บทที่1 ฝรั่งเศส (1)
“เนี่ยเหรอที่พัก!!” อ้อมแก้วเท้าสะเอวโวยวายเมื่อก้าวลงจากรถยนต์กลางเก่ากลางใหม่ซึ่งรับเธอจากสนามบินและมุ่งตรงมายังฟาร์มแห่งหนึ่งในเมืองวาลองโซล
“คุณมีตัวเลือกเท่านี้” จีจี้ซึ่งรับคำสั่งเจ้าของฟาร์มให้ขับรถไปรับคุณหนูของตระกูลเฮมเวิร์ตบอกด้วยน้ำเสียงไม่พอใจเท่าไหร่นัก
อ้อมแก้วจับปฏิกิริยาของสารถีสาวได้ทันที ดวงตาสีน้ำตาลของสาวลูกครึ่งเอเชียปรายไปยังหญิงสาวร่างท้วมซึ่งใส่ชุดเอี๊ยมและเสื้อลายสก๊อตอย่างต้องการคำอธิบาย แต่ผู้หญิงคนนั้นกลับเฉยเมย และไม่สนใจ ซ้ำยังปิดประตูดังปังใส่หน้าเอาดื้อ ๆ!
พอเจอปฏิกิริยานี้เข้า อ้อมแก้วจึงกลอกตาไปมา ทั้งความรู้สึกโกรธ ไม่พอใจ และความรู้สึกเซ็งสุดชีวิตก็ประดังเข้ามาทันที ก็เธอฝันว่าตัวเองจะได้พักในคฤหาสน์หรูหราของตระกูลเฮมเวิร์ต แต่กลายเป็นว่า เดินทางมาฝรั่งเศสในครั้งนี้เธอต้องมาพักที่ฟาร์มในย่านชนบทซะนี่!!
“ให้ได้อย่างนี้สิ!” หญิงสาวสบถหัวเสียออกมาเป็นภาษาไทยด้วยความหงุดหงิด ก่อนตะโกนเรียกหญิงร่างท้วมที่เดินห่างออกไปด้วยภาษาฝรั่งเศส
“เฮ!! เดี๋ยวก่อน กระเป๋าเสื้อผ้าของฉันอยู่ท้ายรถ”
พออ้อมแก้วบอกแบบนั้น หญิงร่างท้วมจึงหันกลับมาแล้วโยนลูกกุญแจรถยนต์ให้ “ไปหยิบเอาเอง!”
อ้อมแก้วรับลูกกุญแจรถได้พอดี ทว่าเห็นปฏิกิริยาของหญิงร่างท้วมที่ปฏิบัติต่อเธอ ก็ยิ่งเพิ่มความหงุดหงิดหัวเสียให้เธอที่ถูกเลี้ยงดูอย่างตามใจเข้าไปอีก
“นี่ ให้มันน้อย ๆ หน่อย ฉันคือคุณหนูวาเลนทีนนะ!” ไม่ตะโกนไล่หลังหญิงร่างท้วมอย่างเดียว อ้อมแก้วยังระบายอารมณ์ด้วยการเตะเศษฟางแห้งที่เท้าด้วย จากนั้นเธอจึงต้องหันมาจัดการกระเป๋าสัมภาระลงจากรถด้วยความขุ่นใจเป็นที่สุด!!
ผู้หญิงคนนั้นเป็นใคร ถึงกล้าปฏิบัติกับเธอซึ่งเป็นคุณหนูของตระกูลเฮมเวิร์ตแบบนี้!
หากไม่ใช่เหตุจำเป็นเธอคงไม่มาเหยียบฝรั่งเศสอีก แต่เพราะมีเหตุจำเป็นให้ต้องเดินทางมา เธอจึงเดินทางมาอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้! อ้อมแก้วจำได้ว่าเธอไม่ได้มาเหยียบฝรั่งเศสนานหลายปี ส่วนสาเหตุมาจากเธอน้อยใจพ่อ ที่พ่อตัดสินใจแต่งงานใหม่กับผู้หญิงที่มีวัยมากกว่าเธอไม่กี่ปีนั่นเอง มาตอนนี้ความน้อยใจเรื่องที่พ่อมีเมียใหม่ยังไม่หายไป เพราะตอนนี้พ่อของเธอป่วยและกำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล เธอจึงต้องเดินทางมาฝรั่งเศสเพื่อเยี่ยมท่าน…
ทว่าเมื่อกลับมาที่นี่อีกครั้งทุกอย่างก็เปลี่ยนไป คงต้องบอกว่าเปลี่ยนตั้งแต่คนขับรถของพ่อเลยก็ว่าได้ แล้วไหนจะเรื่องที่พักอีก ความสะดวกสบาย แล้วไหนจะเรื่องแหล่งช็อปปิ้งอีก แทนที่เธอจะได้พักที่คฤหาสน์ของตระกูลเหมือนครั้งก่อน ๆ แต่กลายเป็นว่าเธอถูกพาตัวมาที่ฟาร์มแห่งหนึ่งในชนบทซะนี่!
“เฮ้อ... ซวยบรม” หญิงสาวพ่นลมหายใจออกจากปาก แล้วเงยหน้ามองป้ายชื่อฟาร์มขนาดใหญ่ซึ่งอยู่เหนือศีรษะ ชื่อฟาร์มแห่งนี้ยังใช้นามสกุลมาตั้งเป็นชื่อ นั่นคือ ฟาร์มเฮมเวิร์ต นั่นเอง
อ้อมแก้วไม่สนใจอะไรอีก นอกจากนำกระเป๋าใบโตออกจากท้ายรถ จากนั้นเธอจึงกวาดสายตาหาบ้านพัก พอเห็นระยะทางซึ่งไกลพอสมควรหญิงสาวที่ถูกเลี้ยงมากับความสบายซะจนเคยตัว ถึงถอนหายใจออกมาอีกหนึ่งเฮือก ดูก็รู้ ว่าคนขับรถจงใจแกล้งให้เธอเดินไกลนั่นเอง!
“ฝากไว้ก่อนเถอะยัยฮิปโปค้างปี!” หญิงสาวพึมพำ ก่อนก้มหน้าก้มตาลากกระเป๋าไปตามทาง ทว่าเธอต้องสะดุ้ง ทั้งนี้เพราะใครบางคนได้บีบแตรไล่หลังนั่นเอง!
ปี๊นนนนนน!
“อะไรอีกล่ะ!” หญิงสาวทำหน้ายุ่งด้วยความรู้สึกหงุดหงิดมากถึงมากที่สุด ก่อนหันไปถลึงตาดุใส่ ซึ่งเธอตั้งใจทิ้งกระเป๋าเสื้อผ้าลงให้ขวางทางรถ อีกทั้งเธอยังยืนเท้าสะเอวอย่างพร้อมเอาเรื่องคนขับ
“ฉันไม่หลบ มีอะไรมั้ย?!”
เสียงบีบแตรดังขึ้นอีก แต่อ้อมแก้วไม่สนใจใด ๆ ทั้งสิ้น ซ้ำเธอยังยืนเท้าสะเอวอย่างนักเลงที่พร้อมจะเอาเรื่องกับคนขับรถ ทว่าผู้ที่เปิดประตูแล้วก้าวลงจากรถปิ๊กอัพก็ทำให้อ้อมแก้วถึงกับชะงักไปชั่วขณะ ทั้งนี้เพราะเธอตกตะลึงในความหล่อของคนขับรถรูปหล่อนั่นเอง!!
อ้อมแก้วจ้องมองชายหนุ่มตาไม่กะพริบ หัวใจดวงน้อยกระตุกวูบและเต้นรัวแรงอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อน หากจะบอกว่า นี่เป็นรักแรกพบก็คงไม่ผิด! ไม่รู้ว่าผู้หญิงคนอื่นชอบผู้ชายแบบไหน แต่สำหรับเธอแล้ว ผู้ชายกล้ามโตต้องมาอันดับแรกเท่านั้น!
ยิ่งผู้ชายตรงหน้ามีดวงตาสีฟ้าน้ำทะเลด้วยแล้ว เธอก็อ่อนระทวยจนอยากเข้าไปซุกอกของเขาเลย ทว่าความคิดฟุ้งซ่านนั้นต้องอันตรธานหายไปเมื่อเธอจำเขาได้!!
“อาคริส!!” หญิงสาวเรียกชื่อของอีกฝ่ายด้วยความดีใจพร้อมรอยยิ้มอย่างเป็นมิตร
