13 เธอต้องการอะไร
อิงฟ้ายืนนิ่งอยู่กลางห้องทำงานของดลภพ หัวใจของเธอเต้นรัวราวกับจะหลุดออกมาจากอก คำถามของเขาเมื่อครู่ยังคงก้องอยู่ในหู เธอรู้ดีว่าเขาต้องแอบตามเธอกับเพื่อนไปที่นั่น และเขากำลังสงสัย
“เอ่อ...ก็แถวๆ นี้ค่ะ” อิงฟ้าตอบเสียงอ้อมแอ้ม พยายามหลบสายตาคมกริบของเขา เธอเลือกที่จะตอบแบบคลุมเครือที่สุดเท่าที่จะทำได้ ดลภพเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย ใบหน้ายังคงเรียบเฉย แต่แววตาของเขาบ่งบอกถึงความไม่พอใจที่เห็นได้ชัด
“ผมถามว่า...ที่ไหน” เขาเน้นย้ำคำถามเหมือนรู้ว่าเธอไปที่ไหนมา แต่ละคำชัดเจนและหนักแน่น จนอิงฟ้าแทบจะสำลัก เลขาฯ สาวยืนกัดริมฝีปากแน่น เธอรู้ว่าไม่มีทางเลี่ยงอีกแล้ว ก่อนจะตัดสินใจบอกเขาไปตามตรง
“บริษัทเน็กซัส วัน ค่ะ” อิงฟ้าตอบเสียงเบาหวิว ราวกับกระซิบ
“พอดีเพื่อนฉันทำงานอยู่ที่นั่นค่ะ เธอแวะไปเอาของก่อนที่เราจะออกไปทานมื้อกลางวันกัน” เธอรีบเสริมเหตุผลอย่างรวดเร็ว พยายามทำสีหน้าให้ดูบริสุทธิ์ใจที่สุด ใครจะไปรู้ล่ะ ว่าคู่แข่งบริษัทของเขาจะเป็นเน็กซัส วัน
ดลภพมองเธอด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความไม่เชื่อถือ เขาลุกขึ้นจากเก้าอี้ก้าวเข้ามาใกล้ จนอิงฟ้าสัมผัสได้ถึงไออุ่นจากตัวเขา
“คุณกำลังวางแผนอะไรอยู่” ดลภพเอ่ยถามเสียงเข้ม ดวงตาคู่คมจ้องลึกเข้ามาในดวงตาของเธอ ราวกับจะอ่านใจเธอให้ทะลุปรุโปร่ง
“เปล่าๆ นะคะ! ฉันไม่เคยวางแผนอะไรเลย” อิงฟ้ารีบปฏิเสธเสียงสูง เธอพยายามทำสีหน้าตกใจให้ดูเป็นปกติมากที่สุดเท่าที่จะทำได้
“คุณรู้มั้ยว่า เน็กซัส วัน เป็นบริษัทคู่แข่งของ JSK กรุ๊ป” อิงฟ้ารับรู้ถึงความไม่พอใจในน้ำเสียงของผู้เป็นนาย เธอสบตาเขาเพื่อแสดงความบริสุทธิ์ใจ
“พอจะทราบบ้างค่ะ” เธอพยายามปิดบังความกังวลในใจ ก่อนจะรีบยืนยันความบริสุทธิ์อีกครั้ง
“เพื่อนฉันทำงานอยู่ที่นั่นเราแค่แวะไปเอาของ จริง ๆ ค่ะ” ดลภพจ้องมองเธออีกครู่หนึ่ง ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ ราวกับกำลังชั่งใจอะไรบางอย่าง เขายังคงไม่เชื่อเธอสนิทใจ แต่ก็ไม่ได้คาดคั้นต่อในตอนนี้ ก่อนจะทิ้งคำถามสุดท้าย
“คุณเป็นใครกันแน่ อิงฟ้า” ดลภพเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงที่เบาลง แต่กลับแฝงความหมายบางอย่างที่ทำให้หัวใจของอิงฟ้าสั่นสะท้าน เขากำลังสงสัยในตัวเธอมากกว่าที่เธอคิด
“ฉันก็เลขาฯ ของคุณยังไงคะ” อิงฟ้าตอบกลับด้วยเสียงเรียบ พยายามทำตัวให้เป็นปกติที่สุด เธอรู้ดีว่านี่คือบทบาทที่เธอต้องสวมไว้ให้แนบเนียนที่สุด ดลภพมองอิงฟ้าอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะเดินกลับไปที่โต๊ะทำงานของตัวเอง
“ต่อไปนี้ช่วงพักกลางวัน ผมไม่อนุญาตให้คุณออกไปที่อื่น คุณต้องออกไปทานมื้อกลางวันกับผมเท่านั้น” ดลภพเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงที่บ่งบอกถึงคำสั่งที่เด็ดขาด
อิงฟ้าถึงกับตาโตเล็กน้อย เธอไม่ได้คาดคิดว่าเขาจะออกคำสั่งแบบนี้! ใจหนึ่งก็ดีใจที่จะได้อยู่ใกล้ ๆ เขา แต่อีกใจหนึ่งก็กังวลว่าเขาต้องสงสัยอะไรบางอย่างในตัวเธอแน่ ๆ
“ค่ะ” อิงฟ้ารับคำสั้นๆ เธอไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องทำตามคำสั่งของเขาไปก่อน
“คุณไปทำงานได้แล้ว” ดลภพเอ่ยขึ้นเพื่อยุติบทสนทนา
อิงฟ้าเดินออกมาจากห้องทำงานของดลภพด้วยความรู้สึกที่ปะปนกันไปหมด เธอดีใจที่เขาออกคำสั่งแบบนั้น แต่ก็กังวลว่าความลับของเธอจะถูกเปิดเผยในไม่ช้า การออกไปทานมื้อกลางวันกับเขาบ่อยขึ้น อาจทำให้เธอต้องระมัดระวังตัวมากขึ้นเป็นทวีคูณ
เย็นวันนั้นเมื่อถึงเวลาเลิกงาน เจนนิสาก็ขับรถมารอรับอิงฟ้าก่อนเวลาเล็กน้อยที่หน้าตึก JSK กรุ๊ป เพราะวันนี้เธอมีนัดทานมื้อค่ำกับตรีทศแฟนหนุ่ม อิงฟ้าก้าวขึ้นรถด้วยสีหน้ากังวลเล็กน้อย เลขาฯ สาว เหลือบมองไปยังชั้นที่ตัวเองทำงานอยู่ ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ วันนี้ดลภพกลับบ้านก่อนเธอเสียอีก และสั่งงานเธอกองเบ่อเริ่มราวกับโกรธแค้น
จากมุมหนึ่งของลานจอดรถดลภพที่ออกมาจากที่ทำงานก่อนอิงฟ้าเพียงเล็กน้อย เขาไม่ได้กลับบ้านอย่างที่บอกเธอ แต่แอบมาซุ้มดูพฤติกรรมของเลขาฯ สาวคนนี้ต่างหาก เขาแอบถ่ายภาพรถคันดังกล่าวที่มารับอิงฟ้าพร้อมเลขทะเบียนเอาไว้อย่างชัดเจน ก่อนที่รถคันนั้นจะแล่นออกไปจากสายตา
“ทำไมแกไม่พาฉันกลับคอนโดก่อนล่ะเจน แล้วค่อยมาส่งฉันที่บ้านเย็นๆ ก็ได้ เดี๋ยวนี้คุณดลย์เริ่มสงสัยแล้วอะ” อิงฟ้าเอ่ยขึ้นเมื่อเห็นว่าไม่ใช่เส้นทางที่จะไปคอนโดของเพื่อน แต่เป็นเส้นทางกลับบ้านของเธอ เจนนิสาเหลือบมองเพื่อนรักก่อนจะยิ้มอายๆ แล้วตอบอย่างอ้อมแอ้ม
“แค่วันนี้วันเองไม่เป็นไรหรอก ก็คุณตรีทศนะสิ จู่ๆ ก็มารอฉันที่คอนโดอะ” เจนนิสารีบโกหกเพื่อน เพราะถ้าบอกมีนัดกับแฟนก็กลัวเพื่อนจะแซว
“แหม่! อิจฉาคนมีความรักจริง ๆ แล้วจะไปไหนกันล่ะ” อิงฟ้าแกล้งแซวกลับไปแต่ได้คำตอบเกินคาด
“ก็กินข้าว ฟังเพลงอะไรประมาณนั้นแหละ” เจนนิสาหลุดปากพูด
“นั่นไงล่ะ!!!...แกปิดฉันไม่ได้หรอกเจน เราคบกันมาตั้งกี่ปีแล้ว!!!” อิงฟ้าแกล้งทำเสียงดุก่อนจะยิงคำถามอย่างตรงไปตรงมา
“มีซัมติงปะ”
“บ้า!!!...ไม่มีหรอก” เจนนิสาหน้าแดงถึงใบหู รีบปฏิเสธเสียงหลง
“ไม่เชื่อหรอก พักหลังๆ คุณตรีทศหลงแกอย่างกะอะไรดี” อิงฟ้าแซวกลับไปอีกครั้ง ใบหน้าของเจนนิสาแดงระเรื่อด้วยความเขินอาย อิงฟ้าหัวเราะเบาๆ เธอมัวแต่แซวเรื่องของเพื่อนจนลืมเล่าเรื่องที่ดลภพลากเข้าไปสอบสวนในห้องทำงานเมื่อช่วงบ่ายไปเสียสนิท
ไม่นานนัก รถของเจนนิสาก็เลี้ยวเข้ามาจอดที่หน้าคฤหาสน์หลังใหญ่โอ่อ่า อิงฟ้าโบกมือลาเพื่อน ก่อนจะก้าวลงจากรถและเดินเข้าไปในบ้านอย่างสบายใจ
ดลภพมองภาพนั้นด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความสงสัยระคนผิดหวัง เขารู้ดีว่าบ้านหลังใหญ่โตหลังนี้เป็นของใคร ทำให้ดลภพเดาได้ทันทีว่าอิงฟ้าไม่ได้พักอยู่คอนโดกับเพื่อนอย่างที่เธอบอก
ซีอีโอหนุ่มหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมาทันที ก่อนจะกดหาเบอร์ คุณเตโชนักสืบที่เคยใช้บริการเมื่อคราวที่แล้ว และนัดเจอกันที่ร้านอาหารแห่งหนึ่ง
“สวัสดีครับคุณดลภพ คราวนี้มีอะไรให้ผมรับใช้เหรอครับ” เสียงทุ้มแหบของเตโช นักสืบเอกชนเอ่ยทักทายอย่างคุ้นเคย
“ผมต้องการให้คุณไปสืบเรื่องของผู้หญิงคนหนึ่ง” ดลภพเอ่ยด้วยน้ำเสียงจริงจัง
“ผู้หญิงเหรอครับ!!!” เตโชถามกลับด้วยน้ำเสียงแปลกใจระคนขบขันเล็กน้อย เพราะปกติแล้วดลภพจะติดต่อเขาด้วยเรื่องธุรกิจหรืองานที่ไม่เกี่ยวกับผู้หญิง
“ใช่” ดลภพตอบสั้นๆ
“เธอเป็นเลขาฯ ของผมเอง” เขาบอกข้อมูลเพิ่มเติม โดยไม่ได้บอกชื่อของอิงฟ้า เตโชเงียบไปชั่วครู่ เหมือนกำลังประมวลผลข้อมูล
“มีเรื่องอะไรเหรอครับ” เขาถามด้วยความอยากรู้
“อย่าถามมาก คุณจะทำหรือไม่ทำ” ดลภพตอบกลับอย่างหงุดหงิด น้ำเสียงบ่งบอกชัดเจนว่าไม่ต้องการให้ซักไซ้มากความ
“ครับๆ ทำครับ” เตโชรีบรับคำทันที เมื่อรู้ว่าน้ำเสียงของดลภพเริ่มไม่พอใจ เขาไม่มีสิทธิ์ปฏิเสธงานของลูกค้ารายใหญ่อย่างดลภพอยู่แล้ว
“งั้นผมขอรายละเอียดเลยครับ...คุณดลภพ”