3 คนที่แสนดึงดูดใจ
“ตายแล้วววว แซ่บขนาดนี้คนอื่นจะทำยังไงคะคุณเอวาคนสวย”
หลินทักเพื่อนที่เพิ่งเดินเข้ามานั่งร่วมโต๊ะด้วยสายตาชื่นชมปนหมั่นไส้ ใบหน้าเล็กของเอวาถูกปิดครึ่งหน้าบนไว้ด้วยหน้ากากขนนกสีดำสลับขาว มีประกายวิบวับจากคริสตัลที่ประดับอยู่บนกรอบรอบดวงตา สวมเสื้อเกาะอกสีดำตัวเล็กที่มีขนฟูฟ่องติดอยู่ขอบเสื้อด้านบนเผยให้เห็นลำคอและช่วงไหปลาร้าเนียนสวย กระโปรงสีเดียวกันที่รัดรูปและเอวต่ำเลยสะดือลงไปจนอวดเอวบางโค้งสวย มีประโปรงที่เป็นผ้าซีทรูสีดำแหวกข้างผูกทับอีกทีไม่ให้ดูโป๊เกินไป แต่ที่ดึงดูดสายตาที่สุด ก็คงเป็นสายสร้อยคล้องเอวเส้นเล็กสีเงินที่ส่องประกายวิบวับชวนมองนั่นต่างหาก เอวาคงไม่รู้ว่ามันทำให้เธอดูเซ็กซี่มากขนาดไหน
“แหม่ ตัวเองก็ทั้งเผ็ดทั้งแซ่บยังจะมาแซวเนอะ” เอวาย้อนเพื่อนกลับอย่างหมั่นไส้ เมื่อหลินเองก็แต่งตัวมาได้สวยแซ่บไม่แพ้กัน คงเป็นอาหมวยที่แซ่บที่สุดในคืนนี้แล้วด้วยซ้ำ
“โอ๊ย ฉันเปลี่ยนใจพาแกไปแทนหนุ่มๆได้มั้ยเนี่ย เห็นแล้วน่าขย้ำเป็นบ้าเลยว่ะ”
“อย่ามาพูดอะไรน่าขนลุกน่า” เอวามองค้อนก่อนจะนั่งลงข้างๆเพื่อน หยิบแก้วเครื่องดื่มสีสวยที่เพื่อนสั่งไว้ให้ขึ้นมาดื่มพลางปรายสายตามองไปรอบๆงาน และทันทีที่ทำแบบนั้นเธอก็เลยได้เห็นว่ามีคนจ้องมองเธออยู่เยอะแค่ไหน แต่ก็ยังไม่มีใครดึงดูดสายตาเธอเลยสักคน
“แล้วไง คืนนี้มีคนเข้าตาแกบ้างยัง”
“ยังเลย ขอดื่มต่ออีกหน่อยค่อยหาละกันมีเวลาเหลือเฟือ ถ้าไม่มีก็แค่กลับบ้านไปนอน”
“เอาสิ ฉันก็ไม่รีบหรอก” หลินหันกลับมาดื่มต่อบ้างเมื่อได้ยินเอวาพูดแบบนั้น ก่อนจะเริ่มชวนคุยเรื่องอื่นแทนเพราะไม่ค่อยได้เจอกันแบบนี้บ่อยนัก
“แกบอกว่าจะไปประชุมที่ญี่ปุ่นกับบอสแกอาทิตย์หน้าใช่มั้ย”
“อืม สามวันเลย ไม่มีเวลาให้แวะเที่ยวด้วยเสียดายชะมัด” เอวาบอกพลางถอนหายใจออกมาเซ็งๆ การได้ไปต่างประเทศบ่อยๆถือเป็นกำไรสำหรับคนไม่ค่อยมีเวลาไปเที่ยวแบบเธอ แต่เพราะไปทำงานก็เลยไม่มีเวลาให้ไปเปิดหูเปิดตา สุดท้ายก็ไม่ได้ต่างอะไรกับการทำงานที่ไทยสักนิดเดียว เพราะถ้าบอสยุ่งก็หมายความว่าตัวเธอเองต้องยุ่งไปด้วยเหมือนกัน
“เฮ้อ ถึงจะอิจฉาแกที่ได้ไปต่างประเทศบ่อยๆแต่ก็น่าสงสารที่แกไม่เคยได้เที่ยวส่วนตัวเลยนี่แหละ”
“ทำไงได้ งานเลขามันแทบจะไม่มีเวลาส่วนตัวอยู่แล้ว ตาบอสบ้างานนั่นเอาแต่สั่งงานๆจนหัวหมุน นอกเวลาก็ยังต้องแต่งตัวไปงานเลี้ยงตอนกลางคืนด้วยบ่อยๆอีกต่างหาก”
“โห ยิ่งฟังก็ยิ่งไม่อยากเป็นเลขาเลยเนี่ย”
“ดีอย่างเดียวคือเงินดีมากนี่แหละไม่งั้นฉันออกไปทำอย่างอื่นนานแล้ว รอเก็บเงินได้อีกหน่อยฉันไปเปิดคาเฟ่อยู่ต่างจังหวัดดีกว่า” เอวาบ่นก่อนจะบอกแผนการที่คิดไว้ในอนาคตให้เพื่อนฟัง ทำไปทำมาพอพูดเรื่องงานแล้วก็เกือบลืมไปเลยว่าแต่งตัวมาทำอะไรที่นี่
“แบบนั้นบอสแกได้ร้องไห้แน่ เลขาที่ทำงานเข้ากันได้ดีไม่ใช่จะหาได้ง่ายๆนะเว้ย”
“ก็เรื่องของบอสสิ คนเก่งเยอะแยะเดี๋ยวเขาก็หาได้เองแหละ แต่ชีวิตฉันจะเหี่ยวตายไปกับงานไม่ได้นะ ขืนเป็นแบบนี้ฉันจะได้มีแฟนมีครอบครัวเมื่อไหร่ล่ะอีกไม่นานก็จะสามสิบแล้วเนี่ย”
“ยากอะไร แกชอบบอสไม่ใช่เหรองั้นก็จีบทำแฟนไปเลยสิ ไม่ต้องไปหาที่ไหนแล้ว” หลินเสนอทางเลือกด้วยรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ อยากรู้เหลือเกินว่าถ้าคนแบบเอวาจีบบอสตัวเองจะเป็นยังไง แต่เอวาก็ตอบทันทีแบบไม่ต้องคิด เพราะการจีบบอสไม่เคยมีอยู่ในหัวเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว เพราะเธอรู้ดีว่าแม้จะทำงานใกล้ชิดกัน แต่โลกของเธอกับบอสนั้นมันต่างกันอย่างสิ้นเชิง
“ไม่เอาอ่ะ สังคมคนรวยมันน่ากลัวเกินไป”
“ฉันไม่เข้าใจแกสักนิด”
“ช่างฉันเถอะน่า ไปห้องน้ำก่อนนะเดี๋ยวมา” เอวาตัดบท ก่อนจะขอตัวไปห้องน้ำเมื่อรู้สึกว่าดื่มเยอะไปจนเริ่มตาลาย
“อื้อ ไปเถอะ”
—----------------------
“อ๊ะ ขอโทษค่ะ”
เอวาขอโทษออกมาเมื่อเดินไปชนเข้ากับคนตรงทางเดินหน้าห้องน้ำจนเซถอยหลัง และก่อนที่เธอจะได้ล้มลงไปเพราะรองเท้าส้นสูงที่ใส่มา เอวาก็ถูกมือใหญ่โอบแผ่นหลังเอาไว้ซะก่อน แต่กลิ่นน้ำหอมและเสียงที่คุ้นเคยของอีกคนกลับทำให้เธอชะงักด้วยความตกใจ
“ขอโทษครับ เป็นอะไรหรือเปล่าครับผมไม่ทันได้ดูทาง”
“ไม่เป็นไรค่ะ” เอวาตอบเสียงเบาก่อนจะขยับตัวยืนให้ตรงและถอยห่างออกมาจากคนตัวสูงเล็กน้อย เขาไม่ยอมละสายตาไปจากเธอเลยสักนิดจนรู้สึกประหม่าขึ้นมา ตอนนี้เธอค่อนข้างแน่ใจแล้วว่าคนตรงหน้าคือบอสของเธอแน่ๆ แต่อีกคนคงไม่มีทางรู้หรอกว่านี่คือเธอ เพราะบอสยังเหมือนเดิมทุกอย่างแม้แต่การแต่งตัว แต่ว่าเธอ ไม่มีอะไรที่เหมือนตอนไปทำงานแม้แต่น้อย ไม่อยากเชื่อว่าบอสจะมาที่แบบนี้ด้วยเหมือนกัน
“คือว่า…”
“คะ…”
“คุณ…สะดวกมั้ยถ้าผมอยากเห็นคุณตอนถอดหน้ากากออกคืนนี้”
หวง เฟย ถามออกไปก่อนจะได้ยั้งคิดอย่างที่เขาเองก็ไม่รู้ว่าทำไม ทั้งที่เพิ่งเจอและไม่รู้จักกัน แต่เสน่ห์และความเย้ายวนของเธอกำลังดึงดูดความสนใจของเขาไปทั้งหมด จนไม่สนใจขั้นตอนหรือวิธีการเข้าหาอีกต่อไป เพราะถ้าเขาไม่รีบ คนอื่นก็คงเข้ามาชวนเธอไปก่อนแน่นอน อีกอย่างน้ำเสียงกับกลิ่นหอมที่คุ้นเคยอย่างน่าประหลาดนี้ทำให้เขาปล่อยเธอไปไม่ได้จริงๆ เริ่มเข้าใจที่เพื่อนบอกขึ้นมาแล้วว่าคนเราสามารถถูกใจกันได้โดยที่ไม่ต้องเห็นหน้าจริงๆ เพราะถ้าคิดแค่ว่าอยากลองเล่นสนุกสักครั้ง เรื่องอื่นก็ไม่สำคัญเลยจริงๆ
ขณะที่เอวาเองก็ยิ้มบางออกมา ใจเต้นแรงเมื่อสบสายตาอีกคนอย่างที่ปกติแทบไม่เคยกล้าทำ ตอนนี้เป็นโอกาสของเธอแล้วเหมือนกัน โอกาสที่จะได้ล้ำเส้นกับบอสโดยไม่ต้องกลัวเรื่องยุ่งยากตามมา เธอขยับเข้าไปใกล้ก่อนจะเขย่งตัวขึ้นไปกระซิบข้างหูคนตัวสูง เพื่อตกลงว่าเราจะไปสนุกด้วยกันในคืนนี้
“.....ได้สิคะ”
