ตอนที่ 6 เสี่ยวจื่อและจื่อหลง
ตอนที่ 6 เสี่ยวจื่อและจื่อหลง
'เหอะ… ก็แล้วไส้เดือนที่ไหนมันพูดได้กันล่ะ! แล้วนั่น… ชื่อข้าจากพี่ไส้เดือนเฉยๆ กลายเป็นพี่ไส้เดือนปลอมไปแล้วรึ? ...ทั้งที่ความจริงก็รู้ชื่อข้าอยู่ชัดๆ แต่ไม่ยอมเรียก เหอะ! '
นั่นเป็นเรื่องที่เฟยหลงคิด แต่ไม่ได้พูดออกมา เริ่มจับทางได้แล้วว่าเจ้าต้นไม้โง่นี่ให้ความสำคัญกับเรื่องพูดคุยมาก ทำให้อยู่ๆ ก็นึกแผนชั่วขึ้นมาได้อย่างหนึ่ง…
“….เสี่ยวจื่อ…ในเมื่อเจ้าและข้าต่างรู้ชื่อกันดีทั้งยังอยู่ด้วยกันมาได้ตั้งครึ่งปีแล้ว ต่อไปนี้ข้าจะเรียกเจ้าว่าเสี่ยวจื่อ… และถ้าเจ้าอยากคุยกับข้าก็ต้องเรียกข้าว่าเฟยหลงด้วย! ไม่เช่นนั้นข้าจะไม่คุยกับเจ้า!”
ยื่นข้อเสนอไปเสร็จแล้วก็กระหยิ่มยิ้มย่องในใจ… เรื่องความฉลาดเจ้าเล่ห์ไม่มีใครเกินข้าอีกแล้ว!
“เอ๋… ทำไมอยู่ๆ พี่ไส้เดือนปลอมๆจะไม่คุยกับเสี่ยวจื่อล่ะ? ….”
“………….”
“เสี่ยวจื่อเรียกว่าพี่ไส้เดือนก็คุยกันได้นี่น่า……”
“………….”
“ถ้าเรียกชื่อว่าเฟยหลง แล้วคนอื่นก็เรียกพี่ไส้เดือนว่าเฟยหลงเหมือนกัน ถ้าเสี่ยวจื่อเรียกด้วย เสี่ยวจื่อก็ไม่พิเศษน่ะสิ….”
เฟยหลงนิ่งฟังเงียบๆ อยู่นาน มาสะดุดเอาไอ้คำสุดท้ายนี่แหละ
“หมายความว่า ที่ผ่านมาที่เจ้าเรียกข้าว่าพี่ไส้เดือนเพราะอยากพิเศษกว่าคนอื่นงั้นเหรอ? …”
“อื้ม! เสี่ยวจื่อชอบเป็นคนพิเศษ ยิ่งกับพี่ไส้เดือน เสี่ยวจื่อยิ่งอยากเป็นคนพิเศษของพี่ไส้เดือนที่สุดเลย _“….O///O….”
เฮ้ย! … ไม่ได้การ นี่ข้ากำลังโดนเจ้าต้นไม้โง่นี่เต๊าะอยู่รึเปล่านะ? ….
แท้จริงแล้วที่เจ้าต้นไม้นี่ขยันกวนใจข้าพยายามพูดคุยกับข้าเป็นเพราะเขาชอบข้างั้นรึ? …..
“อืม… งั้นเห็นแก่ที่เจ้าชอบข้าขนาดนี้… ข้าจะให้เจ้าเรียกชื่อข้าว่าอย่างอื่นแทนชื่อเฟยหลงก็ได้ แต่ไอ้คำว่าไส้เดือนนี่ไม่เอานะ!”
แล้วอยู่ๆ ก็เผลอทำตัวใจดีอะลุ่มอล่วยให้เจ้าต้นไม้โง่นี้ไปโดยมิได้ตั้งใจซะอย่างงั้น
แต่ลึกๆ แล้วความรู้สึกว้าวุ่นบางอย่างก็ยังมีอยู่ เพราะตั้งแต่เกิดมาห้าร้อยปียังไม่เคยมีใครแสดงออกว่าชอบเขามาก่อน จึงได้ขยับหางยาวๆ ของตัวเองออกไปเขี่ยๆ เจ้าไส้เดือนตัวจริงที่กำลังพรวนดินอยู่ไม่ไกลและกำลังทำท่าว่าจะหันมาพรวนดินแถวๆ นี้แล้วให้ออกไปให้ไกลขึ้น…
เสี่ยวจื่อเป็นต้นไม้พลังหยินหยางของข้านะ เรื่องอะไรที่ข้าจะต้องแบ่งให้คนอื่นกัน!
“ง่า… พี่ไส้เดือนเรียกเสี่ยวจื่อว่าเสี่ยวจื่อ งั้น… เสี่ยวจื่อเรียกพี่ไส้เดือนว่าจื่อหลงดีกว่า!”
คิดชื่อใหม่ได้แล้วเสี่ยวจื่อก็ยิ้มน้อยยิ้มใหญ่ดีใจนัก ชื่อนี้ไม่เหมือนใครทั้งยังมีคำว่าจื่อเหมือนเสี่ยวจื่อด้วย!
เฟยหลงเองฟังแล้วในตอนแรกก็รู้สึกขัดใจกับคำเรียกขานราวกับเด็กเล็กๆ แบบนี้… แต่คิดไปคิดมา เขาก็ยังเป็นงูเด็กจริงๆ บำเพ็ญเพียรมาได้แล้วห้าร้อยปี ร่างปีศาจก็ยังเป็นเพียงร่างงูเด็ก แถมร่างคนที่ควรจะต้องโตเท่าเด็กอายุสิบห้าแล้วก็ยังมาโดนแม่เฒ่าปีศาจสาปให้คงสภาพเป็นเด็กน้อยไปซะอีกจนข้าไม่กล้าแปลงร่างเป็นคนอีกเลย เช่นนั้นแล้วช่วงนี้ก็ให้เสี่ยวจื่อเรียกว่าจื่อหลงไปเถอะ ยังไงก็คงจะดีกว่าเรียกว่าพี่ไส้เดือนแน่ๆ หล่ะ…
“อืม… จื่อหลงก็จื่อหลง… นอกจากเจ้าแล้วข้าไม่ยอมให้ใครเรียกชื่อข้าแบบนี้อีกหรอกนะ…."
“เย่! ดีจังเลย เสี่ยวจื่อพิเศษกว่าคนอื่นของจื่อหลงแล้วใช่มั้ย?”
พูดถามไป ตาก็จ้องมองแป๋วแหววมาที่จื่อหลงอย่างคาดหวัง…
‘นี่เจ้าเสี่ยวจื่อนี่ชอบข้ามากขนาดนี้เลยรึ? ….’
“อืม… เจ้าพิเศษกว่าคนอื่นจริงๆ สบายใจเถอะ…."
อันนี้เฟยหลงพูดจริงไม่ได้โกหกสักนิด ตั้งแต่เกิดมาคนที่ได้ใกล้ชิดก็มีแค่แม่เฒ่าปีศาจกับเสี่ยวจื่อสองคน ดังนั้นถ้าถามว่าเสี่ยวจื่อพิเศษมั้ยก็ต้องบอกว่าพิเศษแหละ… อย่างน้อยก็พิเศษกว่าแม่เฒ่าปีศาจโรคจิตผู้นั้นแน่ๆ
“อื้ม! เสี่ยวจื่อสบายใจแล้ว! "
“ดีมาก….”
ได้รับคำชมแบบที่นานๆ ทีจะได้ยินจากเพื่อนคนนี้ เสี่ยวจื่อก็มีความสุขนัก ยิ้มร่าไปหันมองรอบตัวไป ตั้งใจจะอวดเรื่องนี้ให้พี่ไส้เดือนตัวใหม่ได้ฟัง จนได้ไปเห็นว่าในตอนนี้ไส้เดือนตัวนั้นกำลังถูกหางของจื่อหลงเขี่ยๆ อยู่นั่นแหละจึงได้รีบร้องถามขึ้นอย่างตกใจ
"จื่อหลง! จื่อหลงจะเขี่ยพี่ไส้เดือนจริงๆ ออกไปทำไมอ่า… เสี่ยวจื่อเป็นต้นไม้ที่โตแล้ว จำเป็นต้องมีไส้เดือนมาคอยพรวนดินให้นะ จื่อหลงอยู่กับเสี่ยวจื่อทุกวันก็ไม่เคยพรวนดินให้เลย เอาแต่นอนพันต้นเสี่ยวจื่อเฉยๆ แล้วแบบนี้เสี่ยวจื่อจะโตได้ยังไงกัน พี่ไส้เดือนจริงๆ อุตส่าห์ใจดีจะมาพรวนดินให้เสี่ยวจื่อทั้งที จื่อหลงเป็นเพื่อนของเสี่ยวจื่อก็ต้องทำตัวดีๆ กับเขาหน่อยสิ!”
เฟยหลงกำลังอารมณ์ดีๆ ถูกทักแบบนี้หางที่เขี่ยๆ ไส้เดือนตัวนั้นอยู่ก็เป็นอันชะงักไป ก่อนที่จะเริ่มตวัดเขี่ยใหม่อีกครั้ง คราวนี้เขี่ยแรงจนเจ้าไส้เดือนจริงๆ ตัวนั้นปลิวออกไปไกลหลายคืบเลยทีเดียว
“อ๋า…. พี่ไส้เดือนจริงไปแล้ว แล้วอย่างนี้ใครจะพรวนดินให้เสี่ยวจื่อกันล่าาาาา”
เสี่ยวจื่อเริ่มจะงอแงโวยวายขึ้นมาบ้าง พี่ไส้เดือนจริงๆ แม้จะพูดไม่ได้แต่ก็มีประโยชน์มาก จื่อหลงมาไล่ไปแบบนี้แล้วจะทำยังไงล่ะ!
เฟยหลงเห็นเสี่ยวจื่อโวยวายที่เขาไล่เพื่อนใหม่ไปก็ยิ่งขัดใจนัก
“กะอีแค่พรวนดินแค่นี้ ข้าทำให้ก็ได้เถอะ!”
ว่าแล้วเฟยหลงก็จัดการเลื้อยมุดขึ้นมุดลงที่บริเวณใต้ต้นของเสี่ยวจื่อนั้นเอง จังหวะที่เลื้อยผ่านรากน้อยๆ ของเสี่ยวจื่อก็ได้ยินเสียงหัวเราะคิกคักคล้ายกับจั๊กจี้ดังมาตลอด เฟยหลงก็ยิ่งนึกสนุกยิ่งเลื้อยไปแลบลิ้นเลียรากและลำต้นของเสี่ยวจื่อไปอย่างเพลินใจ
“เป็นไง ข้าพรวนดินเก่งใช่มั้ยล่า หึหึ…”
“อื้ม! จื่อหลงพรวนดินเก่งกว่าพี่ไส้เดือนทุกตัวเลย _
“…ห๊ะ?!!! …."
“หือ? … จื่อหลงหยุดทำไมอ่า? ….”
"!!!! หึ้ย!!!! นี่ปีศาจงูที่องอาจอย่างข้ามาทำเรื่องบ้าๆ อะไรอยู่กันเนี่ย!!! หงุดหงิดโว้ย!!!!”
ตั้งสติได้แล้วเฟยหลงก็ถึงกับเลิกเลื้อยเลิกมุดหน้าพรวนดินแล้วรีบสะบัดตัวสะบัดหางเลื้อยหนีออกไปจากต้นของเสี่ยวจื่อทันที!
…แต่เลื้อยไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้ สุดท้ายก็เลื้อยกลับมานอนขดพันร่างของเสี่ยวจื่อไว้อีกอยู่ดี….
‘เกือบโมโหจนลืมไปแล้วว่าเจ้าเสี่ยวจื่อนี่นับเป็นสมบัติล้ำค่า… ขืนข้าทิ้งไปแล้วมีปีศาจตัวอื่นมาแย่งก็แย่น่ะสิ!’
แล้วหลังจากนั้นพื้นที่ข้างกายของเสี่ยวจื่อก็ไม่เคยได้ว่างเว้นอีกเลย เพราะมีลูกปีศาจงูดำตัวหนึ่งมาสร้างถิ่นฐานจับจองไว้ไม่ไปไหนต่อมาอีกนานหลายปี ท่ามกลางความผูกพันของหนึ่งงูหนึ่งต้นไม้ที่เพิ่มมากขึ้นในทุกๆ วัน
และเพราะเจ้างูดำตัวนั้นเป็นสัตว์ที่ขี้หวงของของตนเองมาก เสี่ยวจื่อจึงมิได้มีโอกาสได้เจอเพื่อใหม่เข้ามาแวะเวียนให้เห็นใกล้ๆ อีกเลยเพราะทุกตัวล้วนถูกจื่อหลงไล่ไปหมด นับว่าเป็นเรื่องที่น่าเสียดายนัก…
‘แต่ไม่เป็นไร จื่อหลงดีกับเสี่ยวจื่อมาก ยอมพูดคุยเป็นเพื่อนกับเสี่ยวจื่อทุกวัน แค่นี้ก็พอแล้ว เสี่ยวจื่อมีจื่อหลงแล้ว ไม่ต้องมีคนอื่นอีกก็ได้ _ในที่สุดจากพืชที่ไม่มีความปรารถนาใดๆ นอกจากเติบโตไปวันๆ มายาวนาน มาตอนนี้เสี่ยวจื่อก็เริ่มมีความรู้สึกไม่อยากที่จะต้องเห็นเพื่อนคนนี้จากไปขึ้นมาอย่างไม่อาจห้าม….
______________
ขอบคุณคอมเมนต์ค่า
