บท
ตั้งค่า

16 ช่วยเพื่อนให้สมหวัง

13.00 น.

อิงฟ้าเงยหน้าขึ้นมองนาฬิกาบนผนังห้องอย่างใจจดใจจ่อ เธอแทบจะนับถอยหลัง ที่ดลภพจะกลับมาจากทานมื้อเที่ยง ไม่นานนักดลภพก็กลับเข้ามาทำงานในช่วงบ่ายเศษ ๆ อิงฟ้าถือโอกาสรวบรวมเอกสารสำคัญที่รอการเซ็นอนุมัติ เดินเข้าไปหาเขาในห้องทำงานทันที

“อันนี้เป็นเอกสารการอนุมัติ งบประมาณประจำปีค่ะ แล้วด้านล่างเป็นเอกสารการแต่งตั้งเลขาฯ ค่ะ” บอสหนุ่มเงยหน้าขึ้นจากเอกสารที่อยู่ตรงหน้า สายตาคมกริบมองมาที่เธอ อิงฟ้ายืนมองเขาด้วยสีหน้าปกติ ดลภพเปิดดูอย่างรวดเร็ว ก่อนจะหยิบปากกาขึ้นมาเซ็นชื่อ

ในขณะที่เขากำลังเซ็นเอกสารนั้น ดลภพก็เอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย ทว่าแฝงความสนใจบางอย่างที่อิงฟ้าสัมผัสได้

“เมื่อกลางวันคุณไปทานมื้อเที่ยงที่ไหน” คำถามของเขาทำให้อิงฟ้ารู้สึกดีใจขึ้นมาเล็กน้อย อย่างน้อยเขาก็ยังสนใจว่าเธอไปทานข้าวที่ไหน ไม่ได้สนใจแค่มินตราเพียงคนเดียว

“ก็...แถวๆ นี้ ค่ะบอส” อิงฟ้าตอบ แอบอมยิ้มน้อยๆ

“ได้ออกไปข้างนอกหรือเปล่า”

“เปล่าค่ะ ฉันเดินไปทานร้านตรงข้ามกับตึกใกล้ ๆ นี้เองค่ะ” เธอตั้งใจเน้นคำว่า 'ตรงข้ามกับตึก' เพื่อให้เขารู้ว่าเธอไม่ได้ไปไหนไกลนอกเหนือคำสั่ง

“ไปทานคนเดียวเหรอ” เขาถามเสียงทุ้ม แววตาคมกริบเหลือบมองใบหน้าสวย อิงฟ้าเงียบไปชั่วครู่ก่อนตอบ

“ค่ะ...ทานคนเดียว” เธอตอบด้วยน้ำเสียงที่เจือความน้อยใจเล็กน้อย เพื่อให้เขาได้รับรู้ถึงความรู้สึกของเธอ

“ปกติก็ทานกับพี่อารี แต่ว่าตอนนี้พี่อารีก็ไม่อยู่เสียแล้ว” ดลภพวางปากกาลง เขาเงยหน้าขึ้นมองอิงฟ้าเต็มตัว สายตาของเขาจับจ้องอยู่ที่ใบหน้าของเธอ ราวกับกำลังพิจารณาอะไรบางอย่าง

“ก็แค่ครั้งนี้ครั้งเดียว” เขาพูดสั้นๆ แต่แฝงด้วยคำสั่งที่ยังคงเป็นปกติไม่เปลี่ยนแปลง นั่นหมายถึงมื้อเที่ยงที่ผ่านมากับมินตราเป็นเพียงข้อยกเว้นเฉพาะวันนี้เท่านั้น

“ต่อไปคุณก็ออกไปทานกับผมเหมือนเดิม” อิงฟ้าพยักหน้ารับอย่างเข้าใจ แม้จะดีใจที่เขาจะพาเธอไปทานข้าวเหมือนเดิมในช่วงเที่ยง แต่ภาพของเขากับมินตราที่เดินเคียงข้างกันออกไปจากตึกเมื่อกลางวันก็ยังคงทำให้อิงฟ้ารู้สึกเป็นกังวลอยู่ดี

“แล้วคุณมินตราล่ะคะ” อิงฟ้าเอ่ยถามออกไปอย่างไม่ตั้งใจ น้ำเสียงของเธอเจือความประชดประชันและแฝงความหึงหวงเล็กๆ เอาไว้ โดยที่เธอเองก็ไม่รู้ตัว ดลภพเงยหน้าขึ้นพร้อมกับยื่นแฟ้มเอกสารที่เซ็นเสร็จแล้วคืนให้เธอ ดวงตาคมกริบจ้องมองมาที่เลขาฯ สาว ใบหน้าคมยังคงเรียบเฉย แต่รับรู้ถึงความรู้สึกของเธอ

“ถามทำไม” เขาเอ่ยสั้นๆ ด้วยน้ำเสียงที่ทำให้เธอรู้สึกประหม่าขึ้นมาทันที

“อ๋อ...เปล่าหรอกค่ะ คือฉันเกรงใจน่ะค่ะ” อิงฟ้ารีบแก้ตัว เธอพยายามซ่อนความรู้สึกหึงหวงไว้ภายใต้คำว่า 'เกรงใจ'

ดลภพมองเธอครู่หนึ่ง ก่อนจะกลับไปสนใจเอกสารบนโต๊ะก่อนหน้านี้ พลางเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่ทำให้หัวใจของอิงฟ้าเต้นแรงขึ้นมาอีกครั้ง

“มินตรา...เธอคงไม่ได้มาที่นี่ทุกวันหรอกน่า” คำพูดนั้นทำให้อิงฟ้าแอบอมยิ้มเล็กน้อย

“ถึงจะมาทุกวัน ผมก็จะต้องพาคุณออกไปด้วย” ดลภพพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น ไม่มีการลังเลใดๆ ราวกับเป็นการประกาศว่า จะไม่มีใครเข้ามาแทนที่เธอ เพียงแค่ประโยคสั้น ๆ ที่เขาเอื้อนเอ่ย ก็ทำให้รอยยิ้มเล็ก ๆ เมื่อสักครู่นั้น แปรเปลี่ยนเป็นความดีใจอย่างสุดซึ้งจนแทบจะร้องตะโกนออกมา

อิงฟ้าถึงกับตาโต หัวใจของเธอเต้นรัวอย่างบ้าคลั่ง ความน้อยใจเมื่อครู่มลายหายไปสิ้น แทนที่ด้วยความรู้สึกอบอุ่นที่เอ่อล้น เธอเงยหน้ามองดลภพด้วยแววตาซาบซึ้งใจ

อิงฟ้าก็เดินออกมาจากห้องทำงานของเจ้านายด้วยรอยยิ้มที่สดใส ไม่ว่ามินตราจะมาไม้ไหน หรือคุณภัสสรจะสนับสนุนมากเพียงใด เธอก็จะไม่ยอมแพ้ เพราะคำพูดของดลภพเมื่อครู่คือสัญญาณที่ชัดเจนที่สุดว่าเธอมีสิทธิ์ในหัวใจของเขาแล้ว...

17.00 น.

เมื่อถึงเวลาเลิกงาน ดลภพเก็บเอกสารลงกระเป๋าเตรียมกลับบ้าน เขากวาดสายตามายังอิงฟ้าที่กำลังเก็บของอยู่

“เย็นนี้เพื่อนคุณจะมารับหรือเปล่า” ดลภพเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง แต่แววตายังคงฉายความเป็นห่วง

“มารับค่ะ” อิงฟ้าตอบรับทันที

“งั้นผมกลับก่อนนะ” เขาพูดสั้นๆ พลางพยักหน้าให้เล็กน้อย

“ค่ะบอส” อิงฟ้าตอบรับด้วยรอยยิ้มสดใส เธอมองตามหลังเขาไปจนลับสายตา ไม่นานนักอิงฟ้าก็รีบเก็บของ ก่อนจะเดินออกมารอเพื่อนที่ด้านหน้าตึก ระหว่างที่รถของเจนนิสาแล่นออกไปจากตึก JSK กรุ๊ป ก็มีรถนักสืบขับตามออกไป ช่วงนี้นักสืบเตโช กำลังตรวจสอบพฤติกรรมของเจนนิสาและตรีทศ รวมไปถึงอิงฟ้าด้วย

Tiger bar

ช่วงกลางดึกของคืนนั้น แสงสลัวของโคมไฟในบาร์หรูสาดส่องลงบนร่างของเจนนิสา และตรีทศที่กำลังนั่งผ่อนคลายในโซนวีไอพี ทั้งคู่จิบไวน์แดงรสละมุนพลางปล่อยใจไปกับเสียงเพลงที่คลอเบา ๆ บรรยากาศเงียบสงบช่วยปลอบประโลมความเหนื่อยล้าจากการทำงานหนักมาตลอดทั้งวัน

ในขณะที่ทั้งสองกำลังเพลิดเพลินกับการสนทนาอยู่ ทันใดนั้นร่างสูงสง่าของ เตโชนักสืบเอกชนก็ก้าวเข้ามาในโซนวีไอพี ดวงตาคมกวาดมองไปทั่วบริเวณ ก่อนจะเดินตรงไปยังโต๊ะที่เจนนิสาและตรีทศนั่งอยู่

“ขอโทษนะครับ พอดีโต๊ะนี้ผมจองแล้ว” เจนนิสาเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อยมองชายหนุ่มตรงหน้า พร้อม ๆ กับตรีทศ

“แต่โต๊ะนี้เราสองคนก็จองเอาไว้นะคะ” เตโชก็เริ่มต้นแผนการของเขาอย่างแนบเนียน โดยการรีบสอดมือเข้าไปที่ขอบโต๊ะอย่างไม่ตั้งใจ และในชั่วพริบตาเดียว เครื่องดักฟังขนาดจิ๋วก็ถูกแปะติดเอาไว้ใต้โต๊ะอย่างรวดเร็วและไร้ร่องรอย

“โอ้...ต้องขอโทษด้วยครับ” เขาเอ่ยเสียงนุ่มนวล เมื่อภารกิจสำเร็จ เขายกมือขึ้นลูบท้ายทอยเล็กน้อย แสดงท่าทางเขินอายเพื่อกลบเกลื่อนสิ่งที่ทำลงไปเมื่อสักครู่

“พอดีผมลืมไปว่าโต๊ะที่จองไว้น่าจะอยู่อีกฝั่งหนึ่ง พอดีผมเองก็นัดเพื่อนไว้ที่โซนนี้เหมือนกัน”

“แย่จริง ๆ เลย...ต้องขอโทษพวกคุณอีกครั้งนะครับ” ทั้งสองพยักหน้ารับเล็กน้อยและไม่ได้ติดใจอะไร

หลังจากเตโชเดินจากไปทั้งสองก็เข้าสู่บทสนทนาเหมือนเดิม เตโชเดินไปนั่งอีกฝากหนึ่ง เขาใส่หูฟังเพื่อรับฟังบทสนทนาของทั้งคู่อย่างใกล้ชิด

“อิงฟ้ามีคู่แข่งแล้วนะพี่ตรี” เจนนิสาเอ่ยขึ้น พลางจิบไวน์ในแก้ว ตรีทศที่นั่งโอบไหล่แฟนสาวพลางเอามือลูบหัวไหล่เนียนเบา ๆ อย่างอารมณ์ดี

“ใครกัน”

“เธอเป็นลูกรัฐมนตรีค่ะ” เจนนิสาตอบด้วยน้ำเสียงที่เจือไปด้วยความกังวลแทนเพื่อน

“งานเข้าเลยสิ...ลูกรัฐมนตรีซะด้วย” ตรีทศพยักหน้าอย่างเข้าใจ

“พี่ตรีคะ เจนรู้สึกไม่สบายใจเลยเรื่องอิงฟ้า” เจนนิสามองหน้าแฟนหนุ่มอย่างจริงจัง

“พี่รู้!!!...ว่าเจนเป็นห่วงเพื่อน แต่เราจะไปทำอะไรได้ เรื่องแบบนี้มันขึ้นอยู่กับคุณดลภพเค้า” ตรีทศพูดอย่างใจเย็น

“ไม่รู้ล่ะ! พี่ตรีจะต้องหาทางช่วยเจน เจนจะไม่ยอมให้นางนั่น มาแย่งคุณดลย์ไปจากเพื่อนของเจน” เจนนิสาพูดอย่างมุ่งมั่น ดวงตาเป็นประกายด้วยความเด็ดเดี่ยว ตรีทศถึงกับถอนหายใจออกมา ก่อนจะขอตัวแฟนสาวไปเข้าห้องน้ำ
ดาวน์โหลดแอปทันทีเพื่อรับรางวัล
สแกนคิวอาร์โค้ดเพื่อดาวน์โหลดแอปHinovel