บท
ตั้งค่า

บทที่ 2 สูญเสีย (1)

“หนู... หนูขอโทษค่ะพ่อ” หญิงสาวสะอึกสะอื้นน้ำตานองหน้า

โจเฟซเพียงแต่ยิ้มแล้วส่ายหน้า อีกทั้งเขายังพยายามยกมือขึ้นเพื่อลูบศีรษะของบุตรบุญธรรมด้วยความรักเฉกเช่นเดิม ไม่เคยเปลี่ยน

“พ่อ... ดีใจ” น้ำเสียงแหบแห้งของโจเซฟแผ่วเบาเหลือเกิน

ปฏิกิริยาตอบโต้จากผู้เป็นพ่อยิ่งทำให้อ้อมแก้วถึงกับร้องไห้สะอึกสะอื้น ทั้งด้วยความสงสาร ทั้งด้วยความรัก

“หนูไม่รู้ว่าพ่อป่วยมากขนาดนี้... หนูขอโทษ” น้ำตาไหลลงมาจากดวงตาคู่สวย แม้แต่แดเนียลซึ่งเห็นสภาพของพี่ชายมาระยะหนึ่ง ยังทำใจยอมรับกับภาพเหล่านี้ไม่ได้เลย ยิ่งข้างเตียงผู้ป่วยมีวาเลนทีนอยู่ด้วยแล้ว น้ำตาของเธอทำให้บรรยากาศในห้องดูเศร้าหมองลงในทันทีทันใด

โจเซฟทำท่าว่าจะพูดอะไรออกมา อีกทั้งปรายตาไปยังโรเจอร์ซึ่งเป็นทนายส่วนตัวเพื่อขอความช่วยเหลือ ทนายส่วนตัวผู้มีหน้าที่ดูแลพินัยกรรมจึงเป็นคนเอ่ยปากแทน

“คุณหนูวาเลนทีนครับ”

“คะ?” คนถูกเรียกใช้มือเช็ดน้ำตาแล้วมองชายแปลกหน้าซึ่งอยู่ในห้องพักผู้ป่วยด้วย

“คือคุณโจเซฟได้ทำพินัยกรรมเอาไว้เพื่อยกทรัพย์สินที่เหลือให้กับทายาทเพียงคนเดียว ก็คือคุณหนู ผมมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบตรงนี้ ผมจึงต้องเรียนให้คุณหนูทราบต่อหน้าคุณโจเซฟครับ”

อ้อมแก้วไม่สนใจเรื่องพินัยกรรมแม้แต่น้อย เธอพยักหน้าแค่บอกกลาย ๆ ว่ารับรู้ แล้วโฟกัสมาที่คนป่วยซึ่งนอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย เธอรู้แค่ว่าเวลาน้อยนิดที่พ่อของพ่อมีกำลังนับถอยหลังเรื่อย ๆ และเธอก็รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมากกับ 4 ปีที่ผ่านมาที่เธอไม่เคยกลับมาเหยียบฝรั่งเศสเลย เพียงเพราะเหตุผลที่ว่า เธอน้อยใจที่พ่อแต่งงานใหม่เท่านั้น!!

พอคนป่วยผล็อยหลับไปอย่างอ่อนเพลียแล้ว อ้อมแก้วจึงเดินออกมาสูดอากาศที่ระเบียง เพื่อผ่อนคลายความเครียดให้ตัวเอง นี่เองเธอจึงได้พบกับแม่เลี้ยงสาวแสนสวยนาม ‘ซูซาน’ เข้า ทว่าหญิงสาวก็หน้าตึงไม่พอใจกับพฤติกรรมของแม่เลี้ยงสาวเป็นอย่างมาก ทั้งนี้เพราะซูซานกำลังสูบบุหรี่อยู่นั่นเอง!

“เพิ่งมาถึงเหรอวาเลนทีน?”

“ใช่” หญิงสาวตอบเสียงเรียบ และรู้สึกเหนื่อยล้าจนไม่อยากคุยกับใครทั้งนั้น นอกจากการปิดปากแล้วนั่งคิดอะไรคนเดียวเงียบ ๆ

“เธอมาช้าไปนะ”

“เธอคิดว่าไทยกับฝรั่งเศสใกล้กันหรือไง?” หญิงสาวไหวไหล่ อีกทั้งย้อนถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ

“ถ้าฉันไม่โทรไปบอกเรื่องพินัยกรรม เธอคงไม่มาล่ะสิ”

คราวนี้อ้อมแก้วทำหน้ายุ่ง อีกทั้งตวัดสายตาไปยังแม่เลี้ยงคนสวย ซึ่งสวมชุดเดรสสีดำ สวมสร้อยไข่มุกเส้นโตดูหรูหรา และสิ่งที่อ้อมแก้วต้องยอมรับกับตัวเองก็คือ ซูซานเป็นผู้หญิงที่สวยมาก เธอดูเปี่ยมล้นด้วยเสน่ห์ ดูเย้ายวนใจ และที่สำคัญ ผู้หญิงคนนี้มีอายุมากกว่าเธอไม่กี่ปีเท่านั้น!!

“ฉันมาหาพ่อ ไม่ใช่มาเพราะพินัยกรรม”

“ก็ยากที่จะเชื่อ” ซูซานเบ้ปาก ก่อนเอามวนบุหรี่เข้าปากแล้วพ่นเอาควันสีขาวออกมาอีกครั้ง

ทั้งคำพูดและกิริยานี้เองที่สร้างความไม่พอใจให้กับอ้อมแก้วเป็นอย่างมาก เธอพยายามไม่สนใจคำยั่วเย้าจากเมียน้อยของพ่อแล้วเชียว แต่ก็อดต่อปากต่อคำด้วยไม่ได้

“ฉันไม่เคยขอให้คุณเชื่อ” อ้อมแก้วโต้กลับไปด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ฉันแค่ทำในสิ่งที่คิดว่าดีที่สุดเพื่อพ่อเท่านั้น” สิ้นคำอ้อมแก้วจึงแย่งมวนบุหรี่จากมือของซูซานแล้วทิ้งลงบนพื้น

“นี่เธอ!” ซูซานถลึงตาดุใส่ไม่พอใจทันทีเมื่อเจอการกระทำของลูกเลี้ยงสาว แต่อ้อมแก้วกลับไม่สนใจ ซ้ำยังใช้เท้าเหยียบเพื่อดับบุหรี่

“นี่เป็นเขตห้ามสูบบุหรี่ คนป่วยต้องการอากาศบริสุทธิ์ หัดมีมารยาทด้วยมาดามซูซาน” บอกแค่นั้นอ้อมแก้วจึงกลับเข้ามายังห้องผู้ป่วยตามเดิม โดยไม่สนใจสายตาไม่เป็นมิตรของแม่เลี้ยงสาวอีก

“เธอกำลังลองดีกับฉันอยู่!”

อ้อมแก้วชะงักอยู่หน้าประตูแบบเลื่อนได้แล้วปรายตาไปมองแม่เลี้ยงสาวนิดหนึ่งก่อนไหวไหล่ จากนั้นจึงเดินกลับเข้ามายังห้องผู้ป่วยอีกครั้ง ผ่านเหตุการณ์เมื่อครู่มาได้ ดูว่าแม่เลี้ยงสาวจะไม่พอใจเธอเท่าไหร่ แต่อ้อมแก้วก็ไม่ใส่ใจอะไรมากไปกว่าเรื่องของพ่อเท่านั้น

“เฮ้อ...” หญิงสาวถอนหายใจเพื่อไล่ความรู้สึกหงุดหงิดออกไป

พอก้าวเขามาในห้องพักผู้ป่วย เธอจึงพบใครบางคนเข้า ความเครียดเป็นอันถูกพักไว้ชั่วคราวและแทนที่ด้วยรอยยิ้มดีใจ เมื่อเธอได้พบกับ คริส เฮมเวิร์ต ตัวจริง!!

“อาคริส!” อ้อมแก้วเข้าไปหาพร้อมโผตัวเข้าสวมกอดชายหนุ่มเอาไว้ด้วยความรักและความคิดถึงที่ท่วมท้น

คริสทำหน้างุนงงเมื่ออยู่ ๆ ถูกสาวห้าวที่ไหนไม่รู้เดินมาสวมกอดดื้อ ๆ และเท่าที่จำได้ เขาไม่เคยมีสาวผมสั้นอยู่ในสต๊อก

ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel