บทที่1 ฝรั่งเศส (3)
เธอเห็นพื้นที่กว้างสุดลูกหูลูกตา ระบายด้วยสีที่ธรรมชาติมอบให้ถึงสามเฉดสีด้วยกัน มีทั้งสีม่วงของดอกลาเวนเดอร์ สีเขียวของต้นลาเวนเดอร์ที่ถูกเก็บเกี่ยวดอกไปแล้ว และสีเหลืองของฟางแห้งจากต้นข้าวสาลี พอได้เห็นภาพบรรยากาศเหล่านี้ คุณหนูไฮโซที่ไม่เคยสัมผัสความลำบากจึงเกิดความรู้สึกชื่นชอบที่นี่ขึ้นมาทันที
อย่างน้อยทุ่งดอกลาเวนเดอร์ก็ทำให้เธอรู้สึกดีขึ้นกว่าเมื่อครู่...
รถแล่นเข้ามาไม่ถึงร้อยเมตรด้วยซ้ำจึงจอดลง อ้อมแก้วลงจากรถทันที ซึ่งแดเนียลได้นำกระเป๋าสัมภาระลงจากรถให้เธอด้วย
“ขอบคุณค่ะ” อ้อมแก้วบอกเป็นมารยาท เพื่อที่ว่าจะไม่ถูกเขาตำหนิอีก
ชายหนุ่มพยักหน้าไม่พูดไม่จา ซ้ำทำท่าว่าจะจากไปดื้อ ๆ ทว่าอ้อมแก้วก็เรียกตัวไว้ก่อน
“เดี๋ยวค่ะ”
แดเนียลยกคิ้วขึ้นสูงแทนการเอ่ยปากถาม ปฏิกิริยาของเขานี่เองที่ทำให้อ้อมแก้วรู้ว่า แดเนียลเป็นผู้ชายที่ประหยัดคำพูดมาก ถึงมากที่สุด!
“เอ่อ ฉันอยากรู้ว่าพ่อเป็นไงบ้าง?”
“อาการล่าสุดที่เธอรู้มาว่าไงบ้างล่ะ?”
หญิงสาวเม้มปากจนเห็นรอยบุ๋มของลักยิ้มที่ข้างแก้ม “ก็... ไม่ค่อยดีสักเท่าไหร่”
แดเนียนพยักหน้า
“อะไรคะ?” อ้อมแก้วทำหน้างง ด้วยไม่เข้าใจความหมายที่ชายหนุ่มใช้สื่อสารกับเธอ
“นั่นแหละคำตอบ”
อ้อมแก้วถอนหายใจออกมา ทั้งหนักใจกับคำตอบที่ได้รับ และหนักใจกับวิธีตอบคำถามของญาติตัวเอง
“แล้วตอนนี้พ่อพักอยู่ที่ไหน?”
“โรงพยาบาล ไม่ไกลจากที่นี่มาก เย็น ๆ จะพาไป ถ้าเธออยากไป”
“ฉันอยากไปค่ะ” อ้อมแก้วรีบตอบตกลงทันที
แดเนียลไม่พูดอะไรอีกนอกจากคว้าหมวกปีกกว้างซึ่งแขวนอยู่ที่ต้นเสามาสวมกันแดด จากนั้นเขาจึงเดินห่างออกไป อ้อมแก้วได้แต่มองตามแผ่นหลังกว้างของชายหนุ่มไปด้วยความรู้สึกที่บอกไม่ถูก เธอทำตาปริบ ๆ แล้วเธอก็นึกขึ้นได้ว่า เธอลืมถามเรื่องที่พัก!
“ให้ได้อย่างนี้สิยัยอ้อมแก้ว” หญิงสาวถอนหายใจเบา ๆ เมื่อไม่มีใครสนใจเธออีก ไม่มีแม้แต่แม่บ้านที่จะพาเธอไปยังห้องพักด้วยซ้ำ ปฏิกิริยาจากทุกคนซึ่งดูจะไม่ไยดีเธอสักเท่าไหร่ ทำให้เธอเข้าใจถึงความจริงบางอย่างที่ว่าเธอไม่ใช่คุณหนูวาเลนทีนอีกต่อไป!
คุณหนูวาเลนทีนก็เป็นแค่ความทรงจำในวัยเด็กเท่านั้น!!!
อ้อมแก้วจำได้ว่าเธอเกิดและเติบโตที่ฝรั่งเศสในครอบครัวที่อบอุ่น ชีวิตความเป็นอยู่ในวัยเด็กค่อนข้างสุขสบายเลยทีเดียว เธอเหมือนเจ้าหญิงตัวน้อยของพ่อและแม่ ไม่ว่าเธออยากได้อะไร พ่อก็จะหาสิ่งของที่เธอต้องการมาให้ ที่สำคัญเธอไม่เคยทำงานหนัก! ด้วยอำนาจเงินของพ่อนี่เอง เธอจึงมีพี่เลี้ยงคอยดูแลรับใช้ดังเงาตามตัว
แต่ทว่าทุกอย่างก็เปลี่ยนไปเมื่อเธออายุ 12 ปี!
พ่อกับแม่มีปัญหาเรื่องมือที่สาม ดูว่าผู้หญิงคนนั้นจะอายุน้อย พ่อจึงทั้งรักและหลง สุดท้ายทั้งสองจึงตัดสินใจแยกทางกัน แม่พาเธอกลับเมืองไทยและใช้ชีวิตอยู่ที่นั่นกับตาและยาย ด้วยฐานะอันมั่งคั่งของทางครอบครัวของแม่ ไม่ทำให้เธอลำบากแต่อย่างใด
ในช่วงปิดเทอมของทุกเทอม เธอจึงได้เดินทางกลับมาฝรั่งเศสเพื่อหาพ่อ และพอเปิดเทอมเธอจึงบินกลับเมืองไทย จนกระทั่งเธออายุได้ 18 ปี แม่ก็สั่งห้ามไม่ให้เธอมาหาพ่ออีกเด็ดขาด ทั้งนี้สาเหตุมาจากพ่อได้แต่งงานใหม่นั่นเอง
เธอเองน้อยใจพ่อเช่นกันที่พ่อแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้น คนที่แม่เกลียดชัง และทำให้ครอบครัวแตกแยก นั่นจึงเป็นเหตุให้เธอไม่กลับไปเหยียบฝรั่งเศสหลังจากได้รับรู้ข่าวเรื่องการแต่งงาน และตลอดระยะเวลา 4 ปีที่ผ่านมา เธอก็ไม่ได้ติดต่อกับพ่ออีกเลย จนกระทั่งมารู้ข่าวจากแม่เลี้ยงที่มีวัยอ่อนกว่าพ่อถึง 18 ปีนี่ล่ะ ว่าพ่อกำลังป่วยหนัก และอยากเจอหน้าเธออีกครั้ง ด้วยเหตุผลนี้เองเธอจึงเดินทางมาฝรั่งเศส
พอมาถึงฝรั่งเศสเธอก็ได้เจอความเปลี่ยนแปลงที่น่าใจหายนี้เข้าแล้ว!
พ่อของเธอไม่ใช่ผู้บริหารระดับ CEO ของบริษัทน้ำหอมใหญ่ยักษ์อีกต่อไป ด้วยว่าตอนนี้แม่เลี้ยงจอมแสบได้ยึดหลาย ๆ สิ่งไปจากพ่อของเธอนั่นเอง
อ้อมแก้วถอนหายใจออกมาอีกเฮือก ก่อนแหงนหน้ามองบ้านหลังใหญ่ตรงหน้า เป็นบ้านสีขาวสองชั้น สไตล์ฝรั่งเศส หน้าต่างน้อย ตัวผนังก่อจากอิฐไม่ฉาบปูนทับแต่ทาสีขาวแทน ส่วนหลังคาสีควันบุหรี่ ดูจากภายนอกไม่มีอะไรโดดเด่นแม้แต่น้อย ซึ่งในสายตาเธอ บ้านหลังนี้เหมือนโกดังเก็บของซะด้วยซ้ำ!
