บาปรักครรภ์มาร - 3
สาวน้อยพึมพำกับตัวเองแล้วทิ้งที่ทดสอบการตั้งครรภ์ในมือลงถังขยะข้างๆ เพื่อจะไปโรงพยาบาลเพื่อตรวจดูให้ละเอียดว่าตัวเองกำลังตั้งครรภ์จริงไหม และอยากถามคุณหมอด้วยว่าถ้าจริงแล้วมันเป็นไปได้ยังไงทั้งๆ ที่เธอกินยาคุมสม่ำเสมอไม่เคยลืมเลยสักครั้ง
หนามกลับมาบ้านในตอนดึก เปิดฝาชีครอบอาหารออกแล้วก็มองกับข้าวที่ถูกจัดเตรียมไว้ให้ตนบนโต๊ะทานข้าวในห้องครัวขนาดเล็กของตนแล้วดึงลากเก้าอี้ออกมานั่งเพื่อจะได้นั่งทาน เย็นนี้มีแกงจืดหมูเด้ง ผัดพริกแกงหมูใส่ถั่วฝักยาว และไข่เจียว
“อือ...คงนอนแล้วมั้ง” เมื่อตักข้าวจากโถที่วางข้างๆ กันใส่จานแล้วเขาก็พึมพำถึงคนเตรียมไว้ให้แล้วก็เริ่มลงมือทานข้าวตรงหน้า ถึงจะกลับดึกแค่ไหน เขาก็จะกลับมาทานข้าวที่บ้าน เพราะติดรสมือของโมนา จะมีระหว่างวันเท่านั้นที่ทานข้าวที่โรงอาหารกับคนงานในเหมือง
เวลาผ่านไปไม่ถึงยี่สิบนาที หนามก็ทานข้าวอิ่มและเก็บกับข้าวที่เหลือไว้ที่เดิมโดยใช้ฝาชีครอบอาหารไว้เหมือนเดิมเพื่อให้โมนามาเก็บพรุ่งนี้เช้า แล้วตัวเขาก็เดินกลับห้องเพื่อไปอาบน้ำนอนพักผ่อนและทำกิจกรรมกลางคืนกับสาวน้อย พอเปิดประตูเข้ามาในห้อง คนที่ตนเองคิดว่านอนหลับแล้วนั่งอยู่ปลายเตียงมองมาทางตน
“ยังไม่นอนเหรอ ดีเลยจะได้ไม่ต้องปลุกให้เสียเวลา” เขาบอกเธอแล้วเดินมาหยุดตรงหน้าหญิงสาว
“โมนามีเรื่องจะบอกคุณหนามค่ะเลยยังไม่นอน” เธอคิดมาทั้งวันว่าจะบอกเขาดีไหม แต่เรื่องนี้ยังไงเขาก็ต้องรู้ เพราะเขาคือ ‘พ่อเด็ก’ ในท้องเธอ
“สำคัญไหม ถ้าไม่สำคัญค่อยบอกพรุ่งนี้” เขาก้มหน้าบอกคนตัวเล็กที่นั่งปลายเตียงตรงหน้าตน
“คือ...” เธออ้ำอึ้งไม่กล้าบอก มันสำคัญสำหรับเธอ แต่ไม่รู้ว่าสำหรับคนเย็นชาตรงหน้านี้มันสำคัญไหม
“ถ้าจะบอกก็บอกมา อย่าชักช้าลีลาอยู่ได้” เขาบอกเร่งเมื่อเห็นเธออ้ำอึ้ง
“โมนาท้องค่ะคุณหนาม” เธอเงยหน้าบอกเขาและนั่นทำให้เขาเม้มปากแน่นหมุนตัวหันหลังเดินหนีจากไปยืนเท้ามือกับขอบประตูห้องน้ำแน่น อีกมือยกขึ้นนวดคลึงขมับอย่างใช้ความคิด สาวน้อยจึงลุกขึ้นเดินตามไปยืนด้านหลังของชายหนุ่มแล้วบอกย้ำอีกครั้ง
“โมนาท้องค่ะ”
“เออ! ไม่ต้องย้ำ รู้แล้ว ไม่ได้หูหนวก” เขาหันมาตะโกนใส่หน้าเธอแล้วหันหน้าหนีเหมือนเดิมพร้อมนวดคลึงขมับอย่างใช้ความคิดแล้วก็หมุนตัวเองหันหน้ามาทางสาวน้อยที่อยู่ด้านหลังแล้วบอกสิ่งที่ตัวเองเพิ่งคิดได้ทันทีว่า
“ไปเอามันออกซะ! ฉันไม่ต้องการไอ้มารหัวขนในท้องเธอ” เสียงทุ้มห้าวดังขึ้นกรีดใจของสาวเจ้า
“แต่เขาคือลูกของคุณนะคะคุณหนาม” เธอพูดเสียงสั่นสะอื้นทั้งน้ำตา แม้จะเตรียมใจไว้แล้วว่าจะได้รับคำตอบที่กรีดเฉือนหัวใจแบบนี้
“หึหึ...แล้วไง ลูกฉันแล้วไง ฉันไม่ต้องการให้มันเกิดมา ถ้าจะเก็บมันไว้ก็พามันออกไปจากบ้านฉัน รวมทั้งเธอด้วยโมนา” แล้วเขาก็เดินไปกระชากเปิดบานประตูของตู้เสื้อผ้าแล้วหยิบเสื้อผ้าของโมนาที่อยู่ในตู้ออกมากองที่พื้นพร้อมหยิบกระเป๋าเดินทางใบเล็กที่หลังตู้เสื้อผ้าลงมาเปิดรูดซิปแล้วหยิบยัดเสื้อผ้าของหญิงสาวใส่ในกระเป๋า
“มะ...ไม่นะคะคุณหนาม โมนาไม่ไปค่ะ”
น้ำเสียงสะอื้นไห้ดังขึ้นห้ามพร้อมกับเดินมากระชากมือใหญ่ให้หยุดยัดเสื้อผ้าตัวเองใส่กระเป๋า
“งั้นก็ไปเอาเด็กออก ถ้าไม่อยากไปจากที่นี่” เขาหยุดมือที่ยัดเสื้อผ้าพร้อมบอกสาวน้อยเสียงเข้มขรึม
“มะ...ไม่นะคะ โมนาไม่ฆ่าลูกตัวเองหรอกคุณหนาม โมนาจะเก็บเขาไว้” เธอส่ายหน้ายืนยันคำเดิม
“งั้นก็ไสหัวไปให้พ้นหน้าฉัน ตุ้บ!”
เขาทิ้งกระเป๋าเดินทางในมือแล้วเดินออกจากห้องไปไม่สนใจคนตัวเล็กที่ทรุดตัวนั่งลงกับพื้น
ฮือๆๆ
“คนใจร้าย! อึก! ฮือๆๆ”
เธอหยิบเสื้อผ้าที่กองตรงหน้าที่ยังไม่ถูกยัดใส่กระเป๋าเข้ามากอดทั้งน้ำตา
ปัง! ปัง! ปัง!
เสียงทุบตีประตูหน้าห้องดังขึ้นทำให้เจ้าของบ้านต้องรีบตื่นมาเปิดดูว่าใครกันมารบกวนเวลาหลับเวลานอนตัวเองในยามดึกดื่นแบบนี้ พอเปิดประตูออกมาก็เห็นเป็นเจ้านายหนุ่ม จากที่อ้าปากจะด่าให้ก็ต้องหุบแทบจะทันที
“นาย”
