บทที่1 ฝรั่งเศส (2)
แต่คนที่ถูกเรียกว่า ‘อาคริส’ กลับวางหน้านิ่งไม่ยอมพูดจา ซ้ำยังทำหน้าดุใส่ ปฏิกิริยาเฉยนี้เองที่ทำให้อ้อมแก้วรู้ว่า เธอทักคนผิด!
นี่ไม่ใช่อาคริส หรือ คริส เฮมเวิร์ต น้องชายคนสุดท้องของพ่อ!
แต่นี่คือ แดเนียล เฮมเวิร์ต น้องชายคนรองสุดท้องซึ่งเป็นคู่แฝดของอาคริสของเธอนั่นเอง!!
“ฉันไม่ใช่คริส”
อ้อมแก้วกลอกลูกตาไปมา “รู้แล้วน่า ว่าหน้าแตกทักผิดคน”
“เธอเป็นใคร มาทำอะไรที่นี่?”
“นี่อาจำฉันไม่ได้เหรอ ฉันวาเลนทีนไง” อ้อมแก้วแนะนำตัวเองเสร็จสรรพ
แดเนียลมองเด็กหญิงตัวน้อยในวันวานพร้อมพิจารณาอย่างรวดเร็ว เขาต้องยอมรับว่า ‘หลานสาวบุญธรรม’ ของเขาได้โตขึ้นเป็นสาวเต็มตัวแล้ว เธอดูดึงดูดสายตา สวย น่ามอง ร้อนแรง และน่าทำความรู้จัก แต่ติดที่ว่าเจ้าหล่อนดูดื้อ ติดห้าว และเอาแต่ใจตัวเองไปหน่อย
ก็ดูเถอะ เจ้าหล่อนเล่นขวางถนน ทำตัวเป็นนักเลง ทั้งที่เขาบีบแตรไล่ไม่รู้กี่ครั้ง แต่แทนที่เจ้าหล่อนจะหลบเข้าข้างทาง กลับทิ้งกระเป๋าเดินทางเพื่อขวางหน้ารถดื้อ ๆ แล้วไหนจะการแต่งตัวที่สะท้อนถึงบุคลิกและนิสัยอีก... เห็นแล้วก็อดส่ายหน้าด้วยความอ่อนใจไม่ได้ แดเนียลยอมรับกับตัวเองเลยว่า ‘วาเลนทีน’ ได้เปลี่ยนไปจากเดิมมาก มากจนไม่เหลือภาพเด็กหญิงตัวน้อยในวันวานให้เห็นเลย
เมื่อหลายปีก่อนวาเลนทีนยังไว้ผมยาว น่ารัก แต่ตอนนี้เจ้าหล่อนเล่นซอยผมซะสั้นดูเหมือนผู้ชาย ทว่าการแต่งตัวกลับเปรี้ยวจัดจนเข็ดฟัน ดูขัดกับทรงผมอย่างสิ้นเชิง!
หลานสาวนอกไส้ของเขาใส่กระโปรงสีแดงที่สั้นจนแทบก้มไม่ได้ เธอสวมรองเท้าบูทครึ่งน่อง และยังเป็นบูทส้นเข็ม ส่วนตัวเสื้อนั้นเป็นเสื้อเกาะอกโชว์สะดือ อวดหน้าท้องขาว ๆ และเครื่องประดับที่เจาะอยู่บนรูสะดือ ยังดีที่ว่าวาเลนทีนใส่เสื้อลูกไม้สีขาวทับอีกชั้นจึงดูไม่โป๊จนเกินไป แต่ด้วยสไตล์การแต่งตัวของวาเลนทีน ก็ทำให้เธอสะดุดสายตากับผู้ที่พบเห็น หรือแม้แต่เขา!!
และด้วยรูปร่างโค้งเว้าได้สัดส่วนนี่เอง ที่เป็นสิ่งยืนยันว่า ‘วาเลนทีน’ เด็กหญิงตัวน้อยในวันวานได้กลายเป็นสาวสวยเต็มตัวไปแล้ว...
“รู้แล้วก็ดี จะได้ไม่เรียกผิดคนอีก” แดเนียลบอกเสียงเรียบ ทำท่าว่าจะกลับขึ้นรถดื้อ ๆ แต่เขาต้องชะงักเมื่อน้ำเสียงเล็ก ๆ ของหญิงสาวดังขึ้น
“เดี๋ยวก่อน” อ้อมแก้วรีบเรียกเมื่อเห็นว่าอาแดเนียลจะจากไปดื้อ ๆ
แดเนียลยกคิ้วเรียวสีน้ำตาลเข้มขึ้นแทนการตั้งคำถาม ปฏิกิริยาของเขานี่เองที่ทำให้หญิงสาวเงียบไป อย่างลังเลไม่แน่ใจว่าจะขอความช่วยเหลือจากเขาดีมั้ย
“ว่าไง?”
พอชายหนุ่มเอ่ยปากถาม อ้อมแก้วจึงโยนความลังเลทิ้งไปทันที
“เอ่อ ขนกระเป๋าให้หน่อยสิ ฉันยกคนเดียวไม่ไหว”
แดเนียลเงียบไป อีกทั้งเขายังทำหน้าไม่พอใจกับ สรรพนามที่หญิงสาวใช้แทนตัวเองนั่นเอง ซึ่งสายตาที่มองมาและดูเอาเรื่องนั้น ก็ทำให้อ้อมแก้วรู้ว่า เธอไม่ควรออกคำสั่งกับผู้ชายคนนี้!!!
“การขอร้องใครสักคนให้ช่วย ไม่ควรใช้คำพูดแบบนี้”
อ้อมแก้วเม้มปากเป็นเส้นตรงทันทีเมื่อถูกตำนิ กระนั้นเธอยังมองหน้าชายหนุ่มด้วยความไม่พอใจ
“ไม่ช่วยก็ไม่เป็นไร ฉันทำเองก็ได้!” หญิงสาวบอกอย่างน้อยใจ
ทว่าสิ่งที่แดเนียลปฏิบัติก็ทำให้อ้อมแก้วต้องแปลกใจ เขาเดินมาหยิบกระเป๋าเดินทางของเธอ ก่อนเหวี่ยงขึ้นท้ายรถกระบะจากนั้นจึงเดินมาหยุดตรงหน้า
“ขึ้นรถสิ”
อ้อมแก้วถึงกับหน้าเหวอ ด้วยว่าเธอไม่เคยเข้าใจพฤติกรรมของผู้ชายตรงหน้านั่นเอง!
ถึงแดเนียลจะมีศักดิ์เป็นอาแท้ ๆ แต่เธอกลับไม่เคยรู้สึกถึงความผูกพันระหว่างสายเลือดแม้แต่น้อย อีกทั้งเธอยังรู้สึกว่าเขาเป็นคนนอกที่ไม่ควรอยู่ใกล้ด้วยซ้ำ! ส่วนสาเหตุคงเพราะช่องว่างระหว่างวัย และความใกล้ชิดนั่นเอง พอเธอเอาแต่จ้องมองหน้า ชายหนุ่มจึงดึงประตูรถคันเก่าข้างคนขับให้เปิดออกกว้าง
“เชิญ” บอกสั้น ๆ แค่นั้น แดเนียลจึงเดินอ้อมรถกระบะเพื่อไปประจำยังตำแหน่งคนขับ ส่วนอ้อมแก้วทำตาปริบ ๆ ก่อนก้าวขึ้นรถอย่างว่าง่าย
พอปิดประตูรถเข้าหากันเท่านั้น ความอึดอัดจึงเกิดขึ้นทันที อ้อมแก้วปรายตาไปมองชายหนุ่มข้าง ๆ ที่เอาแต่มองทางโดยไม่สนใจเธอ หรือบางทีเธออาจเป็นอากาศธาตุในสายตาของเขาก็ได้ จากนั้นเธอจึงปรายตามองฟาร์มเฮมเวิร์ต ซึ่งภาพที่เห็นสามารถสะกดสายตาหญิงสาวได้เป็นอย่างดี
