ตอนที่ 5
ตอนที่ 5
“ไอ้โจรบ้า! ฉันบอกให้เอามาไง” แพรนภัสตะโกนบอกเสียงห้วนด้วยความโมโห หญิงสาวสูงไม่ถึงไหล่ของเขาเลยด้วยซ้ำจึงได้แต่กระโดดเหยงๆ ไปมา
“ขอโทษผมเดี๋ยวนี้!” ชายหนุ่มสั่งเสียงเข้ม ผู้หญิงคนนี้บังอาจนักที่มาต่อว่ามหาเศรษฐีอย่างเขาเป็นโจร ส่วนแพนภัสพอได้ฟังคำสั่งก็หยุดกระโดดแล้วทำตาโต ชี้นิ้วมาที่อกตนเองด้วยความไม่เข้าใจ
“เร็ว! ไม่งั้นเธอโดนดีแน่” วิลเลียมย้ำเสียงเกือบจะห้วน
“ไม่! ฉันไม่ผิด คุณนั่นแหละเอากระเป๋าคืนมา อยากได้นักก็ไปหาเอาเอง” ร่างบางสวนกลับเสียงแข็ง ขยับถอยห่างอย่างระแวดระวัง
“ขอโทษผม” ชายหนุ่มเน้นย้ำทีละคำอย่างช้าๆ และชัดๆ ด้วยใบหน้าเอาเรื่องแต่คนฟังอย่างแพรนภัสก็ส่ายหน้าดิก เธอผิดอะไร ทำไมต้องขอโทษไอ้โจรแต่งตัวดูดีนี่ด้วยล่ะ อย่าฝันไปหน่อยเลย
“นี่เธอ!” เขาจ้องเธอเขม็ง ความอดทนชักเริ่มหมด
“ฉันทำอะไรผิดไม่ทราบถึงต้องขอโทษโจร อย่างคุณ!” แพรนภัสถอยห่างอีกพอสมควร แล้วลอยหน้าลอยตาถาม ริมฝีปากบางจิ้มลิ้มเม้มแน่น แล้วตั้งหน้าตั้งตาจ้องอีกฝ่ายแบบไม่ให้คลาดสายตา หากผู้ชายคนนี้จะทำอะไร เธอต้องวิ่งให้เร็วที่สุดนั่นคือสิ่งที่มีอยู่หัวสมองของแพรนภัสหลังจากได้เห็นหน้าโกรธขึงของคนหล่อนิสัยเลว
“ก็ที่เธอ บังอาจมาว่าคนอย่างฉันเป็นโจรไงล่ะ สาวน้อย” เจ้าของร่างสูงใหญ่บอกเสียงเข้มขึ้นมากกว่าเดิม ตาคมหรี่มองจะเอาเรื่องให้ถึงที่สุดและคิดหาวิธีลงโทษสาวน้อยปากดีคนนี้เสียบ้าง หล่อ รวย ล้นฟ้าอย่างเขานี่น่ะหรือเป็นโจร
“ก็แล้วคุณไม่ใช่โจรตรงไหน ในเมื่อคุณมาแย่งกระเป๋าไปจากฉัน” แพรนภัสโต้กลับเสียงห้วนไม่แพ้กัน และยังยืนยันในความบริสุทธิ์ของตัวอย่างแน่วแน่ อย่ามาคิดฝันว่าคนอย่างแพรนภัสจะยอมรับผิด
“งั้นเหรอ” ชายหนุ่มลากเสียงตอบ พร้อมทั้งขยับร่างเข้าใกล้ นำกระเป๋าที่แย่งมาวางไว้กรอบหน้าต่าง ริมฝีปากได้รูปกระตุกยิ้มเยือกเย็น ตาคมกริบจับจ้องไปยังดอกไม้คู่งามที่สะท้านขึ้นลงอย่างน่ามองและน่าลิ้มลอง เขาคาดว่ามันคงให้ความรู้สึกดีเหมือนได้ดื่มนมสดเลยเชียวแหละ แพรนภัสมองตามสายตาคู่คมแล้วรีบยกมือปิดอกอวบเกินตัวของตน ถลึงตาใส่จนได้รับรอยยิ้มบาดใจจากเขาจนตาหวานใสชักจะพร่ามัว พลางสาวเท้าถอยหลังพรืดอย่างระวัง แต่ช้ากว่ามือใหญ่ซึ่งคว้าหมับเข้าที่ต้นแขนของเธอ
“คุณ...คุณจะทำอะไร” หญิงสาวละล่ำละลักถามตาโต มองอย่างระแวดระวัง สะบัดแขนออกจากมือใหญ่แต่ไม่หลุด แถมผู้ชายบ้าแต่ดูดียังใช้ความสงบนิ่งและยิ้มเย็นทำให้เธอชักหวาดกลัว
“นี่! ปล่อยฉันนะ” เสียงแหลมเล็กสั่งเพราะอดทนกับท่าทีคุกคามด้วยความนิ่งเฉยของเขาไม่ไหวอีกต่อไป เธอใช้มืออีกข้างข่วน หยิกไปตามท่อนแขนกำยำ พร้อมเสียงสบถของเขา
“หยุดนะ! แล้วอย่าหาว่าไม่เตือน” เขาขู่เสียงห้วนและเจ็บไม่น้อยตรงรอยโดนข่วนก่อนรวบมือเล็กของหญิงสาวเอาไว้
“จะ...จะทำอะไรฉัน” แพรนภัสเอ่ยถามปากคอเริ่มสั่น เริ่มไม่แน่ใจแล้วว่าตัวเองจะหนีรอดได้ไหม แข้งขาทำไมมันพานอ่อนเปลี้ยแบบนี้ล่ะ ใจก็ไม่กล้าคิดภาวนาขอให้เทพบุตรมาช่วยอีกเพราะกลัวเจอแบบผู้ชายบ้าๆ คนนี้
“แล้วคิดว่าผมจะทำอะไรล่ะ” เขาโน้มใบหน้าเข้ามาใกล้ แพรนภัสหลับตาปี๋แล้วเอียงหน้าหลบลมหายใจอุ่นที่แนบชิดลงมา ริมฝีปากบางเม้มแน่น เธอไม่มีวันเสียจูบแรกให้ไอ้โจรบ้าแน่ๆ แต่ไม่ทันได้ปกป้องริมฝีปากตัวเอง เขาก็กดเรียวปากเข้ามาครอบครองริมฝีปากหวานของเธอทันที เพียงเสี้ยวนาทีต่อมาบวกกับประสบการณ์ที่มากกว่าทำให้หนุ่มหล่อตักตวงหาน้ำหวานจากเรียวปากจิ้มลิ้มได้สมใจ จวบจนร่างสาวเริ่มจะระทวยเพราะไม่เคยถูกจู่โจมแบบถึงเนื้อถึงตัวเช่นนี้มาก่อน
“อื้อ...” เสียงหวานครางประท้วงอยู่ในลำคอ เมื่อจู่โจมแบบไม่ยอมปล่อยง่ายๆ อีกทั้งมือใหญ่ยังกดรั้งท้ายทอยของหญิงสาวไว้มั่นบดเคล้ารสจูบจนกลีบปากหวานเริ่มแดงช้ำ
