ตอนที่ 1
“สวัสดีค่ะ พี่วัฒน์...หมี่พร้อมแล้วนะคะ”
เสียงหวานที่ดังขึ้นทำให้พรรษวัฒน์ซึ่งยืนรออยู่ที่รถเอสยูวีของเขาด้วยสีหน้าบึ้งตึงหันไปมองและพบกับสาวสวยหน้าใสผมยาวตรงดำขลับวัยยี่สิบแต่สวมแว่นตาหนาเตอะในชุดกระโปรงชีฟองกำลังหอบหิ้วกระเป๋าเดินทางใบใหญ่มาวางไว้ข้าง ๆ รถ หนุ่มวัยสามสิบเจ้าของความสูงร้อยเจ็ดสิบแปดเซ็นติเมตรในชุดลำลองมองเจ้าหล่อนด้วยสีหน้าตึงนิด ๆ
“เสร็จแล้วก็ไปกัน” เขาพูดสั้น ๆ แต่ไม่ทันจะเปิดประตูรถด้านคนขับสาวเจ้าก็พูดขึ้นว่า
“พี่วัฒน์บอกคุณป้าปริมรึยังคะว่าเราจะไปสมุทรปราการวันนี้”
“บอกแล้ว” เขาตอบห้วน ๆ แล้วพลิกดูนาฬิกาข้อมือ “รีบไปกันเถอะ นี่มันก็สายมากแล้ว”
“พี่วัฒน์คะ”
“อะไรอีกล่ะซินหมี่...เธอนี่มันเรื่องมากซะจริงนะ ขืนช้าแบบนี้แล้วเมื่อไหร่จะได้ไปกัน”
“พี่วัฒน์ช่วยยกกระเป๋าใส่ในรถให้หมี่หน่อยซีคะ”
ธัญญาพูดเสียงอ่อย ๆ หล่อนรู้ว่าพรรษวัฒน์ไม่ค่อยสบอารมณ์สักเท่าไหร่ที่ต้องพาเธอไปสมุทรปราการกับเขา แต่หญิงสาวก็จำได้ว่าการเดินทางครั้งนี้เป็นข้อเสนอของเขาเองที่อยากพาหล่อนซึ่งเพิ่งหมั้นกับเขาเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาไปอยู่ช่วยดูแลที่บ้านพักในอู่ต่อเรือขนาดใหญ่ซึ่งเขาเป็นเจ้าของ พรรษวัฒน์แกล้งถอนหายใจแล้วเดินอ้อมมาอีกฝั่งของรถเพื่อช่วยยกกระเป๋าใบใหญ่ของธัญญาใส่ไว้ในรถ
“ขอบคุณนะคะ พี่วัฒน์”
ธัญญายิ้มหวานให้แต่ชายหนุ่มกลับทำหน้าบึ้งตึงเหมือนเคย
“เสร็จแล้วก็ไปกัน...พี่ไม่มีเวลามากนัก”
“ค่ะ”
สาวสวยผมตรงนัยน์ตาคมมองลอดแว่นของหล่อนไปยังร่างสูงของคู่หมั้นหนุ่มแล้วอดที่จะยิ้มกับตัวเองไม่ได้ก่อนเปิดประตูก้าวขึ้นรถเอสยูวีคันใหญ่ที่หลังจากนั้นมันได้ทะยานออกไปโดยมีจุดหมายคืออู่ต่อเรือที่พรรษวัฒน์เป็นเจ้าของในจังหวัดสมุทรปราการ
ธัญญาพึ่งรับหมั้นนักธุรกิจหนุ่มหน้าตาคมคายเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว นี่เป็นความฝันของหล่อนเพราะธัญญาแอบรักพรรษวัฒน์ตั้งแต่ก่อนที่เขาจะไปเรียนต่อเมืองนอกแล้วกลับมาสานต่อกิจการของครอบครัวท่ามกลางความเห็นชอบของผู้ใหญ่ทั้งฝ่ายเธอและเขาโดยเฉพาะ ปริม มารดาของพรรษวัฒน์ที่สั่งกับว่าที่ลูกสะใภ้ไว้เป็นนักเป็นหนาก่อนที่เธอจะเดินทางว่า
“หนูต้องรู้จักเอาใจตาวัฒน์นะจ๊ะ ลูกชายป้าออกจะเป็นคนเจ้าอารมณ์นิด ๆ ใจร้อนหน่อย ๆ แต่ถ้าหนูรู้จักทำตัวเป็นน้ำก็จะทำให้ตาวัฒน์อารมณ์เย็น จุดอ่อนของลูกชายป้าก็คือเขาเป็นคนที่ชอบเห็นอกเห็นใจคนอื่น ไม่ชอบเห็นใครถูกเอาเปรียบ ป้าว่าคิดไม่ผิดที่รับหนูมาเป็นลูกสะใภ้นะจ๊ะ”
“ยิ้มอะไรซินหมี่?”
เสียงห้าว ๆ ที่ดังขึ้นตอนรถกำลังแล่นฉิวทำให้ความคิดของธัญญาหยุดชะงักลง หล่อนเม้มปากเบา ๆ และหันไปตอบ
“ไม่มีอะไรหรอกค่ะพี่วัฒน์”
“แต่พี่เห็นเธอยิ้มน้อยยิ้มใหญ่มาตั้งแต่ออกจากบ้านแล้วนะ”
“ไม่มีอะไรจริง ๆ ค่ะ...ซินหมี่แค่ดีใจเพราะไม่เคยไปเที่ยวสมุทรปราการ นี่เป็นครั้งแรกเลยค่ะ”
ก็แหงล่ะสิ...พรรษวัฒน์นึกในใจ ก็แม่สาวหน้าใสแต่สวมแว่นหนาเตอะเหมือนนักศึกษาจอมขยันที่อยู่แต่บ้านไม่เคยได้ออกไปเห็นเดือนเห็นตะวันอย่างสาวมั่นในเมืองใหญ่จะเคยไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาซะที่ไหนกัน ชายหนุ่มนึกกระหยิ่มยิ้มย่องในใจ เดี๋ยวเถอะ...ถ้าไปถึงอู่ต่อเรือของเขาแล้วจะรู้ว่าเป็นยังไง
พรรษวัฒน์ยังรู้สึกเคืองไม่หายที่เขาถูกบังคับให้หมั้นกับแม่สาวหน้าใสแต่เฉิ่มเชยอย่างธัญญาตามคำสั่งของมารดาที่เขาจะขัดไม่ได้อย่างเด็ดขาด เพราะถ้าขัดใจอาการโรคหัวใจของมารดาอาจจะกำเริบและทำให้เขากลายเป็นลูกอกตัญญูโดยตั้งใจ
