ตอนที่ 2
ฉะนั้นหนุ่มนักธุรกิจหน้าตาหล่อเหลาระดับนายแบบจึงต้องไปตามน้ำ รับหมั้นกับยัยแว่นหนาเตอะที่เขามองไม่เห็นเสน่ห์ของเจ้าหล่อนเลยสักนิดไว้ก่อนที่จะหาทางแก้เผ็ดพาหล่อนไปอยู่กับเขาที่อู่ต่อเรือและทำให้หล่อนหลาบจำอยากกลับบ้านภายในสามวันเจ็ดวันเลยทีเดียว
“ซินหมี่...พี่ถามอีกครั้งนะ เธออยากไปอยู่ที่อู่ต่อเรือของพี่จริง ๆ เหรอ?”
“แหม...อยากไปจริง ๆ สิคะ หมี่ไม่ค่อยได้ไปเที่ยวที่ไหนก็อยากออกไปเปิดหูเปิดตาบ้าง ที่สำคัญพี่วัฒน์อุตส่าห์ชวนหมี่แบบนี้แล้วหมี่จะปฏิเสธได้ยังไงกันคะ”
“ถ้าอยู่ไม่ได้ยังไงก็บอกพี่แล้วกันนะ”
พรรษวัฒน์แกล้งหยั่งเชิงโดยที่เขาไม่รู้ตัวเองเลยว่าทุกอิริยาบถกำลังตกอยู่ในสายตาที่มองผ่านแว่นหนาเตอะบนใบหน้าสวยหวาน ธัญญาคิดในใจว่าทำไมเธอจะอยู่กับคู่หมั้นไม่ได้ เธอรอคอยเวลานี้มานานแสนนาน เวลาที่ได้อยู่กับชายหนุ่มในฝันที่เธอแอบหลงรักเขาตั้งแต่ก่อนที่พรรษวัฒน์จะไปเรียนต่อเมืองนอกแล้วกลับมาบริหารบริษัทออกแบบและต่อเรือของครอบครัวซึ่งมีความสัมพันธ์กันแน่นแฟ้นกับครอบครัวของหล่อนแต่ไหนแต่ไร
“หมี่คิดว่าหมี่อยู่ได้ค่ะ...ถ้ามีพี่วัฒน์อยู่ด้วย”
ธัญญากล่าวยิ้ม ๆ และมองใบหน้าหล่อเหลาของพรรษวัฒน์ด้วยใจเต้นตุ๊ม ๆ ต่อม ๆ เพราะตอนแรกหล่อนคิดว่าพ่อแม่จะไม่ให้เดินทางไปต่างจังหวัดกับเขาสองต่อสอง แต่ผิดคาดเมื่อพ่อกับแม่ของหล่อนอนุญาตแถมแม่ของคู่หมั้นหนุ่มก็ยังเห็นชอบด้วย หญิงสาวนั่งอมยิ้มและมองออกไปนอกหน้าต่างรถโดยไม่ได้สังเกตใบหน้าของพรรษวัฒน์ที่เปลี่ยนเป็นขัดใจ
เดี๋ยวเถอะน่า ยัยแว่น...เดี๋ยวหล่อนคงได้รู้สึกว่าการไปอยู่กับเขาสองต่อสองไม่ใช่เรื่องโรแมนติกอย่างที่หล่อนคิด ชายหนุ่มนึกในใจขณะบึ่งรถมุ่งหน้าออกต่างจังหวัดกระทั่งไปถึงอู่ต่อเรือขนาดใหญ่ของศิริภัสรา ชิพ ซึ่งเป็นอู่ต่อเรือที่มีพื้นที่กว้างใหญ่มากอยู่ริมปากแม่น้ำเจ้าพระยาในเขตจังหวัดสมุทรปราการ
พรรษวัฒน์พารถเอสยูวีของเขาแล่นเข้าไปจอดที่หน้าบริเวณบ้านหลังหนึ่งที่มีโครงสร้างจากไม้ทั้งหลัง มันตั้งอยู่ในเขตพื้นที่กว้างขวางของอู่ต่อเรือ เป็นบ้านรูปทรงสมัยใหม่โอบล้อมด้วยต้นไม้และมองเห็นทัศนียภาพของแม่น้ำอย่างชัดเจน และเมื่อรถจอดลงสนิทธัญญาก็มองไปรอบ ๆ สถานที่ด้วยแววตาบอกความตื่นใจ
“โอ...สวยมากเลยค่ะพี่วัฒน์ นี่เป็นบ้านของพี่วัฒน์เหรอคะ?”
“มันเป็นบ้านพักน่ะ พี่จะมาอยู่ที่นี่เวลามีงานเร่งด่วน ลงมาก่อนสิ”
พรรษวัฒน์เชิญชวนแม้ลึก ๆ ในใจเขาจะยังรู้สึกแปลก ๆ ที่ต้องเดินทางมาที่นี่พร้อมกับคนที่เขาไม่นึกจะคุ้นเคยอย่างธัญญา แม่สาวหน้าใสแว่นหนาที่ทำให้หล่อนดูจืดเหมือนสาวบรรณารักษ์ที่ชอบขลุกอยู่ในห้อวงสมุดอย่างไรอย่างนั้น
“พี่วัฒน์คะ...หมี่ขอเดินไปดูที่ท่าน้ำหน่อยได้มั้ยคะ”
ธัญญาหันมาถามชายหนุ่มเมื่อลงจากรถและมองเห็นศาลาที่สร้างยื่นลงไปในแม่น้ำ พรรษวัฒน์พยักหน้าอย่างเนือย ๆ
“เอาสิ...ตามสบาย”
พอเขาบอกหญิงสาวก็วิ่งลงไปที่ศาลาอย่างลิงโลด ชายหนุ่มถอนใจขณะหยิบกระเป๋าใบใหญ่ของหล่อนลงมาจากด้านท้ายรถ ท่าทางหล่อนจะตื่นเต้นมากกับการมาที่นี่ซึ่งสำหรับเขาแล้วช่างเป็นเรื่องงน่าเบื่อหน่ายเสียนี่กระไร แต่ไม่ทันที่เขาจะปิดประตูรถก็ได้ยินเสียงร้องดังขึ้นที่ท่าน้ำ
“ว้าย!!”
พรรษวัฒน์หันไปมองก็เห็นร่างเล็กบางของธัญญาล้มลงไปนั่งอยู่ที่พื้นศาลา ชายหนุ่มรีบวางกระเป๋าแล้ววิ่งตามลงไปดู
“ซินหมี่...เป็นอะไรรึเปล่า!”
ชายหนุ่มร้องถามขณะวิ่งเข้าไปประคองร่างเล็กให้ลุกขึ้นและในจังหวะนั้นเองที่ธัญญากำลังยื่นมือออกไปควานหาอะไรบางอย่างบนพื้น
“พี่วัฒน์คะ...แว่นของหมี่...แว่น...”
หญิงสาวซึ่งยังนั่งบนพื้นกวาดมือไปทั่วแต่แล้วใบหน้าหวานก็หันมาเกือบชนกับใบหน้าของพรรษวัฒน์ที่ก้มลงไปหา ริมฝีปากชนริมฝีปากเข้าอย่างจังแต่คนที่ตกใจมากกว่าคือชายหนุ่ม เขาไม่ได้แค่ตกใจแต่ยังตกตะลึงเมื่อได้เห็นใบหน้าใสๆ ของธัญญาตอนเธอไม่ได้สวมแว่นตาอย่างชัดเจน
