบใบหน้าหวาน สักพักเสียงโทรศัพท์ก็ดังขึ้นมาขัดจังหวะเตชินผละออกอย่างหัวเสีย เมื่อดูโทรศัพท์ก็เห็นว่าเปรมจิตโทรมาเลยรับสายอย่างหงุดหงิด
“ฮัลโหล”
“เต ตอนนี้อยู่ที่ไหนแล้ว แม่กับนนท์ติดต่อปรายไม่ได้ไม่รู้ว่าจะเป็นยังไงบ้างช่วยไปดูปรายที่บ้านสวนหน่อย”เปรมจิตโทรมาให้เตชินไปดูปรายฟ้า เพราะตอนนี้โตนนท์เป็นห่วงภรรยามากจนใส่อารมณ์กับคนในบ้านจนวุ่นวายกันไปหมด
“เดี๋ยวผมไปดูให้ แล้วจะโทรไปบอก”เตชินยิ้มมุมปากสายตามองร่างบางที่นั่งคุดคู้อยู่ที่เบาะข้างๆ
“ขอบใจมาก ตอนนี้น้องเป็นห่วงปรายโวยวายจนบ้านจะแตกอยู่แล้ว ช่วยด้วยนะ”เปรมจิตถอนหายใจ หวังว่าเตชินหรือปรายฟ้าจะโทรกลับมาให้โตนนท์สบายใจบ้าง
“แม่โทรมาบอกว่าผัวเธอเป็นห่วงเพราะติดต่อเธอไม่ได้”เตชินวางสายยิ้มกรุ้มกริ่มมองไปทางหญิงสาว
“โทรศัพท์น่าจะตกอยู่ในบ้าน แล้วลุงชมล่ะคะ”ปรายฟ้าครุ่นคิดเธอลืมลุงชมไปสนิท
“ฉันโทรบอกคนของฉันให้มาพาลุงชมกลับแล้ว เดี๋ยวให้คนหาโทรศัพท์ให้เธอด้วยละกัน”
“ค่ะ”
“นั่งตัวลีบเชียว กลัวฉันปล้ำหรือไง”แววตาเจ้าชู้มองไปทั่วตั้งแต่หัวจรดเท้า
“...”หญิงสาวนิ่งเหล่มองเขาสายตาหวาดระแวง
“หรือว่าจะปล้ำต่อดี”ร่างแกร่งรีบพุ่งตัวเข้าไปหาทำเอาคนตัวเล็กสะดุ้งรีบหดตัวงอ
“อย่าค่ะ”หญิงสาวน้ำเสียงตกใจ
“ฮึๆ เอาไว้วันหลังแล้วกันนะ วันนี้รีบกลับไปหาผัวเธอดีกว่าเดี๋ยวจะหัวใจวายตายไปก่อนที่จะได้เห็นหน้าเมียรัก”ชายหนุ่มอมยิ้มเหล่ตามองร่างบางที่ยังนั่งตัวลีบอยู่ท่าเดิม
ผ่านไปเกือบชั่วโมง เสียงรถสปอร์ตแล่นเข้ามายังคฤหาสน์หรู โตนนท์นั่งรอหน้าบ้านด้วยใจกระสับกระส่าย หลังจากที่เตชินโทรมาบอกแม่ว่าไปรับปรายฟ้าที่บ้านสวนแล้วจะพามาส่ง โตนนท์ก็ยิ่งเครียดจัดเขายิ่งไม่อยากให้สองคนนี้อยู่ใกล้กันกลัวถ่านไฟเก่ามันจะคุกรุ่นขึ้นมาอีกครั้ง
“ปรายทำไมไม่รับโทรศัพท์”โตนนท์ตะโกนถามเสียงเข้มหน้าดุ เมื่อคนรักไม่รับสายทำให้เขาเป็นห่วง
“ขอโทษค่ะ ปรายปิดเสียงเลยไม่รู้ว่าพี่โทรไปหา”หญิงหลบสายตาก้มหน้าขอโทษ
“พี่เป็นห่วงมากที่หลังอย่าทำแบบนี้อีกนะ”
“ค่ะพี่นนท์ ปรายขอตัวไปอาบน้ำก่อนนะคะ”หญิงสาวฝืนยิ้มไม่กล้าเขาใกล้สามี แล้วเลี่ยงขอไปอาบน้ำไม่อยากให้เขาได้กลิ่นน้ำลายที่เธอถูกเตชินเลียซอกคอมา
“อืม”โตนนท์ยังโมโหอยู่แต่ไม่อยากระเบิดอารมณ์ใส่หญิงสาวจึงกลั้นความโมโหเอาไว้ พาลไปมองจ้องเตชินที่เดินตามเข้ามา
“ฉันอุตส่าห์ไปรับเมียนายนะ จะไม่ขอบใจสักคำเลยหรือไง”เตชินแหย่น้องชายที่มองเขาเคืองๆแล้วกำลังจะกดปุ่มเข็นรถหนี
“ขอบใจ”โตนนท์เอ่ยแบบไม่เต็มใจนัก เขาตะขิดตะขวงใจยังไงบอกไม่ถูก รีบกดปุ่มขึ้นลิฟต์ไปยังห้องนอนไม่อยากมองหน้าพี่ชาย เตชินมองตามแล้วยิ้มร้ายในความเอาแต่ใจของน้องที่ได้รับการเอาใจมาตั้งแต่เด็ก แตกต่างกับเขาที่ไม่มีใครใส่ใจเพราะความรักที่แม่มีมันไปอยู่กับน้องชายหมด แล้วน้องก็มาแย่งผู้หญิงของเขาไปอีก คนเป็นพี่ต้องเสียสละแต่ใครจะเข้าใจบ้างว่าคนเป็นพี่ก็เจ็บเป็น
“ไม่มีอะไรผิดปกติแน่นะแล้วชมไปไหน”เปรมจิตเอ่ยถาม เตชินหันไปมองแม่ก่อนจะเล่าเหตุการณ์ทุกอย่างที่เขาไปเจอให้ฟัง ยกเว้นเรื่องที่เขาลางานไปคอยสังเกตการณ์ทั้งวันกับเรื่องบนรถระหว่างเขากับน้องสะใภ้
“ว่าแล้วเชียว” เปรมจิตเน้นเสียงมันเป็นอย่างที่คิดไว้จริงๆ สมรต้องมาหลอกให้ปรายฟ้าไปหาเพื่อเอาไปขาย คิดแล้วก็โมโหอยากจะแจ้งตำรวจให้มาจับสองแม่ลูกนั้นแต่ติดที่ปรายฟ้าขอร้องเธอเอาไว้
“ผมให้คนไปรับลุงชมแล้วนะครับ อ่อ อีกอย่างผมไม่อยากให้ปรายไปที่นั่นอีก”
“แม่ก็ไม่อยากให้ไป แต่ปู่เขาป่วยหนักก็เลยยอมให้ไปแล้วก็เกิดเรื่องจนได้ เฮ้อนี่ขนาดส่งคนไปเป็นเพื่อนแล้วยังไม่ปลอดภัยอีก”
“ไม่รู้ว่าปู่ของปรายป่วยจริงหรือแค่เรื่องโกหก”เตชินเอ่ยขึ้นอย่างสงสัยว่าอาจจะเป็นแผนของสมรที่หลอกให้ปรายฟ้าไปหา
“นั่นสิ แล้วไม่ต้องเล่าเรื่องนี้ให้นนท์รู้นะเดี๋ยวน้องจะไม่สบายใจ”เปรมจิตกำชับสีหน้าเครียด เตชินพยักหน้ารับคำ
ภายในห้องนอนที่เต็มไปด้วยอุปกรณ์การแพทย์ โตนนท์นั่งหน้าเครียดระหว่างที่รอภรรยาอาบน้ำอยู่เขาอดระแวงไม่ได้ว่าสองคนนั้นจะใกล้ชิดกันแล้วกลับมารักกันอีก ใจกระวนกระวายไม่เป็นสุขคิดซ้ำวนเวียนแต่เรื่องเดิม
“พี่นนท์ ขึ้นมาตั้งแต่เมื่อไหร่คะ”หญิงสาวตกใจเมื่อเปิดประตูมาเจอสามีนั่งอยู่ในมุมมืด
“สักพักแล้ว”โตนนท์ตอบกลับเสียงแข็ง
“ยังไม่ได้เช็ดตัวใช่ไหมคะ มาค่ะเดี๋ยวปรายทำให้”หญิงสาวเดินเข้าไปใกล้มือบางจับที่รถเข็นเพื่อเข็นเขาไปเช็ดตัว
“ไม่ต้อง”ชายหนุ่มปัดมือเธอออก น้ำเสียงดุ
“เป็นอะไรคะ”
“ตอนที่มากับเตได้คุยอะไรกันบ้าง”สายตาคมจ้องหน้าภรรยาอย่างขึงขัง
“ไม่ได้คุยอะไรกันเลย”หญิงสาวชะงักไปนิด พยายามจะพูดน้ำเสียงราบเรียบให้ดูปกติ
“ไม่จริง พี่ไม่เชื่อ”
“จริงค่ะ ถ้าพี่ไม่เชื่อปรายก็ไม่รู้จะพูดอะไรอีก”หญิงสาวทำเป็นงอนกลบเกลื่อนเกรงว่าจะหลุดทำพิรุธให้เขาเห็นเพราะมันไม่จริงอย่างที่สามีพูด
“พี่ขอโทษ พี่ระแวงกลัวว่าเตจะมาแย่งปรายไป”เมื่อภรรยางอนเขาก็เริ่มรู้สึกตัวว่าใส่อารมณ์กับเธอมากเกินไป ทั้งที่ยังแคลงใจแต่ก็ต้องทำใจให้เย็นไม่อยากต้องทะเลาะกับคนรักกลัวเธอจะเบื่อแล้วทิ้งเขา
“พี่นนท์สบายใจได้ค่ะ ปรายไม่ได้มีค่าขนาดนั้นคนรักของพี่เตเขาก็มีทั้งสวย รวย ฉลาด เขาไม่มาสนใจคนอย่างปรายหรอกค่ะ”หญิงสาวพูดคล้ายว่าน้อยใจในตัวเองที่ไม่ได้มีค่ามากพอสำหรับเตชิน
“แต่ว่า”สามีพูดสีหน้าครุ่นคิด
“เชื่อเถอะค่ะ พี่เตเขาไม่ลดตัวลงมาทำแบบนั้นแน่”
“ก็ได้พี่จะพยายามไม่คิดมาก”ชายหนุ่มถอนหายใจยาวแล้วมือหนาจับมือบางมากุมไว้แน่นราวกับกลัวจะเสียของรักไป
ด้านเตชินที่ยังนอนคิดถึงรอยจูบแสนหวานเรือนร่างบางโยกย้ายเย้ายวนอารมณ์ เสียงหวานที่ครางอยู่ในลำคอทำให้ใจเขากระเจิดกระเจิงอยากจะระบายความใคร่ แต่ตอนนี้เขากลับไม่อยากออกไปหาความสุขจากผู้หญิงที่ไหนนอกจากปรายฟ้า ผู้หญิงที่เขาไม่มีสิทธิ์ที่จะแตะต้องด้วยซ้ำ ชายหนุ่มพยายามข่มตาให้หลับแต่ภาพที่ได้คลอเคลียกันลอยเข้ามาในหัว
“เป็นบ้าอะไรวะ”เตชินบ่นกับตัวเองไม่เข้าใจว่าทำไมถึงได้ต้องการเธอคนมีเจ้าของมากขนาดนี้ ทั้งที่มีผู้หญิงมากมายพร้อมที่จะพลีกายให้แต่เขากลับไม่ต้องการพวกเธอเลยสักนิด
“ฮัลโหล เอมมี่ตอนนี้คุณสะดวกไหม”ชายหนุ่มโทรศัพท์หาคู่ขา เขาทนกับอารมณ์แบบนี้ไม่ไหวอีกแล้วเขาต้องหาที่ระบาย
“สะดวกค่ะ เจอกันที่ไหนดี”เอมมี่ไม่ถามอะไรมาก เพราะเธอคิดถึงเขา
“ไปที่คอนโดผมละกัน”
“ทำไมไม่ให้ไปที่บ้านล่ะ หรือว่ากลัวแม่”
“อย่าถามมากผมไม่ชอบ”ชายหนุ่มเสียงเข้ม
“ก็แค่แหย่เล่นนิดเดียว อย่าโกรธสิคะ ถ้ายังไงอีกหนึ่งชั่วโมงเจอกันที่คอนโดคุณนะคะ”เอมมี่วางสายแล้วรีบไปแต่งตัวหาชุดที่เซ็กซี่ที่สุด เพื่อให้เขาถูกใจในความเซ็กซี่ของเธอ ด้านเตชินเมื่อแต่งตัวเสร็จก็ออกจากห้องยืนมองประตูห้องของโตนนท์ในใจก็หวังว่าปรายฟ้าจะเปิดประตูออกมาเขาอยากเห็นใบหน้าหวานแต่ดึกป่านนี้แล้วเธอคงไม่ออกมาข้างนอกแน่จึงตัดสินใจเดินลงบันไดไป แล้วเสียงประตูห้องก็ดังขึ้นใบหน้าคมรีบหันไปดูก็เห็นปรายฟ้าเดินออกมาแล้วยืนตกใจที่เตชินยืนมองเธออยู่ทั้งสองมองตากันนิ่งงันไม่มีใครขยับเขยื้อนแม้แต่น้อยให้สายตาสื่อทุกสิ่ง
“ออกมาทำอะไร”เสียงเข้มเอ่ยขึ้นเห็นว่าดึกแล้วเธอออกมาทำอะไร ปรายฟ้าไม่ตอบหลบสายตาแล้ววิ่งเข้าห้องปิดประตูเงียบยืนแอบอยู่ที่หลังบานประตูใจสั่นที่ได้เห็นเขาเธอเองก็นอนไม่หลับคิดถึงแต่เขาวนเวียนไปมา เมื่อได้ยินเสียงประตูห้องอื่นดังก็สงสัยว่าเป็นของเขาหรือไม่จึงออกมาดูเพราะอยากเห็นหน้าเขาเพียงนิดเดียวก็มีความสุขแต่พอเห็นเขาจริงๆกลับเป็นเธอที่อายไม่กล้าเผชิญหน้าได้แต่วิ่งหนีทั้งที่ใจอยากเข้าไปหา
ด้านเตชินยืนมองกิริยาของหญิงสาวแล้วอมยิ้มอยากจะเข้าไปฟัดให้หายคิดถึง แต่ก็คงทำได้แค่มองอยู่ตรงนี้เธอไม่ใช่คนที่เขาควรเข้าใกล้ ต้องฝืนใจทำตัวออกห่างเธอให้ได้
