15 เรื่องของหัวใจ
มื้อค่ำดำเนินไปอย่างอบอุ่น แต่ไม่นานนักคุณปู่ของเขาที่นั่งข้าง ๆ หลานชาย ก็เปิดประเด็นขึ้นมาด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ดลย์เอ้ย!!!” คุณปู่เอ่ยขึ้น พลางหันมามองหลานชายด้วยความเอ็นดู
“ปีนี้หลานอายุเท่าไหร่แล้วล่ะ”
“30 ย่าง 31 ครับคุณปู่”
“30 ก็ถือว่าไม่น้อยเลย แล้วพร้อมที่จะแต่งงานมีครอบครัวหรือยังล่ะ” ดลภพชะงักเล็กน้อย เขารู้ดีว่าคำถามนี้เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ในทุกครั้งที่ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาแบบนี้
“ผมยังไม่ได้คิดเรื่องนั้นเลยครับคุณปู่ ผมอยากลุยงานให้เต็มที่ก่อน” ดลภพตอบกลับด้วยน้ำเสียงสุภาพ แต่แฝงความหนักแน่น เสียงคุณประยูรถอนหายใจเบาๆ
“เฮ่อ!!!..หลานจะมัวคิดแบบนั้นไม่ได้นะ ปู่เองก็แก่ลงไปทุกวัน ๆ แล้ว จะอยู่ได้อีกนานแค่ไหนก็ไม่รู้ ปู่น่ะ...อยากเห็นหลานเป็นฝั่งเป็นฝา มีครอบครัวที่อบอุ่นเหมือนพ่อกับแม่เค้า หลานช่วยทำให้ปู่นอนตายตาหลับได้มั้ย” คุณประยูรพูดด้วยน้ำเสียงที่เจือความเศร้าเล็กน้อย เพื่อกดดันหลานชายทางอ้อม
“เอ่อ...คุณปู่ครับ คือว่า...”
“หลานช่วยแต่งงานตอนที่ปู่ยังมีชีวิตอยู่เถอะนะ ถือว่าปู่ขอร้อง!!!”
คุณภัสสร ผู้เป็นมารดาที่นั่งฟังอยู่ตลอด พอสบช่องก็รีบเอ่ยเสริมขึ้นมาทันที ส่วนคุณอดุลย์ศักดิ์ยังคงนั่งฟังเงียบ ๆ
“นั่นสิลูก แม่ก็เห็นด้วยกับคุณปู่นะ” เธอมองหน้าบุตรชายด้วยแววตาจริงจัง
“อะไรกันครับคุณแม่...แต่ผมยังไม่ได้จริงจังกับใครเลยนะครับ” ดลภพรีบบอก
“ถ้าลูกยังไม่ได้จริงจังกับใครล่ะก็ พอดีเลย แม่มีผู้หญิงคนหนึ่งที่จะแนะนำให้ลูกไปทำความรู้จัก เธอเป็นลูกสาวท่านรัฐมนตรีที่เพิ่งเรียนจบจากเมืองนอกมาเลย เรื่องความสวยและความรู้ไม่ต้องห่วง รับรองว่าตรงตามสเปคของลูกแน่นอน แถมยังมีหน้ามีตาทางสังคมอีกด้วย” ดลภพเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังคงฟังมารดาพูดต่อ
“อีกอย่างธุรกิจของเราก็ต้องการอาศัยบารมีของท่านรัฐมนตรีอยู่เหมือนกันนะลูก เพื่อให้สะดวกในการประมูลโครงการใหญ่ๆ ของบริษัท แม่ว่า ถ้าลูกทำความรู้จักกับเธอเอาไว้ก็จะเป็นการดีต่อบริษัทของเราในอนาคตนะลูก” คุณภัสสรเสริมเหตุผลทางธุรกิจเพื่อโน้มน้าวจิตใจของดลภพบุตรชาย
“แต่ช่วงนี้ผมงานยุ่งมากเลยครับแม่”
“ไม่เป็นไร แม่จะบอกให้เค้าไปหาลูกเองก็ได้”
คุณภัสสรไม่รอให้ดลภพปฏิเสธอีกครั้ง ก่อนจะรีบหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาอย่างรวดเร็ว นิ้วเรียวยาวเลื่อนปลดล็อกหน้าจออย่างกระฉับกระเฉงแล้วเปิดรูปผู้หญิงคนหนึ่งให้บุตรชายดู ในรูปนั้นเป็นหญิงสาวหน้าตาสะสวย รูปร่างดี ยืนอยู่ในชุดราตรีหรูหรา ใบหน้าของเธอดูเฉียบคมและมั่นใจ
“เธอชื่อ มินตรา จ้ะ ชื่อเล่นหนูมิน” คุณภัสสรบอกทั้งชื่อจริงและชื่อเล่นของหญิงสาวในรูปด้วยน้ำเสียงชื่นชม
“แม่ให้เบอร์โทรศัพท์ของลูกไปนะ เห็นหนูมินบอกว่าอยากจะมาทำความรู้จักกับลูกด้วยตัวเอง”
“มันจะไม่เร็วไปหน่อยเหรอครับคุณแม่” ดลภพท้วงติง
เขามองรูปมินตราในโทรศัพท์ของคุณภัสสรที่ยื่นให้เขาดูแกมบังคับ สีหน้าของซีอีโอหนุ่มยังคงเรียบเฉย แต่ในใจกลับรู้สึกว่ามีความรู้สึกบางอย่างก่อตัวขึ้น มันไม่ใช่เพราะความสนใจในตัวผู้หญิงคนนี้ แต่เป็นความรู้สึกของหัวใจตัวเองที่เริ่มมีอิงฟ้าเข้ามาครอบครอง...แม้ว่าจะเริ่มสงสัยพฤติกรรมของเธออยู่ก็ตาม
8.30 น.
อิงฟ้ามาทำงานแต่เช้าเหมือนเช่นเคย และพยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด ถึงแม้ในใจจะยังคงกังวลเกี่ยวกับคำถามของดลภพเมื่อวานนี้ก็ตาม
พอถึงช่วงพักเที่ยง ดลภพก็เดินออกมาจากห้องทำงานของเขาด้วยสีหน้าเรียบเฉย แต่แววตาของเขาดูเหมือนจะจับจ้องมาที่เธอเป็นพิเศษ ราวกับจะทวนคำสั่งที่บอกว่าเธอจะต้องไปทานมื้อกลางวันกับเขาเหมือนเช่นเคย แล้วเสียงทุ้มก็เอ่ยขึ้น
“เที่ยงแล้ว!!!...” บอสหนุ่มเอ่ยสั้น ๆ
“ค่ะ” อิงฟ้ารีบลุกขึ้นยืนแล้วเดินตามเขาออกไป
ทว่า...ในจังหวะที่ดลภพกำลังจะก้าวออกไปจากตึก ร่างระหงของหญิงสาวคนหนึ่ง ก็เดินตรงเข้ามาหาเขา ราวกับเป็นเจ้าของ ก่อนจะหันมามองอิงฟ้าด้วยสายตาเหยียดหยามเล็กน้อย เธอยืนขวางระหว่างดลภพและอิงฟ้า ชุดเดรสสั้นเต่อรัดรูป เน้นขับทรวดทรงองค์เอวให้ดูเซ็กซี่ ใบหน้าสวยคม พร้อมรอยยิ้มที่ดูมั่นใจเกินเบอร์ อิงฟ้าพอจะรู้จักว่าเธอคือมินตรา ลูกสาวท่านรัฐมนตรี อิงฟ้าจำได้ว่าเธอเรียนอยู่เมืองนอก และมีข่าวว่าเธอเรียนไม่จบ
“สวัสดีค่ะคุณดลย์” มินตราเอ่ยทักทายด้วยน้ำเสียงหวานหยดย้อยและแฝงความมั่นใจเต็มเปี่ยม
“สวัสดีครับ”
“กำลังจะไปไหนกันหรือคะ”
“อ๋อ พอดีเรากำลังจะออกไปทานมื้อเที่ยงกันน่ะครับ”
“พอดีเลยค่ะ...มินมีเรื่องอยากจะคุยกับคุณดลย์เป็นการส่วนตัว” มินตราพูดขึ้น พลางยิ้มเยาะมาทางอิงฟ้าเหมือนจะบอกให้เธอหลีกทาง
“งั้นเชิญที่ร้านอาหารดีกว่าครับ” ดลภพรีบบอกทันควัน ใจจริงเขาอยากปฏิเสธเสียด้วยซ้ำแต่เกรงใจมารดา
“งั้นเลขาฯ ก็คงไม่อยากยุ่งเรื่องของเจ้านายหรอก จริงมั้ยคะ เราไปกันสองคนดีกว่าค่ะคุณดลย์” มินตรารีบคล้องแขนดลภพทันทีหลังพูดจบ ราวกับว่าเป็นเจ้าของ เธอรู้จักสถานะของอิงฟ้า แสดงว่าศึกษาคนข้างกายของดลภพมาเป็นอย่างดี
คำพูดของมินตราทำให้อิงฟ้าถึงกับหน้าชา ไม่คิดว่ามินตราจะจู่โจมบอสของเธอได้รวดเร็วถึงเพียงนี้ ในจังหวะเดียวกันนั้น โทรศัพท์มือถือของดลภพก็ดังขึ้น เป็นสายวิดีโอคอลจากคุณภัสสร ผู้เป็นมารดา
“ดลย์!!! แม่ให้หนูมินตราไปหาลูกที่บริษัทนะ แล้วก็อย่าลืมพาหนูมินไปทานมื้อเที่ยงด้วยนะจ๊ะ” เสียงของคุณภัสสรที่วิดีโอคลอมาหาลูกชายดังออกมาจากโทรศัพท์อย่างชัดเจน ทำให้มินตรายิ้มเยาะอิงฟ้าอย่างผู้ชนะ
ดลภพหันมามองอิงฟ้าราวกับมีบางอย่างจะบอกเธอ แต่สีหน้าของเขาไม่ได้แสดงอารมณ์ใดๆ ออกมา อิงฟ้ารู้ดีว่าดลภพไม่สามารถขัดคำสั่งของผู้เป็นมารดาได้ จึงรีบเอ่ยขึ้นเพื่อตัดปัญหา
“บอสออกไปทานมื้อกลางวันกับคุณมินตราเถอะค่ะ” อิงฟ้าบอกด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ดลภพมองหน้าเธออีกครั้ง ก่อนที่เขาจะหันไปบอกกับมินตราที่ยืนเกาะแขนไม่ยอมปล่อย
“งั้น!!!..เชิญครับ...คุณมินตรา” ดลภพรีบบอก
อิงฟ้าได้แต่ยืนมองแผ่นหลังของดลภพที่เดินเคียงคู่ไปกับมินตราด้วยความรู้สึกเจ็บปวด เธอจำต้องทานมื้อเที่ยงคนเดียวในร้านอาหารที่อยู่ใกล้ ๆ กับตึกของบริษัท ความรู้สึกโดดเดี่ยวและพ่ายแพ้เริ่มถาโถมเข้ามาในใจ
หลังมื้อเที่ยงเสร็จสิ้นพอกลับมาที่โต๊ะทำงาน อิงฟ้าก็รีบโทรหาเจนนิสาทันที เธอเล่าให้เพื่อนฟังเป็นฉาก ๆ เสียงกัดฟันดังลอดมาจากปลายสาย หลังจากที่อิงฟ้าเล่าเรื่องการปรากฏตัวของมินตราในช่วงกลางวันให้เพื่อนสนิทฟัง
“อีผู้หญิงคนนี้มันร้ายไม่เบา เดี๋ยวได้เจอฉัน!” เจนนิสาคำรามเสียงต่ำอย่างไม่พอใจแทนเพื่อนรัก
“ใจเย็นๆ สิเจน เราทำอะไรตอนนี้ไม่ได้หรอก คุณภัสสรเชียร์ออกนอกหน้าซะขนาดนั้น” อิงฟ้าพยายามห้ามเพื่อน ทั้งที่ในใจตัวเองก็ร้อนรุ่มไม่แพ้กัน
“แล้วท่าทีของบอสแกล่ะ เค้าดูสนใจแม่นั่นหรือเปล่า” เจนนิสาถามด้วยน้ำเสียงจริงจังขึ้นมาทันที
“อื้มมมม!!!...ก็ดูเฉยๆ นะแก” อิงฟ้าตอบพลางนึกย้อนถึงสีหน้าของดลภพ ที่ไม่ได้แสดงความยินดียินร้ายอะไรเป็นพิเศษยามที่เห็นมินตรา
“งั้นก็ดีล่ะ! ฉันว่าแกรีบปิดจ๊อบเถอะ ไม่ต้องรอล่ะ” เจนนิสากลับลำแผนการอย่างรวดเร็ว
“ห๊า!!!...วันนั้นยังห้ามฉันอยู่เลย ไหง!!!...วันนี้มายุซะแล้วล่ะ” อิงฟ้าอุทานด้วยความแปลกใจ ก่อนจะหลุดหัวเราะออกมาเบาๆ กับความใจร้อนของเพื่อน
“ก็กลัวแม่นั่นมาคาบคุณดลย์ไปแดกน่ะสิ!” เจนนิสาพูดอย่างไม่รักษาน้ำใจ ทำให้อิงฟ้านึกภาพตามแล้วก็อดขำไม่ได้ แต่ก็เข้าใจในความหวังดีของเพื่อน
“ว่าแต่แม่นี่ชื่ออะไรเหรอ แล้วเป็นใครกัน ถึงได้มาสนิทกับแม่ของคุณดลย์ได้” อิงฟ้าถามด้วยความสงสัย เธอรู้ดีว่าการที่ คุณภัสสรสนับสนุนขนาดนี้ย่อมไม่ใช่คนธรรมดาแน่ ๆ
“เธอชื่อมินตรา เป็นลูกสาวท่านรัฐมนตรี น่าจะรู้จักกันจากการออกงานสังคมนั่นแหละ” อิงฟ้าบอกข้อมูลให้เพื่อรรับรู้
“อ๋อ...ยัยคนนี้นี่เอง ข่าวลือว่าเรียนไม่จบด้วยนี่”
“อื้มใช่!!!....เดี๋ยวเลิกงานเราค่อยคุยเรื่องนี้กันอีกทีนะ” อิงฟ้ารีบบอกเพื่อน เพราะได้ยินเสียงพนักงานเริ่มกลับเข้าออฟฟิศกันบ้างแล้ว เธอไม่อยากให้ใครได้ยินบทสนทนาที่สำคัญนี้
หลังจากวางสาย อิงฟ้านั่งนิ่งอยู่พักหนึ่ง สมองของเธอกำลังประมวลผลข้อมูลที่ได้รับมาทั้งหมด มินตรา...ลูกสาวท่านรัฐมนตรี คู่แข่งที่ดูมีภาษีเหนือกว่าเธอทุกด้าน! แต่นั่นยิ่งจุดประกายความท้าทายในตัวอิงฟ้า เธอไม่ได้เป็นคนยอมแพ้อะไรง่ายๆ อยู่แล้ว โดยเฉพาะเรื่องของหัวใจ